กองทุนนอกเริ่มเผ่นหนี ไม่มั่นใจการเมืองไทย!! ขายตัวใหญ่-เพื่อพักเงิน เพลย์เซฟคอยดูรบ.ใหม่

By : เอกยุทธ อัญชันบุตร

ตลาดหุ้นผันผวน หลัง "กองทุนนอก" ที่เข้ามาเล่น เริ่มไม่มั่นในการเมืองไทย ว่ากลุ่มใดจะเป็น "รัฐบาลใหม่" เพราะสามารถพลิกผันได้ตลอด เลยทำการ "ขายหุ้นตัวใหญ่ เพื่อพักเงิน" เพื่อ "เพลย์เซฟ" ไว้ก่อน "กูรูหุ้น" แนะอย่าเสี่ยง อย่าเล่นหุ้นใหญ่ช่วงนี้ รอลงแรงๆ ค่อยซื้อ

วันที่ 30 พ.ค. 2554 นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนว่า การที่ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวระดับ 100 เหรียญสหรัฐกว่าต่อบาร์เรล และราคาทองคำอยู่ที้ประมาณ 1,530 กว่าเหรียญ ทำให้ค่าเงินยูเอสผันแปรค่อนข้างเยอะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลกระทบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ และตลาดหุ้น สำหรับนักลงทุนก็อยากให้ติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินให้มากที่สุดในช่วงนี้ เพราะสัปดาห์ก่อนก็ได้รับผลกระทบ หุ้นติดลบ 2-3 วัน ก่อนจะรีบาวด์ขึ้นมา ถ้ามองในเชิงเทคนิค เป็น "เทคนิคัล รีบาวด์" เพราะดูภาวะทั่วไป พบปัญหาที่ยังรอ และยังไม่แตกเป็นฟองสบู่ คือปัญหายุโรปที่ประเทศกรีซ มีการประท้วงหนักของประชาชนเป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลและค่าเงินยูโร เพราะอาจมีการนำสินทรัพย์ออกมาขาย เพื่อชำระหนี้ หรือแม้แต่อิตาลี-สเปน ก็กำลังมีปัญหาเช่นกัน ทำให้เป็นตัวดึงปัญหาทั่วโลกให้เกิดวิกฤต เพราะเงินยูโรอ่อนค่าลง ทำให้ค่าเงินยูเอสแข็งค่า ซึ่งกระเทือนมาถึงตลาดหุ้นบ้านเราเป็นลูกโซ่

"นักลงทุนต้องมองอย่างใกล้ชิด เริ่มมีการ Cash out ขายหุ้นตัวใหญ่ออกไป ในกลุ่มพลังงาน-กลุ่มธนาคาร แต่ก็มีแรงซื้อคืนจากกองทุนบ้านเราบ้าง อีกทั้งที่หุ้นลงเมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะมีหลายกองทุนที่ยึดหลักว่าได้กำไร 10-12% จะปิดกองทุนนั้นๆ ทันที แต่เมื่อกลุ่มนี้เริ่มถอนตัว ก็จะมีเงินทุนใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นการตั้งกองทุนใหม่เข้ามาเช่นกัน โดยกำลังมองว่า จุดไหนที่น่ารับในช่วงสถานการณ์นี้"นายเอกยุทธกล่าว

นายเอกยุทธ กล่าวด้วยว่า ยิ่งมามองถึงสถานการณ์การเลือกตั้งในบ้านเรา ที่หลายคนมองว่า เริ่มไม่แน่นอนว่าใครจะกลับมามีอำนาจ เพราะสามารถพลิกผันได้ทุกเมื่อ และเมื่อตนได้ทำการสำรวจและสอบถามไปยังกองทุนต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนในไทย ก็เริ่มส่งเสียงตรงกันว่า "ขายตัวใหญ่เพื่อพักเงิน เพราะไม่มั่นใจทางการเมือง" จึงอยากให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นใหญ่ในช่วงนี้ แม้จะมีพื้นฐานดี แต่ให้หยุดรอซื้อดีกว่า เชื่อว่าใกล้เลือกตั้ง หรือกลางเดือนหน้าเป็นต้นไป 1.จะมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง ก็จะมีกำลังซื้อเพื่อต้อนรับรัฐบาลใหม่ 2.มีการทำ Window dressing ช่วงปิดไตรมาสที่ 2 ที่อาจทำให้หุ้นขยับขึ้นได้ นักลงทุนระยะกลาง-ระยะยาวก็รอซื้อสัปดาห์ที่ 1-2 ถ้าหุ้นตกลงมาแบบไม่มีเหตุผล หรือเหตุผลของต่างประเทศ ก็ทยอยซื้อได้

นายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า มีหุ้นหลายตัวอยู่ในข่ายเป็นหุ้นดีแต่เกี่ยวข้องการเมือง และเมื่อดูพฤติกรรมของเจ้าของหุ้น ก็เริ่มมีการทำกำไรออกไปเยอะ เช่น CPF, ESSO, IVL, BANPU, LPN, MAJOR ที่ช่วงหลังเห็นพฤติกรรมราคาหุ้นที่เคลื่อนไหว จะเห็นว่า ออเดอร์ที่เข้ามาซื้อเป็นออเดอร์เล็ก ๆ ระดับพันหุ้น-หมื่นหุ้น-แสนหุ้น แต่ถ้าเป็นออเดอร์ขายจะเป็นระดับหลายแสนหุ้น-ล้านหุ้นขึ้นไป ถ้าไม่เจ้าของขายเอง ก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นพวกนี้และขายออกมา ถ้าอยากจะเล่นช่วงนี้จริงๆ ก็เล่นหุ้นตัวใหม่ ๆ หรือหุ้นตัวเล็กที่เพิ่งเริ่มขยับ แต่ต้องกล้าตัดสินแบบทันที ไม่ใช่ตัดสินใจช้า กว่าจะซื้อได้ราคาก็วิ่งไปไกล กว่าจะขายหุ้นก็ตกลงมา

"จุดที่จะรอจริงๆ เพื่อความปลอดภัย ถ้าตกแรงๆ ไม่รู้จะเห็น 1,020-1,040 จุดหรือไม่ ถ้าถึงก็แนะนำให้ซื้อหุ้นท็อปเทน"นายเอกยุทธกล่าวทิ้งท้าย

สำหรับตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปิดที่ระดับ 1,076.50 จุด เพิ่มขึ้น 9.50 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 19,948 ล้านบาท