วันที่ 18 มกราคม 2564 พบกับแม่มดน้อยได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์....... เพี้ยงแม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ท่องเวหา ลมหนาว ลมเย็นๆ พัดมาอีกระลอกแล้ว  ตลาดหุ้น หวั่นไหวเล็กๆ บนตัวแปรบวกใหม่ๆยังไม่มี  SET ถอย ลงสิๆ นักลงทุน นักเก็งกำไร  จ้องตาเป็นมัน ลงสิ อิอิ   บริเวณ 1,500 จุดบวกลบ เป็นแนวรบ แนวรับ  ฝุ่นตลบ  มีไวรัส โควิด-19 ระบาด ก็มี วัคซีน ต้าน ที่สำคัญ คุงหมอ พยาบาลเมืองไทย เก่งกาจมากมาย  รักษาผู้ป่วย ติดเชื้อโควิด-19 หาย อัตราการเสียชวิตต่ำมากๆคร้า

          บ่ายวันนี้ ตลาดหุ้นไทย คงแกว่งตัว เหนือ 1500 จุด ดีไม่ดี อาจเหลือลบแค่หลักเดียว หรืออาจมาเหลือง ปิดเขียว ก็เป็นไปได้ หุหุ

          ปิดตลาดเช้า ดัชนีตลาดอยู่ที่1,508.09 จุด ลดลง 11.04 จุด  คิดเป็น 0.73%  มูลค่าการซื้อขาย 38,630.41 ล้านบาท

          ตัวแรกของปี  ปีฉลู  สำหรับหุ้นIPO JAK เทรดวันแรก วันนี้  ปิดเช้า ราคาหุ้นJAK ยืนที่ 2.08 บาท บวก 63 สตางค์  คิดเป็น 43.45% จากราคาไอพีโอ 1.45 บาท

          LEO แข็งมาก ขนาดเทรดในกรงเงินสดวันแรก   ปิดเช้า  ราคาหุ้นLEO ลดลง 0.78% สำหรับหุ้นLEO  แม่มดน้อย ใช้กระจกวิเศษ ส่องดูแล้ว พบว่า  เหล่าคนดัง ถือหุ้นLEO คนเพียบ คนละ 2 แสน 3 แสน 4 แสน  แถม หลายกองทุน ก็ร่วมถือหุ้นLEO ด้วย  ตอนนี้  แม่มดน้อย ว่า  มาคอยจับตามอง กำไรปี63  กำไรไตรมาส4/63 ว่า จะออกมา แล้ว WOWๆ เพียงใด

          OCEAN ใช้ระยะเวลา สะสมมานาน และแล้ว ก็ถึงเวลา กระชากลุย ฟืน ไฟ ได้ทีแล้ว  เช้าวันนี้  ราคาหุ้นOCEAN เฮี้ยนแรง ปิด 1.07 บาท บวก 0.08 บาท คิดเป็น8.08%

          UKEM บี้มานาน สะสมมานาน ในที่สุด ก็ติดเครื่อง ออกตัวแรง บวกไป 13.75% รอบนี้จะไปไกลได้แค่ไหน  โปรดติดตาม  เหอะๆ

          BGC ประเมินแนวโน้มตลาดบรรจุภัณฑ์คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติในปีนี้ หลังพัฒนาวัคซีนสำเร็จและเริ่มทยอยฉีดในบางประเทศ คาดส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว หนุนความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วเพิ่มขึ้น และยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเทรนด์สำคัญ พร้อมวางมาตรการดูแลพนักงานทุกส่วนในช่วง COVID-19 ระบาดระลอกใหม่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้า  

          ด้วยพลังของพ่อมดน้อย ดินแดนหยวนต้า  ส่งผลให้หุ้น PRIME มีแรงเก็งกำไรหนาแน่น  คึกคักเป็นพิเศษ หลังจาก ออกบทวิเคราะห์หุ้นPRIME  คาดกำไร 4Q63 จะทำ New High ที่ 90-100 ล้านบาท ทำให้กำไรทั้งปี 2563 อยู่ที่ 346-356 ล้านบาท}คาดการณ์กำไรเบื้องต้นปี 2564 ที่ 600-700 ล้านบาท คิดเป็น EPS 0.035-0.041 บาท อิง PER เฉลี่ยของบริษัทฯที่ 23 เท่า ได้ราคาเป้าหมายเบื้องต้น 0.81-0.95 บาท

          เรามองว่าบริษัทฯยังมีโอกาสเติบโตอีกมากทั้งแบบ Organic และ Inorganic เนื่องจาก Demand การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งาน EV Car และการ Digitalized ของอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยการเติบโตแบบ Inorganic อาจเป็นการเข้าซื้อโครงการ Adder ในไทย รวมไปถึงการเข้าประมูล Solar farm ในประเทศต่างๆ โดยสามารถกู้เงินทุนเพิ่มได้อีกมากจาก D/E ปัจจุบันที่ 1.08 เท่า เทียบกับนโยบายของบริษัทฯที่ 3.0 เท่า

          ทางเทคนิค แนวรับ 0.48 / 0.45 บาท แนวต้าน 0.57 / 0.60 บาท จุด Stop Loss ที่ 0.43 บาท

          NDR ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% บนเงื่อนไข โควิด-19ไม่ระบาดรุนแรงกว่าปัจจุบัน  -ภาพรวมของอุตสาหกรรมยางรถจักรยานยนต์ในปีนี้ คาดดีมานด์ดีกว่าปีก่อน  พร้อมชูกลยุทธ์บุกทั้ง Mass Market และ Niche Market ขณะที่ตลาดต่างประเทศเน้นเพิ่มตลาดให้กับลูกค้ากลุ่มเดิม

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***