HotNews : SCBS หั่นเป้า SET ปีหมูเหลือ 1,700-1,800 จุด ผวาศก.โลกชะลอตัว - กำไรบจ.หด

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (29 มกราคม 2562) SCBS หั่นเป้า SET ปีนี้ เหลือ 1,700-1,800 จุด จากเดิม 2,000 จุด หลังศก.โลกชะลอตัว - กำไรบจ. ลดลงคาด Q3/62 SET พีคสุด มองเป้า 1,800 จุด หลังเลือกตั้ง - สงครามการค้าโลก - ดอกเบี้ย - brexit คลี่คลาย - ฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามากสุด

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด SCBS เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีการปรับลดลประมาณการดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยในปีนี้ เหลือ 1,700-1,800 จุด จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 2,000 จุด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเกิดภาวะชะลอตัว และอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยในปีนี้ได้ประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ของไทยในปีนี้จะเติบโต ประมาน 3.8% จากการส่งออกในปีนี้จะเติบโต 3-5% จากเดิมคาด 8%

พร้อมกันนี้ได้มีการปรับลดประมาณการการเติบโตของกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (EPS GROWTH) ในปีนี้เติบโตเพียง 4-5% จากเดิมคาดโตประมาณ 8% เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในส่วนของกำไรจะมีการปรับตัวลดลง โดยกลุ่มพลังงานจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากราคาน้ำมัน โดยในปีนี้ได้ประเมินราคาน้ำมันที่จะเคลื่อนไหวในกรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้ คาดว่าในไตรมาสที่ 3/2562 จะเป็นช่วงที่ปรับตัวขึ้นไปสูงที่สุดในปีนี้ โดยมองอยู่ที่ 1,800 จุด เนื่องจากเป็นช่วงที่กระแสเงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาสู่ตลาดหุ้นไทย จากการที่สถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศคลี่คลายลง โดยในประเทศจะเป็นช่วงหลังจากประกาสผลการเลือกตั้ง และได้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ มองว่าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน , นโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ , การถอนตัวออกจากสหราชอาณาจักร (Brexit) จะมีความชัดเจนมากขึ้น และปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 1/2562 เป็นต้นไป และดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2562

“สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้เรามองว่าไตรมาสที่ 1 จะเป็นช่วงที่ยากที่สุด จากเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นความชัดเจนเลือกตั้ง สงครามการค้า นโยบายดอกเบี้ยสหรัฐ Brexit จะมีการเฉลยในช่วงนี้ โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 1 ดัชนีตลาดหุ้นจะอยู่ที่ 1,600-1,650 จุด และในไตรมาส 2 ปัจจัยดังกล่าว ก็จะคลี่คลาย จะส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลกลับมา และในไตรมาสที่3 จะพีคที่สุดส่วนในไตรมาสที่4 ก็อาจจะทำให้มีการขายทำกำไรลงได้ เพราะปีหน้าเศรษฐกิจโลกอาจจะมีการชะลอตัว”นายสุกิจกล่าว

นายสุกิจ กล่าวว่า ในทางตรงกันข้าม หากเหตุการณ์ต่างๆที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 1,500-1,550 จุด และราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกจากหุ้นกลุ่มดังกล่าว ซึ่งจะเป็นหุ้นที่ดึงตลาดลง

ด้านกลยุทธ์ในการลงทุนในปีนี้ แนะนำให้ลงทุนให้หุ้นกลุ่ม Domestic play โดยเน้นกลุ่มการลงทุนและการบริโภคในประเทศ และให้ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และอิเล็คทรอนิกส์ที่คาดว่าจะมีการเติบโตลดลง ส่วนน้ำหนักการลงทุนในไตรมาสที่ 1/2562 แนะนำให้ลงทุนให้หุ้นน้อยกว่า 50% ละในไตรมาสที่ 2-3/2562 จึงปรับเพิ่มขึ้นเป็น 60-70%

ขณะที่คาดภาพรวมผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 2562 จะดีกว่าปี 2561 โดยเชื่อว่าสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี ราคาเหมาะสมจะกลับมาให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น โดยมองโอกาสด้านบวกหากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวแรงเกินไป อาจส่งผลให้ธนาคารกลางหลัก เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดความเข้มงวดของนโยบายการเงิน หรือแม้กระทั่งหันกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลาย ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดการเงิน อย่างไรก็ดี ด้านความเสี่ยงก็ยังคงมีเช่นกัน หากธนาคารกลางสหรัฐฯยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป รวมถึง สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน กลับมารุนแรงขึ้นหลังจบช่วงพักรบ ก็จะส่งผลลบต่อตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม ยังคงประเมินว่าเงินทุนต่างชาติจะเริ่มทยอยเคลื่อนย้ายออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯมาที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market)

รวมถึงเงินทุนบางส่วนจะเคลื่อนย้ายออกจากหุ้นเศรษฐกิจยุคใหม่ (News Economy) เช่น หุ้นเทคโนโลยี มาที่หุ้นเศรษฐกิจยุคเก่า (Old Economy) เช่น การบริโภค สาธารณูปโภคพื้นฐาน เป็นต้น อย่างไรก็ดีในปี 2019 ยังไม่มีการบ่งชี้ถึงสภาวะถดถอยอย่างชัดเจนในประเทศเศรษฐกิจหลัก กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ซื้อ ตลาดหุ้นไทย ชอบกลุ่มธุรกิจด้านการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ในขณะที่ประเมินว่า ตลาดหุ้นจีนมีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น รอซื้อตลาดหุ้นสหรัฐฯหากมูลค่าเหมาะสมมากขึ้น และ แนะนำให้กระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น REIT และ IFF รวมถึง ทองคำ เพื่อลดความผันผวนของเงินลงทุน

SCBS