ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

HotNews: MAX เสาะหาธุรกิจใหม่เสริมทัพ -ล้มซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า PPTC ไม่กระทบ -SYMC เปิดทางไทม์ ดอทคอม ถือหุ้นเกิน40%

28 ก.ย. 2560 17:16:41 1,488

HotNews: MAX เสาะหาธุรกิจใหม่เสริมทัพ -ล้มซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า PPTC ไม่กระทบ

-SYMC เปิดทางไทม์ ดอทคอม ถือหุ้นเกิน40%

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 28 กันยายน 2560 ) -------- MAX ยกเลิกสัญญาซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำและไฟฟ้าขนาดเล็ก (PPTC) มูลค่า 454.12 ลบ. รับเงินมัดจำคืน 100 ลบ. แจงยกเลิกการเข้าลงทุนในPPTC ไม่กระทบ ระบุยังคงมุ่งมั่นตั้งใจมองหาธุรกิจต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น

SYMC คาดรายได้ปีนี้โตไม่ถึง10% หวังปีหน้าโต 12% หลังรับรู้โครงการMCT เต็มปี ,จ่อเปิดแผนธุรกิจปีหน้าหลัง"ไทม์ ดอมคอม"เข้าถือหุ้น คาดเข้าถือหุ้นเกิน40%

นายอิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) MAX เปิดเผยว่า ตามที่ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “ผู้ซื้อ”) ครั้งที่ 8/2559 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2559 ได้มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการลงทุนในหุ้นของบริษัท พีพีทีซี จากัด (PPTC) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตพลังงานไอน้ำและไฟฟ้าขนาดเล็ก จากบริษัท ปรีดา ปราโมทย์ จำกัด (“ผู้ขาย”) จำนวนไม่เกิน 3,190,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 21.50 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ในราคาหุ้นละ 142.333 บาท รวมเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 454,127,669.80 บาท พร้อมกับอนุมัติการชำระเงินมัดจำจำนวน 100 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ซื้อจะดำเนินการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของผู้ซื้อเพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุน และให้ผู้ขายขออนุมัติจากเจ้าหนี้สถาบันการเงินให้ยินยอมให้มีการซื้อขายหุ้น ซึ่งต่อมาที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2559 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนในหุ้นของ PPTC แล้วนั้น

ปัจจุบันทาง บริษัท ปรีดา ปราโมทย์ จำกัด ได้ทำหนังสือยกเลิกสัญญามายังบริษัทแล้วในวันที่ 19 กันยายน 2560 โดยมีสาเหตุเนื่องจากเจ้าหนี้สถาบันการเงินมิได้อนุมัติยินยอมให้ผู้ขายดำเนินการขายหุ้นที่ซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 13/2560 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 ได้พิจารณาแล้วมีมติรับทราบการยกเลิกสัญญาดังกล่าวของผู้ขาย พร้อมทั้งอนุมัติให้ลงนามในหนังสือข้อตกลงการบอกเลิกสัญญาโดยให้ลงนามพร้อมกับให้ผู้ขายจ่ายเงินคืนค่ามัดจำ

ทั้งนี้ บริษัทได้รับเงินค่ามัดจาคืนทั้งจานวน 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 27 กันยายน 2560

ขณะที่การยกเลิกการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังไอน้ำและไฟฟ้าขนาดเล็กในครั้งนี้ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใดๆต่อบริษัทปัจจุบันบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นตั้งใจมองหาธุรกิจและดำเนินการเข้าลงทุนในสายธุรกิจต่างๆที่คาดว่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้ถือหุ้น

นายธีรรัตน์ ปัณฑรสูตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่เกิน 10% ตามธุรกิจให้บริการด้านสื่อสารทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่การจะเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มบริษัท ไทม์ ดอทคอม เบอร์ฮาด (TIME dotCom Berhad) จากมาเลเซียนั้นจะไม่กระทบต่อธุรกิจ โดยบริษัทจะมีการแถลงแผนธุรกิจในต้นปี 61หลังจากมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ และแผนลงทุนหลังได้เงิน RO จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจจะยังคงเน้นทางด้านธุรกิจโทรคมนาคมต่อไป

ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่มไทม์ ดอทคอมฯ อยู่ระหว่างจะทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน (Partial Tender Offer) ของบริษัท ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จบริษัทก็จะเพิ่มทุนขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) เป็นไปตามแผนการหาพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยคาดว่าพันธมิตรจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 40%

"คาด ไทม์ ดอทคอม จะถือหุ้นของบริษัทเกิน 40% หลังทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ บางส่วน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-6 พ.ย. 60 จำนวนไม่ต่ำกว่า35% แต่ไม่เกิน37% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว และหลังจากบริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) มูลค่า 1,000ล้านบาท คาดขายหุ้นเพิ่มทุนเสร็จในเดือน ธ.ค.นี้" นายธีรรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมจับมือกับพันธมิตรมาเลเซีย และกัมพูชาเพื่อลงทุนโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ได้ทันที ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น

พร้อมกันนี้บริษัทคาดรายได้ปี61 เติบโต 12% จากปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะเน้นขยายฐานให้บริการโครงข่ายฯกับลูกค้าองค์กร และรับรู้รายได้จากโครงการระบบเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ (MCT Submarine Cable System) มากขึ้น โดยคาดสร้างรายได้ 150 ล้านบาท

สำหรับโครงการ MCT มีระยะทาง1,300 กิโลเมตร งบลงทุนรวม 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ 100% และยังได้รับการสนับสนุนจาก BOI ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับกำไรสุทธิที่ได้จาก MCT วงเงินไม่เกิน 988 ล้านบาท ระยะเวลา 8 ปี โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ ต.ค.นี้

----จบ----