สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 4 พ.ค. 2561 ) ---ชยันต์ อัคราทิตย์-ชญานี  โปขันเงิน 2 อดีตบิ๊กเอเชีย เวลท์ ยื่นฟ้องดำเนินคดี"รพี สุจริตกุล "เลขาฯSEC  มาตรา 157 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อศาลปกครอง งานนี้มีใช้หลักฐานปลอม เผยศาลปกครอง นัดไต่สวน 28 มิ.ย. นี้ มั่นใจศาลปกครอง จะรับฟ้องและดำเนินคดีทางกฎหมายกับเลขาธิการ ก.ล.ต.

         นายชยันต์ อัคราทิตย์ และนางสาวชญานี  โปขันเงิน  อดีตกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ เผยว่า ตามที่ได้มีการยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อ นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาตรา 157 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อศาลปกครอง เนื่องจากเลขาธิการ ก.ล.ต.  ใช้หลักฐานปลอมสั่งให้นายชยันต์ และนางชญานี เป็นบุคคลกรต้องห้ามในตลาดทุนเป็นระยะเวลา 1 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ต่อมาในช่วงเดือนกันยายน 2560  ซึ่งคดีฯอยู่ในระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่ง ก็ได้มีข้อพิสูจน์แน่ชัดว่า พยานหลักฐานที่ใช้ในการตัดสินให้นายชยันต์ และนางชญานี  เป็นบุคคลกรต้องห้ามในตลาดทุนนั้น เป็นพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้อง ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ และตามพรบ.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์  แต่ทาง กลต. กลับเพิกเฉยต่อหลักฐานดังกล่าว และยืนยันที่จะลงโทษตามคำสั่งเดิม

         หลังจากที่มีการดำเนินคดีฟ้องร้องข้างต้น ทั้งสองได้รับผลกระทบ จากเจ้าหน้าที่ กลต. ที่ได้พยามเข้าตรวจสอบข้อมูลของทั้งนายชยันต์ และนางชญานี กับทางบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์   โดยมีการสอบถาม ถึงหน้าที่การงานของทั้งสอง ตลอดจนมีการพูดคุยแสดงความคิดเห็นคล้ายกับจะให้เลิกจ้าง  และมีการขอรายละเอียด การรับส่ง และข้อความ รับส่งอีเมล ของพนักงานทั้งหมด รวมทั้งได้ขอผลตอบแทนของผู้บริหารทั้งหมด(รวมนายชยันต์ อัคราทิตย์ และนางสาวชญานี  โปขันเงิน) ซึ่งคาดว่าอาจจะหวังผลความได้เปรียบของรูปคดี

         ส่วนความคืบหน้าของการยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อ นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ  สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)นั้น ขณะนี้เรื่องคดีฯกำลังอยู่ในกระบวนการชั้นศาล และ รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม โดยศาลปกครองได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 28 มิถุนายน 2561  และคาดว่ามีโอกาสที่ศาลปกครอง จะรับฟ้องและดำเนินคดีทางกฎหมายกับเลขาธิการ ก.ล.ต.


         สาเหตุตนและนางชญานีต้องมาแถลงข่าวครั้งนี้   ก็เพื่อที่จะปกป้องความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของตนเอง และเพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการตรวจสอบแก่หน่วยงานกำกับดูแลที่อาจจะใช้อำนาจที่ปฏิบัติงานจนเกินขอบเขตหรืออาจใช้เพื่อกลั่นแกล้งรังแกผู้หนึ่งผู้ใด และเพื่อเป็นแนวทางให้กับบุคคลอื่นๆตลอดจนบุคคลกรในตลาดหุ้นถึงช่องทางการต่อสู้ความไม่เป็นธรรมที่ได้รับจากหน่วยงานดังกล่าว

         อย่างไรก็ตาม การยื่นฟ้องดำเนินคดีความกับนายรพี สุจริตกุลในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการเรียกร้องให้ทางกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมการใน ก.ล.ต. เพิ่มการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ก.ล.ต. ให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และมีการคานอำนาจให้มากขึ้น เพิ่มช่องทางการร้องเรียนในการกระทำอันอาจไม่เป็นธรรมแก่บุคคลของสำนักงาน ก.ล.ต. อีกทั้งเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทั้งนายชยันต์ และนางชญานี ซึ่งไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมจากหน่วยงานกำกับดูแล ดังนั้นการกระทำใดๆที่เข้าข่ายประพฤติชอบหรือละเว้น สามารถที่จะยื่นฟ้องยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลบาง และมีตัวอย่างแล้วถึงความเป็นธรรมที่บุคคลที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกได้รับจากศาลนี้

-- จบ --