Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

Krungthai Compass ส่งออกเดือน พ.ย. 2568ขยายตัว 7.1%YoY/ส่งออกไทยปี 69 จะพลิกกลับมาหดตัว จากผลของภาษีสหรัฐฯ และการแข่งขันในตลาดโลก

92

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 ธันวาคม 2568)-------------Key Highlights :


• มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 เติบโต 7.1%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ 5.7%YoY ส่วนหนึ่งสะท้อนการส่งออกทองคำที่หดตัวน้อยลง อย่างไรก็ตาม พบว่า Momentum รายเดือนแผ่วลงต่อเนื่อง สะท้อนผลจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น ด้านการนำเข้ายังขยายตัวสูงที่ 17.6%YoY ส่งผลให้การค้าขาดดุลที่ 2,726.86 ล้านดอลลาร์ สรอ.

• แนวโน้มในปี 2569 คาดว่าการส่งออกไทยจะกลับมาหดตัวที่ -1.0% จากผลของภาษีสหรัฐและการแข่งขันในตลาดโลกที่เข้มข้นขึ้น โดยติดตาม 1) ความไม่แน่นอนของการระบายสต็อกสินค้าของคู่ค้าในสหรัฐฯ ที่อาจทำให้คำสั่งซื้อลดลงเร็วกว่าคาด 2) การแข็งค่าของเงินบาทและ 3) ศาลสูงสุดสหรัฐอาจตัดสินให้ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่อาจทำให้เกิดช่วงปลอดภาษีชั่วคราว

--------------------------

มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 ขยายตัว 7.1%YoY

มูลค่าส่งออกเดือน พ.ย. 2568 อยู่ที่ 27,445.6 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 7.1%YoY เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 5.7%YoY แรงขับเคลื่อนมาจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อน สวนทางกับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ การส่งออกที่ขยายตัวเร่งขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะการส่งออกทองคำหดตัวน้อยลง เมื่อหักทองคำแล้ว มูลค่าส่งออกเดือนนี้ขยายตัวได้ 8.7%YoY ชะลอลงจาก 13.0%YoY ในเดือนก่อน
• การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 12.2%YoY เร่งขึ้นจาก 8.8%YoY ในเดือนก่อน โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยสินค้าสำคัญที่เติบโต ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+68.0%) อัญมณีและเครื่องประดับ (+66.7%) และ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+59.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ (-13.6%) ผลิตภัณฑ์ยาง (-12.1%) และ เม็ดพลาสติก (-11.4%) เป็นต้น (รูปที่ 2)
• ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 9.5%YoY โดยสินค้าเกษตรหดตัว 15.7%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรหดตัว 2.3%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (-43.1%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (-28.8%) และเครื่องดื่ม (-19.9%) ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ (+171.4%) เนื้อหาและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ (+55.7%) และ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง (+20.3%) เป็นต้น

 


ส่งออกรายตลาดสำคัญขยายตัวในสหรัฐฯ-ยุโรป ขณะที่ตลาดจีนและญี่ปุ่นกลับมาหดตัวในเดือนนี้

• สหรัฐฯ: ขยายตัว 37.9%YoY เติบโตติดต่อกันเป็นเดือนที่ 26 โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และรถยนต์ เป็นต้น
• จีน: หดตัว 7.8%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 14 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง เคมีภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น คอมพิวเตอร์ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง และ ยางพารา เป็นต้น
• ญี่ปุ่น: หดตัว 8.9%YoY กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และ เครื่องจักรกล เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง อัญมณีและเครื่องประดับ และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
• EU27: ขยายตัว 12.0%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ และ เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
• ASEAN-5: ขยายตัว 5.7%YoY เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
• มูลค่าการนำเข้าเดือน พ.ย. อยู่ที่ 30,172.5 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัวสูงที่ 17.6%YoY เร่งขึ้นจาก 16.3%YoY เมื่อเดือนก่อน สินค้านำเข้าที่ขยายตัว เช่น อาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่น ๆ (69.7%YoY) สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (29.7%YoY) เป็นต้น ในขณะที่สินค้านำเข้าที่หดตัว เช่น สินค้าเชื้อเพลิง (-16.7%YoY) เป็นต้น ทั้งนี้ ดุลการค้าเดือน พ.ย. ขาดดุล 2,726.86 ล้านดอลลาร์ฯ

Implication:
Krungthai COMPASS คาดว่าการส่งออกไทยในปี 2569 จะหดตัวจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยเต็มปี
• ในเดือน พ.ย. 2568 Momentum การขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนยังมีแนวโน้มแผ่วลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้ากลุ่ม Low Local Content1 ที่ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และกลุ่ม High Local Content ที่หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 (รูปที่ 5)
• Momentum ของการส่งออกที่มีแนวโน้มแผ่วลง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม High Local Content ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับการผลิตและการจ้างงานภายในประเทศค่อนข้างสูงจะเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2569

ความเสี่ยงที่ต้องติดตามในปี 2569 ดังต่อไปนี้

(1) ความเร็วของการระบายสต็อกสินค้าของคู่ค้าสหรัฐฯ จากที่เคยเร่งนำเข้าในช่วงก่อนหน้ายังมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้คำสั่งซื้อชะลอตัวลงเร็วหรือมากกว่าคาด

(2) การแข่งขันแย่งส่วนแบ่งตลาดสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ ที่ทดแทนสหรัฐฯ อาจรุนแรงกว่าคาด โดยต้องติดตามปัจจัยที่กำหนดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง การแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลกระทบเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.2568 ทำให้ราคาสินค้าไทยแพงขึ้นมากกว่าคู่แข่ง และทำให้กำไรในรูปเงินบาทลดลง

(3) ศาลสหรัฐอาจพิจารณาตัดสินให้มาตรการภาษี Reciprocal Tariff ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาษีลดลงชั่วคราว ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะผลักดันมาตรการทางการค้ากลับมาใช้ผ่านช่องทางกฎหมายอื่นต่อไป

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เอาอะไรมาเติม? By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เชื่อว่า นักลงทุน จะเอาอะไรมาเติม เอาเงินมาจากไหนมาเติม ? สำหรับการลงทุนในปีม้า ปีหน้า...

พีที ส่งพลังกลับบ้าน เติมน้ำมัน รับฟรี เครื่องดื่มกระทิงแดง

พีที ส่งพลังกลับบ้าน เติมน้ำมัน รับฟรี เครื่องดื่มกระทิงแดง

IND เซ็นสัญญาจ้างที่ปรึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานหาดใหญ่ มูลค่า 21.29 ลบ. เสริมแบ็กล็อก-หนุนการเติบโต

IND เซ็นสัญญาจ้างที่ปรึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานหาดใหญ่ มูลค่า 21.29 ลบ.เสริมแบ็กล็อก-หนุนการเติบโต

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : บุกขุมทรัพย์ PCE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : บุกขุมทรัพย์ PCE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้