ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook
แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ Sentiment ตลาดหุ้นสหรัฐฯส่งสัญญาณมิกซ์ ขณะที่ไทยทรงตัว
KEY FINDINGS:
สหรัฐฯ: ดัชนี S&P500 รีบาวด์ 3.1% จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากแรงซื้อคืนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่เครื่องชี้วัดภาวะอารมณ์ตลาด (Sentiment Indicators) ส่งสัญญาณมิกซ์ โดยดัชนี Fear & Greed Index ฟื้นตัวขึ้นจากโซน Fear สู่โซน Greed สวนทางกับผลสำรวจ AAII มี Bull-Bear Spread ที่ลดลง
ไทย: ดัชนี SET แกว่งในกรอบแคบ สอดคล้องกับมาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ที่ทรงตัวในโซน Fear
US MARKET SENTIMENT TRACKER:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์ 3.1% จากสัปดาห์ก่อนหน้า จากแรงซื้อคืนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เชื่อมโยงกับ AI หลังถูกเทขายมาก่อนหน้านี้ ขณะที่เครื่องมือชี้วัด Sentiment ส่งสัญญาณมิกซ์ โดย CNN Fear & Greed Index ฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งจากโซน Fear สู่โซน Greed คะแนนปรับขึ้นจาก 40 คะแนนสู่ 58 คะแนน หนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของหลายองค์ประกอบย่อย อาทิ Market Momentum, Stock Price Strength และ Stock Price Breadth ที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ความผันผวนลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม Put/call Ratio ยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดที่ 0.60 ในวันที่ 15 ธ.ค. ล่าสุดอยู่ที่ 0.72 สะท้อนว่านักลงทุนยังคงมีความระมัดระวัง โดยมีการเพิ่มสถานะการป้องกันความเสี่ยงจากการปรับลงของตลาดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนของ AAII สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบต่อตลาดในช่วง 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนมีมุมมองฝั่ง Bullish ลดลงจาก 44.1% เหลือ 37.5% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 37.5%) ขณะที่มุมมองฝั่ง Bearish เพิ่มขึ้นจาก 33.2% เป็น 34.8% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 31.0%) ส่งผลให้ Bull-Bear Spread ปรับตัวลดลงจาก 10.9% สู่ระดับ 2.6%
THAI MARKET SENTIMENT TRACKER:
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบแคบบริเวณ 1,250-1,280 จุดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่มาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ค่อนข้างทรงตัว มาตรวัดปรับขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในโซน Fear ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่เจ็ด คะแนนปรับเพิ่มขึ้นจาก 38 คะแนนสู่ 39 คะแนน หนุนจากองค์ประกอบด้าน Bull-to-Bear ที่ปรับขึ้นจาก 35.9% สู่ 52.9% และ Momentum Strength ที่ปรับขึ้นจาก -11.1 สู่ -5.6 และความผันผวนตลาดที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของ Sentiment นั้นยังถูกถ่วงบางส่วนโดยดัชนี Volume Index ที่ปรับลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง
IMPLICATION:
การที่ Sentiment ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งสัญญาณมิกซ์ สะท้อนว่าตลาดยังคงอยู่ในโหมด Cautious Optimism เห็นได้จาก ค่า Put/Call Ratio ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.72 สะท้อนกว่านักลงทุนมีการ Hedging หรือซื้อประกันความเสี่ยงในบางส่วน
สำหรับตลาดหุ้นไทย การที่ BLS Greed & Fear Barometer เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และอยู่ในโซน Fear ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 สะท้อนถึง ภาวะขาดปัจจัยหนุน ส่งผลให้ตลาดไทยมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway ต่อไปในระยะสั้น
สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ดิ่งกลับลงมาใหม่ จาก DELTA และ KCE (กังวลต้นทุนขึ้น) รวมทั้ง JTS THAI นำลงมา พร้อมกับแรงขายในกลุ่มพลังงาน ไอซีที ส่วนแรงซื้อกลับมาเข้าธนาคาร (แต่ไม่แรง) และประกัน
แนวโน้มตลาดวันนี้
เสียง โฮ (ที่ไม่ใช่ โฮ่ โฮ่ โฮ่)
คาดวันนี้ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์สั้นๆ หลังกลับลงไปตั้งหลักเมื่อวาน (ยังไม่สามารถข้ามโซนไปไหนได้ ทั้งโซนกลับตัวขึ้น หรือ ลง แต่ใกล้จังหวะที่จะต้องเลือกทางเต็มทนแล้ว) และดูเหมือนมาตรการคุมบาทแข็ง ยังไม่เห็นผลในทันที แต่เริ่มเห็นสัญญาณที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้ม รีบาวด์ ระยะสั้น
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ติดตามชื่อประธานเฟดคนใหม่ อาจสร้างความประหลาดใจเชิงบวกต่อตลาดหุ้น (วอลเลอร์ คกก.ปัจจุบัน ที่มีมุมมองนโยบายผ่อนคลาย มีลุ้นเข้าเส้นชัย), พัฒนาการ เวเนซุเอลา-สหรัฐฯ และท่าทีสหรัฐฯ ต่อกรีนแลนด์ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์หาเรื่องใหม่มาให้คิดอีกแล้ว ด้านเดนมาร์ก เรียกฑูตสหรัฐพบทันที เป็นการตอบโต้ขั้นต้น
กลยุทธ์รอบนี้ เราเน้นไปที่การซื้อแล้วถือ และคอยเฝ้าพฤติกรรมราคาหุ้นที่เราแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งติดตามประเด็นที่มีผลบวกหรือลบ ต่อราคาหุ้นที่เราแนะนำ เพื่อตัดสินใจที่จะถือต่อ หรือ ขายตัดขาดทุน โดยจะรอดูจังหวะหาหุ้นเพิ่มเข้าพอร์ตเมื่อมั่นใจว่า ตลาดหุ้นไทยตั้งรับกับสถานการณ์ได้แล้ว และ เห็นโมเมนตั้มทำงาน ผลักดันราคาขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ “รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET Index ยังไม่สามารถผ่านจุดต้านสำคัญ 1,280 จุด ล่าสุดย่อลง test เส้น EMA 200 วัน อีกครั้ง โอกาสเคลื่อนออกข้าง sideway เพื่อรอจุดเปลี่ยน จุดที่น่าสังเกต หากลาก Trend line จาก high ที่ 1,345 จุด พบว่าดัชนี breakout ทะลุด่านย่อยแล้วย่อ throw back เพิ่อรอโอกาสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง (วันนี้ควรปิดเขียว) และมีความเป็นไปได้ที่จบคลื่นขาลง “Corrective wave” เพื่อเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่ จับตาด่านช้าง ด่านสำคัญโซนต้าน 1,280 หากทะลุได้ถึงจะเกิดสัญญาณกลับตัวขาขึ้นรอบใหม่ คงต้องเฝ้ารอกันต่อไป (Christmas day ตลาดเลือกปิดสีแดง)
Note: เรายังคงคาดว่าโซนรับ 1,250 แข็งแกร่ง…สู้ไหว
ไฮไลท์หุ้น: หุ้นแบงก์น่าซื้อตอนย่อ…ตอนนี้ขอรอไปก่อน!/ เขียวที่ทองแดง แต่มาแดง KCE / PTTGC รอบนี้ไม่ได้มาเล่นๆ /CPALL สะสมแต้ม All Member มานาน ขอเปลี่ยนมาสะสมหุ้นบ้าง / Pair trade: TOP & BCP / ขอใช้ DR01 เป็นกุญแจไขประตูสู่ตลาดโลก
What to watch
เกิดเหตุไฟไหม้ถังเก็บน้ำมัน 2 ถัง หลังถูกโดรนโจมตีท่าเรือรัสเซีย ไม่มีผู้บาดเจ็บ เพลิงไหม้กินพื้นที่ประมาณ 2,000 ตารางเมตร โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 ธ.ค.) โดรนของยูเครนได้โจมตีท่าเรือตามันในนิคมวอลนา ทำความเสียหายแก่สะพานเทียบเรือ 2 แห่ง และเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำ นอกจากนี้ ถังเก็บน้ำมันอีก 2 ถังยังได้รับความเสียหายจากเศษซากโดรนที่ถูกยิงตก ทั้งนี้ ท่าเรือเทมรูกและท่าเรือตามันเป็นเมืองท่าหลักในทะเลดำ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของรัสเซีย
"กรณ์" บี้ ตลท.-ก.ล.ต.ออกคำเตือนด่วนซื้อหุ้น 7 บจ.โยงแก๊งฟอกเงินเสี่ยงเข้าข่ายซื้อของโจร
ธปท. เตรียมเสนอ ครม.กรอบเงินเฟ้อไทยปีหน้า 69 คงไว้ที่ 1-3%
หลังแบงก์ชาติ ตรวจพบว่าการซื้อขายทองคำผ่านแอปพลิเคชั่น จาก 14-15 ผู้ให้บริการ คิดเป็น 50% ของ GDP (ถือว่าใหญ่มาก) และโตค่อนข้างเร็ว “ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มีการทำธุรกรรม FX ขายดอลลาร์ซื้อเงินบาท” ส่งผลให้บาทแข็ง โดยเฉพาะการซื้อขายถี่ ๆ ระดับวันละ 100-1,000 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ
เพราะผู้ค้าทอง 3-4 รายใหญ่ มีสัดส่วนถึง 8% ของวัน และในวันที่ราคาทองคำขึ้นลงสูง จะพบว่าธุรกรรม FX สูงขึ้น 20% ของตลาด และคิดเป็นกว่า 70% ของฝั่งขายดอลลาร์ทั้งหมด ทำให้เงินบาทแข็งค่ารุนแรง จึงจำเป็นต้องมีคนคุมและดูแล…
ล่าสุดกับมาตรการกับกำที่เข้มงวดเฉพาะ “ตลาดทองคำ” เราคาดว่าแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะสั้นมีโอกาสจะลดความผันผวนจากการแข็งค่า เนื่องด้วยธุรกรรม “ขายดอลล์ ซื้อบาท จากการซื้อขายทองคำผ่าน แอปพลิเคชั่น ต่างๆ” คาดจะมีแนวโน้มลดลง
เพราะเมื่อสืบมาถึงคนเล่นทองจะต้องรายงาน-นำส่ง ข้อมูลให้กับแบงก์ชาติ (คนเล่น ต้องรายงาน และถึงขั้นเปิดแหล่งที่มาของเงินได้ ในการใช้เล่นทองคำ) และเมื่อถึงขั้นตรวจสอบมาถึงคนเล่น อาจโดนตวรจสอบจากสรรพากร เพราะจะมีการเตรียมเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT) ซึ่งครอบคลุมบุคคลธรรมดา กลายเป็น KYC ผู้เล่นให้เข้มงวดขึ้นในทางอ้อม และเชื่อว่า ปริมาณการเก็งทองในตลาดทองไทย ควรจะลดลงเพราะ คลุมไปถึงเงินเทาๆที่ฟอกผ่านตลาดทอง ดังนั้นเมื่อปริมาณการเทรดทองลดลง ความจำเป็นในการ ทำธุรกรรม FX ของผู้ให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นน่าจะลดผลกระทบต่อค่าเงินบาทในทิศทางเดียวกัน
ส่วนผลกระทบต่อหุ้นไทย จากบาทที่ยังทรงตัวในระดับแข็งค่า (คล้ายกับจีนที่กำลังหาทางแก้ และปวดหัวกับเงินหยวนแข็งค่า) ระยะสั้นเรามองบวกต่อหุ้นไทย เพราะไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะมี มาตรการจำกัดเงินลงทุนไหลเข้าออก และเราก็ไม่สามารถ Fixed ค่าเงินผ่านการแทรกแซงได้แบบจีน
ด้านหุ้นไทย เราไม่แนะนำ ให้รีบเข้าเก็งกำไรหุ้นส่งออกเพราะเดาว่าเดี๋ยวบาทจะอ่อนค่า (เราอ่านทางว่าบาทยังไม่ยอมอ่อนค่าง่ายๆ) และด้วยเราเห็นมาตลอดว่า ราคาหุ้นกับกติกาทั่วไป-อาจใช้ไม่ได้ในช่วงนี้ เราจึงคงคำแนะนำ ถือเฉพาะหุ้นที่แนะนำ เช่น เพิ่มน้ำหนักหุ้นพลังงาน น้ำมัน และหุ้นท่องเที่ยวโรงแรม (ต่อเนื่อง)
หุ้นแนะนำวันนี้
TOP หุ้น Value PBV 0.46x ที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง 5.5% โดยส่วนต่างค่าการกลั่น และ Stock น้ำมัน สิ้นไตรมาสนี้ มีลุ้นสร้างงบ Positive surprise ให้กับตลาด
แนวรับ 35 ต้าน 36.5 Stop loss 34.5
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน