Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ส.อ.ท. หารือพรรคเพื่อไทย วางทิศทางอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต

98

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 ธันวาคม 2568 )-----นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ส.อ.ท. ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย นำโดย ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ที่ปรึกษารองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ผู้สมัครสส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายฉัตริน จันทร์หอม ผู้สมัครสส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เพื่อประชุมหารือแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย ณ ห้อง Passion (802) ชั้น 8 ส.อ.ท.

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเปรียบเสมือน "รถที่ติดหล่ม" ซึ่งต้องอาศัยพลังและมาตรการอย่างจริงจังในการฟื้นตัว สะท้อนถึงความจำเป็นในการเร่งขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้ไขปัญหาหนี้ เพิ่มสภาพคล่อง และผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศอีกครั้ง

ในโอกาสนี้ นายเกรียงไกรได้นำเสนอความท้าทายสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญ อาทิ มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ปัญหาสินค้าทุ่มตลาดและการสวมสิทธิ์ส่งออก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน หนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคธุรกิจ ค่าเงินบาทแข็งค่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนปัญหาธุรกิจสีเทาและอาชญากรรมไซเบอร์ รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น สังคมผู้สูงอายุ กับดักรายได้ปานกลาง ระบบการศึกษา การเมือง งบประมาณไม่สมดุล คอร์รัปชัน และกฎหมายที่ล้าสมัย

พร้อมกันนี้ ได้เสนอยุทธศาสตร์ยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่มาตรฐานสากล ผ่านแนวทาง "4GO" ประกอบด้วย
    1) Go Digital & AI ยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI
    2) Go Innovation สร้างผู้ประกอบการ "จิ๋วแต่แจ๋ว" ด้วยนวัตกรรม
    3) Go Global พัฒนาสินค้าและบริการไทย เพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดโลก
    4) Go Green ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและปรับตัวสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

แนวทาง 4GO อยู่ภายใต้นโยบาย ONE FTI ของ ส.อ.ท. ซึ่งมุ่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย โดยเน้นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ

นอกจากนี้ นายเกรียงไกรยังได้เสนอเป้าหมายการพัฒนาประเทศใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.  เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมุ่งยกระดับอันดับความสามารถการแข่งขันของไทยเข้าสู่ IMD Top 20
2.  ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ให้ GDP ขยายตัวในระดับ 5%
3.  การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เร็วกว่าเป้าหมายเดิม

ขณะเดียวกัน ส.อ.ท. ได้เสนอแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยใน 8 ด้านสำคัญ ครอบคลุมการปฏิรูปกฎหมายและกฎระเบียบ การพัฒนากำลังคนและผลิตภาพแรงงาน การบริหารจัดการพลังงาน การส่งเสริมการส่งออกและอุตสาหกรรมเป้าหมาย การยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์และพื้นที่อุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังมอบหนังสือ Reinvent Thailand ซึ่งเป็นข้อเสนอแนะที่รวบรวมให้แก่ภาครัฐนำไปปรับเป็นนโยบายที่ปฏิบัติได้จริง เพื่อร่วมสร้างอนาคตประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยภาคเอกชนจะเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน ส่วนภาครัฐสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับตัว และภาคการเงินช่วยจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ส.อ.ท. พร้อมสนับสนุน 6 Sectors ตั้งต้นที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทย
•  Smart Electronics เป็นฐานการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ชั้นกลาง–ปลายทางของบริษัทรายใหญ่ของโลก มีศักยภาพที่จะยกระดับไปสู่ฐานออกเเบบเเละนวัตกรรม
•  Automotive เป็นฐานการผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอาเซียนและมีห่วงโซ่อุปทานครบวงจรเเละเข้มเเข็ง พร้อมต่อยอดไปสู่การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เเละยานยนต์ระบบอัจฉริยะ
•  Retail & trading ตลาดค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายระดับรายได้และกระจายตัวทุกพื้นที่
•  Medical & Wellness มาตรฐานการให้บริการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีข้อได้เปรียบด้านวัตถุดิบในประเทศในการผลิตยาเเละเวชภัณฑ์
•  Agri & Food Processing มีความพร้อมด้านวัตถุดิบการเกษตรและมีห่วงโซ่ปลายน้ำ ตั้งแต่ต้น–ปลายน้ำ และมีโอกาสยกระดับสู่สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง
•  Tourism มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและอาหาร มีศักยภาพที่จะยกระดับเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวศักยภาพสูง

6 Sectors นี้จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน และ SMEs รวมทั้งเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม New S-Curve ที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่ม

"เราอยากเห็นประเทศไทยแข็งแรง ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ที่ผ่านมา อาจมีอุปสรรค และทำได้ไม่เป็นระบบ ส.อ.ท. ขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่มารับฟังข้อเสนอแนะวันนี้ หวังว่าสิ่งที่สะท้อนกลับไป จะเป็นประโยชน์สำหรับนำไปพิจารณาเขียนเป็นนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป

เราพร้อมที่จะทำงาน ช่วยเหลือและสนับสนุน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากมีพลังความร่วมมือ เราจะเป็น ONE TEAM, ONE THAILAND ที่แท้จริง เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้กับประเทศ" นายเกรียงไกร กล่าว

ด้านศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของพรรคฯ ว่า "สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คือ หน่วยงานเอกชนแห่งแรกที่พรรคเพื่อไทยมาพบเพื่อหารือและรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ซึ่งก่อนที่ตนจะได้มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น ได้เคยทำงานร่วมกันกับภาคอุตสาหกรรมมาก่อนในบทบาทของมหาวิทยาลัย รวมถึงได้ศึกษาข้อมูลทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมาล่วงหน้าแล้ว ซึ่งแนวทางของสภาอุตสาหกรรมฯ ที่นำเสนอนั้นสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย"

ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน กล่าวต่ออีกว่า ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ใหม่ (New Growth Engine) ให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) ต้องนำด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี AI ทุกรูปแบบมาใช้เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมจากผลกระทบทางด้านแรงงานและสังคมสูงวัย การส่งเสริมเส้นทางคมนาคมและโลจิสติกส์ให้เต็มรูปแบบ และการอัปเกรดไปสู่การผลิตขั้นสูง (Advanced Manufacturing) โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนทางด้าน License-in เพื่อจัดหาเทคโนโลยีที่เป็นแกนหลักในการพัฒนา (Core Technology) ให้แก่ภาคเอกชน ทั้งนี้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ จำเป็นต้องพัฒนาทักษะแรงงานไทยเพื่อรองรับเทคโนโลยี ตลอดจนการหาแรงจูงใจ (Incentive) หรือการอำนวยความสะดวก (One-stop Service) เพื่อดึงผู้เชี่ยวชาญโลกเข้ามาถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งหมดนี้ต้องเกิดจากการวางรากฐานที่ดีแทนที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนเครื่องยนต์ใหม่เป็นเรื่องสำคัญมากซึ่งจะเชื่อมโยงด้านสิ่งแวดล้อมสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ SDGs (Sustainable Development Goals) และ Net Zero โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) ที่ประเทศไทยมีความได้เปรียบมาสร้างให้เกิดมูลค่าและส่งต่อให้แก่ภาคเอกชน รวมถึงการผลักดันสินค้าสีเขียวหรือ Green Premium ให้กับอุตสาหกรรมสีเขียวมีโอกาสในการแข่งขันได้มากกว่าอุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้การสร้างโอกาสและสนับสนุนคนตัวเล็กอย่างผู้ประกอบการ SMEs และ Startup สามารถเชื่อมโยงกับบริษัทขนาดใหญ่ได้

 "การมาประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมฯ ในครั้งนี้ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพรรคฯ ได้อย่างมาก และหลายข้อเสนอแนวทางที่ได้รับจะยิ่งทำให้เราเข้าใจอุตสาหกรรมได้ลึกขึ้น และเชื่อว่าประเทศไทยเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน" ศาสตราจารย์ ดร.ยศชนัน กล่าวทิ้งท้าย

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

สุขสันต์วันคริสต์มาส By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มาแล้วคร้า ขอสุขสันต์วันคริสต์มาส (Christmas) หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ..

Merry Christmas By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง สวมหมวกซานตาคลอส Ho Ho Ho... Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาสคุณผู้อ่านทุกท่านคร้า....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้