สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 23 ธันวาคม 2568)--------บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ต่อยอดบทบาทผู้นำด้านบริการทางการแพทย์ของไทยและภูมิภาค ด้วยการคว้า 2 รางวัล SET Awards of Honor จากเวที SET Awards 2025 โดยเฉพาะรางวัล Best Innovative Company Awards ที่สะท้อนความโดดเด่นด้านนวัตกรรมระดับประเทศ พร้อมชูผลงานปฏิวัติระบบสุขภาพไทยผ่านนวัตกรรม AI BDMS Utilization Review Technology (BURT) ซึ่งถูกยอมรับว่าช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารทรัพยากรทางการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรม

แพทย์หญิงปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และประธานผู้บริหารอาวุโส กลุ่ม 1 BDMS เปิดเผยว่า BDMS ได้สร้าง “Innovative Culture” อย่างจริงจังเพื่อรับมือความท้าทายด้านสาธารณสุข ทั้งสังคมสูงวัยและข้อจำกัดด้านทรัพยากร จนนำไปสู่การพัฒนา AI BURT นวัตกรรมบริหารทรัพยากรทางการแพทย์ที่ช่วยให้โรงพยาบาล ใช้ทรัพยากรได้ตรงมาตรฐาน ถูกต้อง โปร่งใส และยั่งยืน

“การพัฒนานวัตกรรมการบริหารทรัพยากรทางการแพทย์อัจฉริยะ BDMS Utilization Review Technology หรือ BURT นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์นี้ สะท้อนการปฏิวัติการจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ของกลุ่มโรงพยาบาลในเครือ BDMS เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและมาตรฐานบริการ ลดภาระงานของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และสร้างความสมดุลในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับบทบาทของ BDMS ในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขของประเทศ ภายใต้กลยุทธ์การดูแลสุขภาพแบบเน้นคุณค่า (Value-Based Healthcare) ที่มุ่งส่งมอบผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุดในค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและเข้าถึงได้ง่าย” แพทย์หญิงปรมาภรณ์ กล่าว

BURT ถือเป็น “ผู้ช่วยอัจฉริยะทางคลินิก” ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้ระบบสุขภาพไทย สามารถทำงานร่วมกับแพทย์ พยาบาล และทีมกำกับมาตรฐานการรักษา ช่วยตรวจสอบความเหมาะสมของแผนการรักษา การวินิจฉัย การใช้ยา ระยะเวลานอนโรงพยาบาล ไปจนถึงการคุ้มครองข้อมูลผู้ป่วย เพื่อยกระดับคุณภาพบริการการรักษา ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ตามความเหมาะสม และความจำเป็น สามารถส่งมอบคุณค่าสูงสุดให้แก่ผู้ป่วย ตามกลยุทธ์ Value-Based Healthcare ของ BDMS

ปัจจุบันมีการใช้งานจริงแล้วกว่า 35 โรงพยาบาล ช่วยบุคลากรประหยัดเวลา 127,000 ชั่วโมง (ยอดสะสมตั้งแต่ ปี 2022-2024) ช่วยให้บุคลากรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยระบบสามารถประมวลผลเวชระเบียน เพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมของแผนการรักษา และความถูกต้องในการใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ ได้ภายในเพียง 0.59 วินาทีต่อราย ลดเวลาทบทวนเคสจาก 15–30 นาที เหลือเพียงประมาณ 2 นาที คิดเป็นการประหยัดภาระงานรวมกว่า 44,000 ชั่วโมงต่อปี ผลลัพธ์นี้ทำให้แพทย์และพยาบาลสามารถทุ่มเทเวลาคุณภาพให้ผู้ป่วยซับซ้อนและผู้ป่วยวิกฤตได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

BURT ส่งคุณค่าครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งผู้ป่วย บริษัทประกัน และระบบสาธารณสุขของชาติ โดยในมิติของผู้ป่วย ระบบทำหน้าที่เสมือนผู้ประสานงานอัจฉริยะ ช่วยตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสมของแผนการรักษา ลดความเสี่ยงจากความคลาดเคลื่อนทางคลินิก และช่วยให้ผู้รับบริการเข้าถึงสิทธิการรักษาอย่างโปร่งใส ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา ขณะที่ในมิติของบริษัทประกัน BURT ช่วยยกระดับการทำงานด้วยข้อมูลมาตรฐานที่มีโครงสร้างชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ง่าย ทำให้สามารถบริหารความเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาความคลาดเคลื่อนด้านเอกสาร และสนับสนุนเสถียรภาพของระบบประกันสุขภาพของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ในระดับประเทศ BURT มีบทบาทสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายสาธารณสุขและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยระบบช่วยลดการใช้กระดาษได้มากกว่า 22.9 ล้านแผ่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 200 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้มากกว่า 23,000 ต้น (ยอดสะสมตั้งแต่ ปี 2022-2024) ผลลัพธ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของ BURT ในการสนับสนุนระบบสาธารณสุขที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดภาระของประเทศในระยะยาว

นวัตกรรม BURT ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ โดยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยบนเวทีสากลด้วยการคว้ารางวัล Product Innovation of the Year 2024 จากเวที ITIJ Awards ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยและบริการทางการแพทย์โลก รางวัลนี้สะท้อนถึงศักยภาพของนวัตกรรมไทยที่สามารถยกระดับมาตรฐานและสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมต่อระบบสุขภาพอย่างแท้จริง ทั้งในประเทศและในระดับสากล ขณะเดียวกัน BDMS ยังคงเดินหน้าต่อยอดมาตรฐานการดูแลสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบสาธารณสุขไทยในอนาคต

โดย แพทย์หญิงปรมาภรณ์ กล่าวว่า BDMS จะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านการแพทย์ต่อไป เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษา เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และร่วมสร้างอนาคตระบบสาธารณสุขไทยที่มั่นคงและยั่งยืน