Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

โครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” จุดประกายความเป็นไทยให้สืบสานอย่างสร้างสรรค์ สะท้อนความสำเร็จผ่านผู้ชนะเลิศ มารยาทไทย และทักษะการอ่าน-พูดในที่สาธารณะ

84



สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(22 ธันวาคม 2568)-------โครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” ครั้งที่ 53 ประจำปี 2568 กิจกรรมสังคมเพื่อมุ่งสืบสานวัฒนธรรม ภายใต้มูลนิธิทีทีบี จุดประกายให้เยาวชนร่วมกันอนุรักษ์ไว้ซึ่งเอกลักษณ์ไทย ประกาศผลการประกวดมารยาทไทย และทักษะการอ่าน-พูดในที่สาธารณะ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษา ซึ่งมีเยาวชนจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ทั้งนี้ โรงเรียนที่ชนะเลิศ ประเภทมารยาทไทย ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลพัทลุง และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ได้แก่ โรงเรียนศรียานุสรณ์ ส่วนประเภทอ่านฟังเสียง ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ประเภทชาย ได้แก่ ด.ช.กันตพงศ์ สุจินา โรงเรียนศิรินุสรณ์วิทยา ประเภทหญิง ได้แก่ ด.ญ.ณัฐสินี ไพศาลตันติวงศ์ โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ในขณะที่รางวัลชนะเลิศ ประเภทพูดต่อหน้าสาธารณชน ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ได้แก่ ด.ช.สิริพงษ์ เลี้ยงบุญเลิศชัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 ได้แก่ นางสาวศรัณพร เจริญขำ โรงเรียนสตรีวิทยา

นางสาวกาญจนลักษณ์ บำรุงถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการ “เท่อย่างไทย โดย ไฟ-ฟ้า ทีทีบี” ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 53 ได้เห็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่จุดประกายในจิตใจของเยาวชน ซึ่งในปีนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 6,672 คน สะท้อนว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล “ความเป็นไทย” ไม่ได้ล้าสมัย แต่เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ยังอยากจะเรียนรู้ ทั้งนี้ มารยาทไทยและทักษะการพูด ถือเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย เพราะหากเยาวชนเติบโตขึ้นพร้อมกับมารยาทที่งดงาม ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกาลเทศะ จะช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีในสังคม ในขณะที่ทักษะการพูด คือเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการสร้างสรรค์และขับเคลื่อนสังคมผ่านการสื่อสาร

“ความเท่ที่แท้จริงของคนไทย ไม่ได้อยู่ที่การตามกระแสโลกเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่การยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีบนรากฐานทางวัฒนธรรมของเราเอง การสืบสานความเป็นไทยจึงเป็นเสมือนการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม ทำให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เท่อย่างมีอัตลักษณ์ มีมารยาท รู้จักเคารพผู้อื่น และกล้าพูดเพื่อสิ่งที่ดีงาม” นางสาวกาญจนลักษณ์ กล่าว

เกณฑ์การตัดสินและบทบาทสำคัญของการพูดต่อหน้าสาธารณะ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ ฉัตราติชาต อาจารย์ประจำภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า พัฒนาการที่เห็นชัดคือ เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สามารถสื่อสารและใช้ภาษาได้ดี หลายคนมีแววเป็นนักพูดที่ดี เข้าใจการพูดต่อหน้าสาธารณะ โดยเกณฑ์ตัดสินที่สำคัญคือ การเรียบเรียงเนื้อหาและการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้พูด รวมถึงความเข้าใจและมั่นใจในเรื่องเล่าที่สะท้อนผ่านสีหน้า สายตา ท่าทาง และที่สำคัญน้ำเสียงเป็นธรรมชาติมาจากใจ ไม่ปรุงแต่ง จึงขอฝากครูผู้ฝึกสอนเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองสไตล์การพูดเป็นแบบฉบับของตนเอง รวมถึงการจัดระบบความคิดและนำเสนอเนื้อหาที่จะสื่อสารด้วยตนเอง เพื่อให้เข้าใจและนำเสนอได้อย่างมั่นใจ

“การสื่อสารถือเป็นทักษะสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการทำงาน และการอยู่ร่วมกับคนในสังคม ซึ่งการพูดต่อหน้าสาธารณะไม่ใช่แค่การพูด แต่มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ผู้พูดรู้จักและเข้าใจตนเอง เพราะต้องเริ่มจากเข้าใจตนเองว่าต้องการสื่อสารอะไร และเข้าใจความสนใจของผู้ฟัง เพื่อนำมาเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นบทพูด ทำให้สามารถสื่อสารความคิดของตนเองไปยังผู้ฟังได้อย่างมั่นใจ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วราภรณ์ กล่าว

สะท้อนความสำเร็จผ่านเสียงของผู้ชนะเลิศ
เด็กชายสิริพงษ์ เลี้ยงบุญเลิศชัย โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน รางวัลชนะเลิศ ประเภทพูดต่อหน้าสาธารณชน ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 กล่าวว่า “ดีใจและภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผมชอบพูดและมองหาเวทีแข่งขันมาตลอด เพื่อฝึกทักษะการพูดและเพิ่มความมั่นใจ มองว่าทุกเวทีทำให้ได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย และได้เรียนรู้จากเพื่อนใหม่ ๆ ทั้งนี้ การพูดเป็นศาสตร์ที่ต้องคิดและจัดการเรื่องราวอย่างฉับไว ซึ่งประโยชน์ของการพูด เช่น ทำให้รู้จักตัวเอง ได้เรียนรู้และไม่หยุดพัฒนา อีกทั้งยังนำไปใช้ในชีวิตประจำได้ด้วย ทั้งการสื่อสารกับเพื่อนและสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันการสื่อสารสำคัญมาก”

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังหาเวที ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมารยาทไทย การอ่านออกเสียง หรือการพูดต่อสาธารณะ ขอ แนะนำว่าโครงการเท่อย่างไทยฯ เป็นเวทีสำคัญที่ทำให้ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ขอขอบคุณมูลนิธิทีทีบีที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยได้แสดงศักยภาพ พัฒนาตัวเอง และกล้าแสดงออก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะความกล้าจะทำให้คนเก่งขึ้นได้ จากการฝึกฝนและได้ขึ้นเวทีแสดงออกบ่อย ๆ

ปิดท้ายที่ทีมเยาวชนจากโรงเรียนศรียานุสรณ์ ทีมชนะเลิศ ประเภทมารยาทไทย ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 กล่าวว่า “ทีมเราเข้าร่วมชมรมมารยาทไทยของโรงเรียน มองว่ามารยาทไทยสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งยังได้อนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติให้ทั่วโลกเห็นความเป็นไทย รู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้แสดงศักยภาพบนเวทีเท่อย่างไทยฯ และภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะซ้อมอย่างหนัก เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องและมีความพร้อมเพรียง ทั้งนี้ ขอฝากทุกคนว่ามารยาทไทยไม่ใช่เรื่องยาก อยากให้ลองเปิดใจเรียนรู้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมารยาทไทยจะทำให้อยู่ร่วมกันอย่างถ้อยที ถ้อยอาศัย เป็นเอกลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็ต่างจดจำ หากเราทุกคนร่วมกันรักษาและส่งต่อสิ่งนี้ สังคมไทยก็จะดีขึ้นอย่างแท้จริง”

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้