Pi Daily เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี สถิติชี้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักเป็นบวกรวมถึงสถิติหุ้นไทยที่ช่วง 22 ธ.ค. - 30 ธ.ค. โอกาสเป็นบวก 100% ในช่วง 5 ปีย้อนหลังด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 2.5% สัปดาห์นี้จะค่อนข้างเงียบเพราะหลายๆ ประเทศหยุดเนื่องในวันคริสต์มาส

 

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อวันศุกร์ปิดบวก 183 จุด (+0.38%) แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Technology ตามความคาดหวัง FED จะลดดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1% มีความเป็นไปได้ที่อุปทานอาจชะงักจากสหรัฐฯ ใช้มาตรการปิดล้อมเรือของเวเนซุเอลา

 

คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วยยอดขายบ้านมือสองพบว่าใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ แต่รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมิชิแกนต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ ถ้อยแถลงภายในระบุว่าผู้บริโภคยังกังวลว่าอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับความเชื่อมั่นที่ยังต่ำกว่า ธ.ค. 24 อยู่ราว 30% ปัญหาค่าใช้จ่าย ยังเป็นแรงกดดัน (เงินเฟ้อ) โดยรวมสะท้อนความเปราะบางทางเศรษฐกิจแต่ก็เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น CME FED Watch คาดว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. ด้วยความคาดหวังดอกเบี้ยจะปรับลงผสานกับปัจจัยฤดูกาล (สถิติชี้ว่าหากผลตอบแทนช่วง 19 – 31 ธ.ค. เป็นบวกมีความเป็นไปได้ที่ช่วง 19 ธ.ค. – 15 ม.ค. จะเป็นบวกต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดช่วง 19 ธ.ค. – 21 ธ.ค. เป็นบวกแล้ว 0.9%) ยังมองกลุ่ม Technology เป็นกลุ่มน่าสนใจแต่อาจเลือกบางตัวในหุ้นที่กระแสเงินสดอิสระเป็นบวกกับภาระหนี้ไม่สูง (Alphabet Amazon Microsoft) สำหรับปัจจัยในประเทศวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบแคบเพราะยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอดูการแถลงนโยบายของแต่ละพรรครวมไปถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ คาดว่าเร็วๆ นี้พรรคภูมิใจไทยจะเผยรายชื่อแคนดิเดต เมื่อพิจารณาที่สถิติหุ้นไทยในช่วง 21 ธ.ค. – 30 ธ.ค. ในช่วง 5 ปีย้อนหลังพบว่าความน่าสนใจด้วยโอกาสเป็นบวก 100% ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.5% มองเป็นปัจจัยหนุนหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี กลุ่มน่าสนใจมองไปยังธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ค้าปลีก (CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1245 – 1260 ตลาดเข้าสู่ช่วงปัจจัยฤดูกาลที่มักเป็นบวกในช่วงนี้อาจเป็นเพราะแรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุนลดหย่อนภาษีประกอบกับเป็นช่วงที่ผ่อนคลายเกี่ยวกับภาวะข่าวสารต่างๆ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นโซนล่างที่ยังปรับขึ้นน้อยที่อาจเป็นโอกาสของกองทุน เช่นค้าปลีก (CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) การเงิน (MTC TIDLOR)

 

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)

4Q24 คาดรายได้เห็นการเติบโตได้ต่อหลังจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีโครงการเตรียมโอนกว่า 2,000 ล้านบาท และการเป็นช่วงเทศกาลที่ล่าสุดการจัดกิจกรรมยังคงมีอยู่ ทำให้ผลกระทบจากเหตุไว้อาลัยอาจจะไม่มากเหมือนที่เคยคาดก่อนหน้านี้ สำหรับปี 26 จะมีการเปิดศูนย์ใหม่อีก 2 แห่งและศูนย์ที่ปรับปรุงใหญ่ 1 แห่ง ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตยังเติบโตได้ต่อเนื่อง

 

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 68.00 บาท)

SSSG ช่วงเดือนต.ค. 2025 ยังใกล้เคียงกับ 3Q25 แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้า Ready-to-eat และ Ready-to-drinks และการบริโภคภาพรวมที่ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ