Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ ไซด์เวย์/ชะลอตัว - สถานการณ์ชายแดนยังร้อนแรง

96

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 22 ธันวาคม 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2568คาดตลาดไซด์เวย์/ชะลอตัว ในวันศุกร์ทำจุดสูงสุดที่แนวต้านที่ให้เป็นข้อสังเกตยังไม่สามารถยืนเหนือ 1258 ได้ สถานการณ์ชายแดนร้อนแรงอีกครั้ง ติดตามนโยบายพรรคการเมืองในการแก้ปัญหา ศก. และ Window Dressing ปลายสัปดาห์ ภายนอก สัปดาห์นี้มีตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและ 3Q68 GDP สหรัฐฯ ทางเทคนิค ตลาดมีช่วงหลุดแนวรับ 1250-1248 ต้องขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1258 จึงจะยกเลิกแนวโน้มลง มิฉะนั้นเป็นการแกว่งลง มีแนวรับหลักถัดไป 1240/1230

 


ประเด็นสำคัญ
• กระทรวงกลาโหมเผยกัมพูชาได้ยิง BM-21 ใส่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และประกาศให้ ปชช. ใน 4 อำเภอในสระแก้วอพยพ วันนี้ติดตามแนวทางการรับมือสถานการณ์จากการประชุม สมช. เวลา 9:00 น. และการประชุม รมต. ตปท. อาเซียนในมาเลเซียในวันเดียวกัน
• กระทรวงพลังงานและกลุ่มผู้ได้รับสัมปทานได้ประชุมเร่งด่วนเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันแท่นขุดเจาะ หลังพบโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาก่อกวนบริเวณแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซฯ กลางทะเล นับตั้งแต่เกิดการปะทะไทย-กัมพูชาในวันที่ 7 ธ.ค. 2568
• จีนงดนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันใน พ.ย. 2568 และหันไปพึ่งพาถั่วเหลืองจากอเมริกาใต้ เป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อราคาถั่วเหลือง เป็นบวกระยะสั้นต่อกลุ่มเนื้อสัตว์ CPF BTG GFPT TFG ติดตามยอดนำเข้าใน ธ.ค. 2568 คาดว่าจะมียอดนำเข้าจากสหรัฐฯ อีกราว 7 ล้านตัน หลังผู้ค้าเผยว่าได้มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นแต่ยังเดินทางไปไม่ถึง
• การประชุมนโยบายการเงิน BoJ มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ 0.75% เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เป็นไปตามที่ตลาดคาด และส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอีก ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นระยะ 10 ปีขึ้นแตะ 2.0% ค่าเงินเยนอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐแตะ 158 เยน
• LG Chem, DL Chemical, Yeochun NCC ได้ส่งแผนปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีแก่รัฐบาลเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งจะนำไปสู่การลดกำลังการผลิตในระยะสั้นและปรับปรุงการผลิตเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1230-1285 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ และมีวอลุ่มซื้อขายที่เบาบางลง หลังบรรยากาศการลงทุนเริ่มใกล้ช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะต่างชาติ ทั้งนี้มองตลาดจะติดตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อาทิ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายหลักแต่ละพรรค ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและผลประกอบการของ บจ. ไทย, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางส่วนที่อาจช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ เช่น แรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG ที่อาจเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และการทำ Window Dressing ที่นักลงทุนสถาบันบางส่วนอาจใช้ปรับพอร์ตให้ดูดีก่อนสิ้นปี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1248/1240 – 1258/1265


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเข้าช่วงสิ้นปี คาดตลาดติดตามปัจจัยในประเทศ-การเมือง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ 2) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี และ 3) หุ้นที่อยู่ใน SETESG และ SET100 ที่คาดได้อานิสงส์จากมีแรงซื้อโค้งสุดท้ายกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG โดยเลือกหุ้นที่ล่าสุด ตลท. ประกาศผล SET ESG Rating ดีขึ้นตั้งแต่ A ขึ้นไปและเราแนะนำ Outperform อีกทั้งราคาหุ้นปรับลง YTD เลือก BDMS CHG ERW GLOBAL HMPRO PRM

 


Daily Top Picks
KTB: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากการเป็นธนาคารที่มีการเติบโตของสินเชื่อใน พ.ย. สูงสุดในกลุ่ม +2.2% MoM จากทั้งภาครัฐและธุรกิจ ให้ปันผลสูง คาดปี 2568–2570 อยู่ที่ราว 2.15–2.35 บาท/หุ้น หรือ Div. Yield ราว 7.9-8.6% มีความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ตํ่า และมีโอกาสจะประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน เป้าหมายระยะสั้นที่ 29.50 บาท

AP: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากแผนทยอยเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่นลบ. ใน 4Q68 และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง กำไรสุทธิ 4Q68 คาดจะทำจุดสูงสุดของปี ฟื้นตัว QoQ แม้ทรงตัว YoY หนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่งจากโครงการแนวราบและการเริ่มโอนคอนโด คาดปันผลปี 2568 ที่ 0.49 บาท/หุ้น หรือ 5.5% เป้าหมายระยะสั้น 8.95 บาท

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ถอยอย่างเป็นระบบ By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เชื่อ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย วันนี้ ยังคงมีสภาพไม่แตกต่างจากช่วงที่ผ่านมา แต่บนไม่มีข่าวบวก ข่าวใหม่.....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้