Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ค่ายKKPS ชี้ CENTEL และ BA เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ส่วน AOT มองระดับราคาประมาณ 50 บาทหรือต่ำกว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

133


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 ธันวาคม 2568)----------สรุปบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปี 2025 และแนวโน้มปี 2026 – ควบทะยานสู่ปีมะเมีย

จากฐานที่ต่ำในปี 2025 อันเนื่องมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อ่อนแอ การท่องเที่ยวในปี 2026 น่าจะเห็นสถานการณ์พลิกฟื้น จากการที่การท่องเที่ยวขาออกของจีนอาจเปลี่ยนทิศทางจากญี่ปุ่นมาสู่ประเทศไทย หลังจากข้อพิพาทล่าสุดกับญี่ปุ่น ส่งผลให้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS) ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวรวมจะฟื้นตัวและเติบโต 4% เป็น 34.4 ล้านคนในปี 2026 โดยมีโอกาสเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวจีน โดย KKPS คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของไทยในนักท่องเที่ยวจีนขาออกจะเพิ่มจาก 7% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ เข้าใกล้ระดับ 11% ที่เคยเห็นในปี 2019 ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างกับญี่ปุ่นที่มีส่วนแบ่งตลาด 15% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ โดยในเดือนธันวาคม ส่วนแบ่งตลาดของญี่ปุ่นลดลงจาก 15% เหลือ 13% ขณะที่ของไทยเพิ่มจาก 7% เป็น 9% นอกจากนี้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้ประกาศตารางการบินฤดูหนาวล่าสุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้ว

แนวโน้มรายได้ต่อห้องพักที่พร้อมให้บริการ (RevPAR) ของโรงแรมในประเทศไทยคาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 หนุนโดยการเติบโตที่แข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวยุโรป โดยเฉพาะโรงแรมในต่างจังหวัด ขณะที่ RevPAR โรงแรมในกรุงเทพฯ ยังคงติดลบราวระดับเลขตัวเดียวกลางๆ แต่มีโอกาสฟื้นตัวในไตรมาส 1 ปีหน้า จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน KKPS คาดว่า RevPAR ในต่างประเทศของโรงแรมในยุโรปและมัลดีฟส์จะเติบโตต่อเนื่องในปี 2026 โดยมัลดีฟส์จะเติบโตโดดเด่นจากฐานที่ต่ำ บริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL คาดว่าจะเห็นการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่ม ราว 2 เท่าของคู่แข่ง หรือประมาณ 32% ในปี 2026 หนุนโดยการพลิกฟื้นผลประกอบการของธุรกิจในมัลดีฟส์

ภาคการบินของไทยควรได้รับประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นราว 3-6% สำหรับ AOT บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และบริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA โดยกำไรของ AOT คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 24% ในปีงบประมาณ 2026 หนุนโดยค่าบริการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (PSC) ที่สูงขึ้น กำไรของ BA คาดว่าจะเติบโต 5% จากการโตอย่างต่อเนื่องของเส้นทางสมุย ในทางตรงกันข้าม กำไรของ THAI คาดว่าจะลดลง 8% จากต้นทุนที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น


โดยรวมแล้ว KKPS มองว่า CENTEL และ BA เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม โดยให้น้ำหนักเชิงบวกกับ CENTEL จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งและการเติบโตของกำไรที่ดี ขณะที่ BA มีมูลค่าที่ไม่แพงที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรของหุ้น (PER) ที่ 8 เท่า อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ 22% และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 8% พร้อมโอกาสการเติบโตเพิ่มเติมจากการปรับขึ้น PSC และการต่ออายุสัมปทานธุรกิจขนส่งสินค้าและบริการภาคพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิ


KKPS มองว่าสถิติการดำเนินงานระยะสั้นของ CENTEL บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และ BA ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดย CENTEL รายงานการเติบโตของ RevPAR ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ในระดับสองหลัก ขณะที่ MINT รายงานการเติบโตของ RevPAR ตั้งแต่ต้นเดือน ในระดับกลางเลขหลักเดียว และ BA แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง โดยเติบโต 10% ในเดือนตุลาคม ลดลง 4% ในเดือนพฤศจิกายนจากฤดูฝน และฟื้นกลับมาเติบโต 10% ในเดือนธันวาคม การจองล่วงหน้าสำหรับไตรมาส 1 ปีหน้า มีแนวโน้มเติบโตระดับสองหลัก หนุนโดยฤดูกาลท่องเที่ยว โดยรวมแล้ว KKPS มองว่าปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้สนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกอย่างต่อเนื่องของทั้งสามบริษัท


สำหรับ AOT KKPS มองว่าระดับราคาประมาณ 50 บาทหรือต่ำกว่าเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว PSC มีแนวโน้มได้รับการอนุมัติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงกว่าคาดเป็นปัจจัยบวกสำหรับกำไรและราคาเป้าหมายราว 3-5% ที่ระดับราคาประมาณ 50 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้