คาด SET Index แกว่งตัว Sideways: แรงหนุนจากการประชุมกนง.ในวันนี้ ซึ่งเราคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง รวมถึงมีความหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต หากแต่มองทางขึ้นจำกัด ท่ามกลางความผิดหวังต่อโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง

แนวรับ-ต้าน
1,250 –1,270

กลยุทธ์การลงทุน
1) เข้าคำนวณ SET50/100 รอบ 1H69: CENTEL50,SAWAD50, GFPT100, PTG100, STECON100
2) เข้าคำนวณ FTSE SET: THAILarge cap, SCCCMid cap
3) Yield play:AMATA, AP, BGRIM,GPSC, GULF,GUNKUL, MTC, QH, SAWAD, SIRI, SPALI,TIDLOR, WHA
4) หุ้นรับเลือกต้ัง69:ADVANC,CPALL,SCB, TRUE
5) Dividend play: KKP, STA, TFG, TISCO, TTB

หมดแรงส่งการคลัง หวังแรงส่งการเงิน

หวังกนง.ห่ันดอกเบี้ยวันนี้และหวังเฟดห่ันในอนาคต: ติดตามการประชุมกนง.ในวันนี้ซึ่งมีแนวโน้มเป็นแรงหนุนต่อSETIndex โดยเราคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.25% p.a. เพื่อรองรับกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และช่วยเหลือ SMEs โดยเฉพาะในยามที่แรงส่งทางการคลังเรมิ่ มบีทบาทจำกัดจากการที่สถานะของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นรัฐบาลรักษาการ อีกทั้งเรามองว่าถ้อยแถลงหลังการประชุมจะไม่ปิดโอกาสสำหรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคตนอกจากนี้ คาด SETIndexจะได้ Sentimentเชิงบวกจากความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐฯเผยตัวเลขแรงงานที่โดยรวมบ่งชี้ถึงทิศทางที่อ่อนแอลง โดยอัตราการว่างเดือนพ.ย.68 อยู่ที่ 4.6%สูงกว่าตลาดคาดและเดือนก.ย.68 ที่ 4.5%และ 4.4%ตามล าดับ ขณะที่การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.68 แม้จะออกมาเพิ่มข้ึน 6.4หมื่นตำแหน่ง มากกว่าตลาดคาดที่ 5 หมื่นตำแหน่ง แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังอย่างเดือนต.ค.68 ประกอบด้วยจะพบถึงสัญญาณที่อ่อนแอเช่นกัน เนื่องจากในเดือนข้างต้นเป็นการลดลง 1.05แสนต าแหน่ง

1Q69 คงไม่ได้พบกับคนละคร่ึงพลัสเฟส 2: มองทางขึ้นจำกัดจากความผิดหวังต่อโครงการคนละคร่ึงพลัสเฟส 2 หลังรองนายกฯและรมว.คลัง (รักษาการ) ยอมรับว่าไม่สามารถด าเนินโครงการข้างต้นเพราะติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เช่นเดียวกับมาตรการ/โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆที่ไม่น่าจะทำได้เช่นกัน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญแล้วครม.รักษาการไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้ จากภาพข้างต้นเราจึงมองว่าเศรษฐกิจไทยใน 1Q69 มีแนวโน้มจะขยายตัวต่ากว่าที่เคยประเมินไว้อย่างไรก็ดีเรายังคงประมาณการทั้งปี2569 ไว้ที่ 1.7%เนื่องจากมองว่าภายหลังจากที่ได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้วในช่วง 3Q69 มีแนวโน้มที่จะเห็นการเร่งด าเนินมาตรการ/โครงการทางเศรษฐกิจก่อนที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณ 2569 ดังนั้นจึงมองเป็นการเปลี่ยนแปลงของช่วงเวลาที่เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นหลัก

ราคาน้ำมันดิบร่วง กังวลอุปทานล้น: นอกจากนี้ คาดแรงกดดันมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ามันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 2.73%ปิดที่ $55.27 ต่อบาร์เรล โดยยังคงถูกกดดันจากความคืบหน้าในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจีน

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)รองโฆษกสำนักนายกฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.69 รัฐบาลจะเริ่มบังคับใช้มาตรการจัดเก็บ VAT และอากรขาเข้าสำหรับสินค้านำเข้าทุกชิ้นตั้งแต่มูลค่า1 บาทขึ้นไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้าและคุ้มครองผู้ประกอบการไทย
(+)กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยสถิติข้าวไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI รวม 24 รายการ จาก 31 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถสร้างมูลค่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนใน 9M68 มากกว่า 8,000 ล้านบาท
(-) กรมธุรกิจพลังงานเผยภาพรวมการใช้น้ามันเชื้อเพลิงในช่วง 10M68 มีปริมาณ153.67 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 0.6 y-y โดย NGV มีปริมาณการใช้ลดลงสูงสุดที่ 16.1%ตามด้วย LPGลดลง 3.6%และน้ามันดีเซลหมุนเร็วลดลง 2.4%
(-) ThaiBMA เผยใน 9M68 มีหุ้นกู้ผิดนัดชำระรวม 7,349 ล้านบาท และมีหุ้นกู้ที่เลื่อนกำหนดชำระรวม 56,018 ล้านบาท สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์