วันนี้ฝากความหวังไว้กับ กนง.

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ สหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ต.ค. 68 ลดลง 105,000ตำแหน่ง จากผลกระทบของ GOVERNMENT SHUTDOWN ทำให้พนักงานภาครัฐหายไป ขณะที่เดือน พ.ย. 68 การจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 64,000 ตำแหน่ง โดยกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม EDUCATION & HEALTH SERVICES และ CONSTRUCTIONโดยเฉพาะงานก่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ส่วนอัตราการว่างงานล่าสุดเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
• ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ กำลังเพิ่มความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของFED ในปีหน้า โดยผลสำรวจของ FEDWATCH TOOL คาดว่าจะเกิดขึ้น 2 ครั้ง
• อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังไม่ลงมาสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ถือเป็นปัจจัยกดดันต่อการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยของ FED เช่นกัน

REGION RADAR
• ESTEE LAUDER (EL US) +3.33% หลัง BANK OF AMERICAเลือกเป็นหุ้นความงามอันดับ 1 สำหรับปี 2026 โดยระบุว่า มั่นใจในกลยุทธ์ฟื้นฟูธุรกิจของบริษัทและสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่กำลังดีขึ้น ทั้งได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ระดับ $130 (จากเดิม $120)
• AVATAR ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แฟรนไชส์ของ DISNEY ที่ทำรายได้สูงสุดในโลก โดย AVATAR 3 มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ในวันนี้ คาดจะเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2025 นอกจากนี้DISNEY ได้ประกาศความร่วมมือเพิ่มเติมกับ OPENAI

THAI FOCUS
• แนวโน้ม GDP ปี 69 ธปท.คาดการณ์ไว้ที่ 1.6% จากหลายส่วนของGDP ที่ชะลอลง ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และภาคท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการปรับมุมมองทั้งส่วนของทิศทางดอกเบี้ย และแนวโน้มเศรษฐกิจระยะถัดไป หลังการแถลงประชุม กนง.วันนี้
• นักเศรษฐศาสตร์ (23 จาก 24 ราย หรือคิดเป็นโอกาส 96%) คาดว่ากนง.จะลดอกเบี้ยวันนี้ จากเดิม 1.50%

SYNAPSE STRATEGY
• ตลาดหุ้น NASDAQ เริ่มสร้างรูปแบบเป็นขาลงมากขึ้นหลังเกิดสัญญาณ HINDENBERG ทั้งดัชนีไม่ทำ HIGH ใหม่ และตัดเส้น SMA50 วันลงมา สร้าง SENTIMENT ลบกับสินทรัพย์เสี่ยงไปด้วย
• มาที่ตลาดหุ้นไทย ถูกกดดันจากราคาน้ำมันย่อตัว พร้อมกับ 4 หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SETESG ได้รับ SENTIMENT ลบ ผันผวนสั้นๆ แต่มีหุ้นเข้าดัชนีSETESG ถึง 20 บริษัท ช่วยหนุนแทน ส่วนวันนี้แนะนำหุ้นเก็งกำไร ถ้ากนง. ลดดอกเบี้ย TIDLOR, SAWAD, MTCและหุ้นปันผลสูงLH 5.8%, ICHI8.7%, MAJOR 6.7% ต่อป

HORIZON MARKET VIEW
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงกว่ากรอบเป้าหมาย
วานนี้สหรัฐฯ เผยการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NONFARM PAYROLL) เดือน ต.ค. 68 ลดลง 105,000ตำแหน่ง จากผลกระทบของ GOVERNMENT SHUTDOWN ทำให้พนักงานภาครัฐหายไป ขณะที่เดือน พ.ย.68การจ้างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 64,000 ตำแหน่ง โดยกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม EDUCATION & HEALTHSERVICES และ CONSTRUCTION โดยเฉพาะงานก่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI ส่วนอัตราการว่างงาน(UNEMPLOYMENT RATE) ล่าสุดเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ กำลังเพิ่มความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ในปีหน้า โดยผลสำรวจของ FEDWATCH TOOL คาดว่าจะเกิดขึ้น 2 ครั้ง (เดือน เม.ย. และ ก.ค. 69)ขณะที่ DOT PLOT คาดว่าจะเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังไม่ลงมาสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ถือเป็นปัจจัยกดดันต่อการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยของ FED เช่นกัน ซึ่งในวันที่ 18 ธ.ค. 68 จะมีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. 68 ตลาดคาดปรับตัวสูงขึ้นเป็น 3.1%YOY ทำจุดสูงสดในรอบปีทั้งนี้ BLOOMBERG คาดการณ์เงินเฟ้อใน 4Q68 อยู่ที่ 3.0% และในปีหน้าอยู่ที่ 2.6%-3.0%

REGION RADAR
ESTEE LAUDER COMPANIES หุ้นความงามน่าสนใจอันดับ 1 สำหรับปี 2026
ESTEE LAUDER (EL US) +3.33% หลัง BANK OF AMERICA เลือก ESTEE LAUDER เป็นหุ้นความงามอันดับ 1 สำหรับปี 2026 โดยระบุว่า มั่นใจในกลยุทธ์ฟื้นฟูธุรกิจของบริษัทและสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่กำลังดีขึ้น อีกทั้งได้ปรับราคาเป้าหมายขึ้นสู่ระดับ $130 (จากเดิม $120) นอกจากนี้การฟื้นตัวของยอดขายกำลังได้รับแรงหนุนจากตลาดความงามที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40 % ของรายได้รวม

AVATAR 3 หนึ่งในแฟรนไชส์ที่ทำรายได้สูงสุดของ DISNEY เข้าโรงภาพยนตร์ในวันนี้
AVATAR ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แฟรนไชส์ของ DISNEY ที่ทำรายได้สูงสุดในโลก โดย AVATAR 1 ทำรายได้สูงถึง $2.9 พันล้าน AVATAR 2 ทำรายได้สูงถึง $2.3 พันล้าน และ AVATAR 3 มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ในวันนี้ คาดจะเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2025

ดีลระหว่าง OPENAI และ DISNEY ที่ระบุให้OPENAI นำตัวละครของ DISNEY ไปใช้ในแอปวิดีโอ SORA ไม่มีการจ่ายค่าไลเซนส์เป็นเงินสด แต่ใช้โครงสร้าง STOCK WARRANTS แทน ซึ่งเปิดทางให้ DISNEY สามารถซื้อหุ้นเพิ่มใน OPENAI ได้ นอกเหนือจากเงินลงทุน $1 พันล้าน ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้โดย BOB IGER ซีอีโอของ DISNEYระบุว่า ข้อตกลงกับ OPENAI มีช่วง EXCLUSIVITY เพียง 1 ปีเท่านั้น หลังจากนั้น DISNEY สามารถทำดีลลักษณะเดียวกันกับบริษัท AI รายอื่นได้ อีกทั้ง BOB IGER กล่าวเสริมว่า “DISNEY ไม่ตั้งใจจะยืนขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จากมัน”

THAI FOCUS
วันนี้ติดตามประชุม กนง. อาจเห็นทิศทางดอกเบี้ย และแนวโน้มเศรษฐกิจระยะถัดไป
ภาพรวมเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2568 โตแบบระมัดระวัง ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่และมีความเปราะบาง โดยมุมมองของสำนักวิจัยส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.0% อาทิกระทรวงการคลัง (2.4%), ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) (2.2%), KKP (1.7%) และ WORLD BANK (1.8%)เป็นต้น ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2569 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ไว้ที่1.6% นี่คือสัญญาณเตือนภัยว่าถ้าไม่กระตุ้น (ด้วยการลดดอกเบี้ย) เศรษฐกิจอาจแย่กว่านี้จากหลายส่วนของ GDP ที่ชะลอลง ดังนี้
• การบริโภคภาคเอกชนที่หายไป ปี 2569 เหลือโตเพียง 1.8% (ปี 2568 โต 2.1%) หมายความว่าประชาชนรัดเข็มขัด ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อหดหายอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ ธปท. ต้องลดดอกเบี้ยเพื่อให้คนมีภาระหนี้น้อยลงและกล้าใช้เงินมากขึ้น
• การส่งออก (EXPORT VALUE) ปี 2568 ดูดีที่ 10.0% แต่ปี 2569 คาดว่าจะติดลบ -1.0% แสดงถึงความผันผวนสูงมากในอนาคต จากผลกระทบ TRADE TARIFF สหรัฐฯ
• ภาคท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจาก 35.5 ล้านคน (ปี 2567) เหลือ 33.0 ล้านคน (ปี 68) ก่อนจะฟื้นในปี 69(แต่ไม่ถึงระดับปี 2567) แสดงว่ารายได้เข้าประเทศส่วนนี้ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ดังนั้น ทางออกของปัญหานี้จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้อง "ลดดอกเบี้ย" โดยคาดการณ์จาก BLOOMBERG: นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ (23 จาก 24 ราย หรือคิดเป็นโอกาส 96%) คาดว่า กนง.จะลดอกเบี้ยวันนี้จากเดิม1.50% เหลือ 1.25% เพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจในปี 2569 ทรุดหนักไปกว่านี้

SYNAPSE STRATEGY
หุ้นโลกผันผวน แต่หวังหุ้นไทยทยอยฟื้น
ตลาดหุ้น NASDAQ เริ่มสร้างรูปแบบเป็นขาลงมากขึ้นหลังเกิดสัญญาณ HINDENBERG ทั้งดัชนีไม่ทำ HIGHใหม่ และตัดเส้น SMA 50 วันลงมา สร้าง SENTIMENT ลบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ ไปด้วย

มาที่ตลาดหุ้นไทย ถูกกดดันจากราคาน้ำมันย่อตัว พร้อมกับ 4 หุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี SETESG ได้รับSENTIMENT ลบ ผันผวนสั้นๆ แต่มีหุ้นเข้าดัชนี SETESG ถึง 20 บริษัท ช่วยหนุนแทน

ส่วนวันนี้แนะนำหุ้นเก็งกำไร ถ้ากนง. ลดดอกเบี้ย TIDLOR, SAWAD, MTC และหุ้นปันผลสูง LH 5.8%, ICHI8.7%, MAJOR 6.7% ต่อปี

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์