Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

TFG ปักธงรายได้-มาร์จิ้นปี 69 โตแรง! โบรกฯเชียร์“ซื้อ” เคาะเป้าสูงสุด 7 บ.

197

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 ธันวาคม 2568 )-------บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) สัญญาณสวย หลังงวด 9 เดือนปี 68 โชว์กำไรสุทธิ All Time High ที่ 6,292.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.70% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ล่าสุดประกาศสร้างสถิติใหม่ ปี 69 ตั้งเป้ารายได้ทะยานแตะ 80,000 ล้านบาท จากกลยุทธ์ขยาย “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ให้ครบ 850 สาขาทั่วประเทศ เพื่อสร้างรายได้และเพิ่มมาร์จิ้น ด้านโบรกเกอร์ประสานเสียงแนะนำ “ซื้อ” เคาะเป้าราคาสูงสุด 7 บาท รับยอดขายร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นควบคู่กับราคาสุกร และไก่ พุ่งต่อเนื่อง

 

 

** รายได้ปี 69 จ่อนิวไฮ 8 หมื่นลบ.
TFG ภายใต้การบริหารงานของ “เพชร นันทวิสัย” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ส่งสัญญาณดีต่อเนื่องหลังการประกาศผลการดำเงินงานงวด 9 เดือนปี 2568 พบว่า (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ All Time High ที่ 6,292.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,026.72 ล้านบาท หรือ 177.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,266.04 ล้านบาท และมีรายได้รวม 55,101.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,018.78 ล้านบาท คิดเป็น 14.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 48,083.02 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตรา 0.10 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหากรวมการจ่ายปันผลระหว่างกาลในรอบปีนี้ทั้งหมด เท่ากับ 0.40 บาท/หุ้น (มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจำนวน 3 ครั้ง)
โดย TFG ประกาศตั้งเป้ารายได้ปี 2569 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 80,000 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อน ด้วยความเชื่อมั่นว่าตลาดสุกร และไก่ ยังคงเป็นสินค้าที่มีอนาคต และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังเหตุการณ์โควิด ที่ทำให้เกิดความนิยมซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรดมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับโมเดลธุรกิจของ TFG เช่นเดียวกัน

** ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มธุรกิจ
ทั้งนี้ รายได้รวมดังกล่าวจะมาจากธุรกิจร้านค้าปลีกราว 40% , สุกร 20% , ไก่ 20% และอาหารสัตว์ 20% พร้อมกันนี้ TFG วางแผนขยายตลาดต่างประเทศที่เป็นตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง ทั้งเวียดนาม, อียู, ญี่ปุ่น, จีน รวมถึงการเปิดตลาดใหม่ในประเทศเกาหลีใต้, ตะวันออกกลาง และมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในอนาคต ร่วมกับการบริหารต้นทุน และบริหารจัดการระบบคลัง ให้มีประสิทธิภาพ

 

** “ไทยฟู้ด เฟรซ มาร์เก็ต” สร้างรายได้-เพิ่มมาร์จิ้น
TFG วางกลยุทธ์การเติบโตที่สำคัญ ด้วยแผนการขยายร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรซ มาร์เก็ต” ซึ่งเป็น Flagship สำคัญในการสร้างรายได้และเพิ่มมาร์จิ้นให้บริษัทฯ โดยมีแผนขยายสาขาให้ครบ 615 สาขาปีนี้ และเพิ่มเป็น 850 สาขาในปี 2569 พร้อมกับเตรียมงบประมาณลงทุนในปีหน้าไว้ที่ 2,500-3,000 ล้านบาท โดย 80% จะใช้ในการขยายสาขาร้านค้าปลีก ที่เหลือเป็นการขยายการลงทุนในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์

** บล.เคจีไอ แนะซื้อ TFG เคาะเป้า 7.00 บ.
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) เผยแพร่บทวิเคราะห์แนะนำซื้อหุ้น TFG ให้ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท โดยประเมินว่า ผู้บริหารของ TFG ให้แนวทาง (guidance) ว่ารายได้ปี 2568F น่าจะสูงถึง 75,000 ล้านบาท (+15% YoY) และเติบโต 10-15% YoY ในปี 2569F ปัจจัยหนุนหลักจากยอดขายร้านค้าปลีกเติบโตได้ราว 30% YoY โดยที่บริษัทฯ คงเป้าการขยายร้านสาขาปี 2568F อยู่ที่ 615 สาขา (+53% YoY) และเพิ่มเป็น 850 สาขา (+38% YoY) ในปี 2569F ในแง่ยอดขายต่อร้านเดิม (same store sales) ปี 2569F คาดว่าจะเติบโต 10%
ขณะที่ราคาสุกรทั้งในประเทศไทยและเวียดนามคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัว โดยคาดว่าธุรกิจสุกรจะสามารถเพิ่มปริมาณผลผลิตปี 2569F ขึ้นราว 15% YoY ผลจากการขยายกำลังการผลิต ส่วนธุรกิจไก่ปี 2569F คาดว่าปริมาณผลผลิตจะเติบโตราว 5-7% YoY ในปี 2569F หนุนจากอุปสงค์การส่งออกแข็งแกร่งขึ้น และยังจะได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ต่ำ
ดังนั้น ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568F/2569F สาเหตุจากที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบใน 4Q68F และปี 2569F มีแนวโน้มเป็นบวกต่อ TFG จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568F ขึ้น 2% และปี 2569F ขึ้น 15% บนสมมติฐานที่ i) ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ขึ้นที่ 20.7%/18.0% (จาก 20.2%/15.7%) และ ii) ปรับลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลง 9%/3% ตามการบริหารจัดการหนี้สินของ TFG ได้ดีขึ้น ดังนั้น กำไรสุทธิใหม่ปี 2568F จะอยู่ที่ 7,900 ล้านบาท (+130% YoY) และปี 2569F ที่ 6,500 ล้านบาท (-18% YoY)

 

** บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ ระบุแรงหนุนจากร้านค้าปลีกและ non-TFG
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” TFG ด้วยราคาเป้าหมาย 6.80 บาท โดยคาดว่ารายได้จะเติบโต 10-15% ในปี 2569 โดยมีแรงหนุนจากธุรกิจค้าปลีกผ่านการขยายสาขา และการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์หลักของ TFG แม้ว่าราคาเฉลี่ยสุกร (ASP) จะลดลง แต่การขยายธุรกิจค้าปลีกและการเพิ่มสินค้า non-TFG คาดว่าจะช่วยพยุงเสถียรภาพของอัตรากำไร

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้