สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 ธันวาคม 2568)---------บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้เป็นหนึ่งใน “หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” ระดับ AA ประจำปี 2568 ในกลุ่ม Agro & Food Industry โดยผลการประเมินขยับขึ้นจากระดับ A ในปี 2567 สะท้อนความก้าวหน้าต่อเนื่องของไทยยูเนี่ยนในการยกระดับการดำเนินงานทั่วโลกในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล

SET ESG Ratings เป็นการประเมินผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสสำหรับนักลงทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยบริษัทที่เข้ารับการประเมินต้องผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด และแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล รวมทั้งต้องมีผลการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล (CGR) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ตั้งแต่ 3 ดาวขึ้นไป

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ในปีนี้ สะท้อนความก้าวหน้าของไทยยูเนี่ยนภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักสำหรับการดำเนินงานของเรา โดยไทยยูเนี่ยนมุ่งส่งเสริมการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบภายในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และร่วมปกป้องดูแลมหาสมุทรและโลกให้มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น”

ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการดำเนินงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลอย่างมีความรับผิดชอบและโปร่งใส ทั้งในด้านสิทธิมนุษยชน การปกป้องดูแลมหาสมุทร การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า โดยบริษัทสามารถผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่การเปิดตัวกลยุทธ์ SeaChange® ครั้งแรกในปี 2559

ทั้งนี้ กลยุทธ์ SeaChange® 2030 นั้นประกอบด้วย 11 พันธกิจหลัก ซึ่งช่วยให้ไทยยูเนี่ยนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมต่อทั้งผู้คนและโลก อาทิ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน การยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน และการขยายความร่วมมือเพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเลและให้การสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติและความคาดหวังในระดับโลก โดยทั้งหมดนี้ช่วยเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันของไทยยูเนี่ยนในระยะยาว และสะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทในการร่วมสร้างอุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น