Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บีคอน วีซี เดินหน้ากองทุน Beacon Impact Fund เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกในระดับภูมิภาค

102

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(16 ธันวาคม 2568)---------บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอน วีซี) บริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย เดินหน้าขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านกองทุน Beacon Impact Fund ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทสตาร์ทอัพและกองทุนร่วมลงทุนที่พัฒนาโซลูชันด้าน ESG ซึ่งสามารถวัดผลและขยายผลได้จริงเพิ่มเติมใน 3 โครงการ ได้แก่ Quantified Energy ผู้นำด้านเทคโนโลยีตรวจสอบแผงโซลาร์ Arkadiah Technology ผู้พัฒนาโซลูชันปลูกป่าและคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจร และ Raisewell Ventures กองทุนที่สนับสนุนสตาร์ทอัพ Deep Tech จากสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันส่งมอบเงินลงทุนแล้วรวมทั้งสิ้น 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 600 ล้านบาท ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ บีคอน วีซี ในการสนับสนุนนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกและยกระดับสตาร์ทอัพในภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน


นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย บีคอน วีซี ยึดมั่นพันธกิจในการขับเคลื่อนนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินงานของกองทุน Beacon Impact Fund ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเงินให้สินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของธนาคารกสิกรไทย โดยเน้นการลงทุนโดยตรงในบริษัทสตาร์ทอัพ หรือผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุนทั่วโลก ที่พัฒนาโซลูชัน นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เป็นหลัก สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของธนาคารกสิกรไทยในการเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น เสริมความพร้อมในก้าวสู่อนาคตร่วมกัน และสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและทั่วถึง

 

ปัจจุบันกองทุน Beacon Impact Fund ได้ส่งมอบเงินลงทุนไปแล้วรวมทั้งสิ้น 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 600 ล้านบาท โดยมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกในมิติต่าง ๆ ของ ESG ที่สามารถวัดผลได้และมีศักยภาพในการขยายผลในวงกว้าง ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกองทุน Beacon Impact Fund ในการส่งเสริมความยั่งยืนและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และและภูมิภาคอื่นทั่วโลก สำหรับปี 2568 นี้ กองทุน Beacon Impact Fund ได้ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติมใน 3 โครงการสำคัญ ได้แก่

 

• Quantified Energy (QE) สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ผู้นำด้านเทคโนโลยีตรวจสอบแผงโซลาร์สำหรับ Utility-Scale Solar Farm ด้วยโดรนอัตโนมัติแบบ Electroluminescence (EL) Mapping Solution ซึ่งมีความแม่นยำในการวัดการสูญเสียพลังงานและความรวดเร็วในการตรวจสอบที่เหนือกว่าเทคโนโลยีปัจจุบันอย่างชัดเจน โซลูชันของ QE ถูกใช้อย่างกว้างขวางในเอเชีย ยุโรป โอเชียเนีย และตะวันออกกลาง พร้อมทำสถิติโลกด้วยการตรวจสอบแผงโซลาร์กว่า 1 ล้านแผงภายในสามสัปดาห์ เพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการสามารถวัดและบริหารการสูญเสียพลังงานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ


• Arkadiah Technology สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ที่ให้บริการพัฒนาโครงการปลูกป่าเพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาความเป็นไปได้ ไปจนถึงการลงทะเบียนคาร์บอนเครดิตกับองค์กรมาตรฐานระดับโลก เช่น Verra และ Gold Standard รวมถึงการจำหน่ายผ่านเครือข่ายพันธมิตร จุดเด่นสำคัญของ Arkadiah คือการให้บริการ Digital Monitoring, Reporting, and Verification (dMRV) ที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษ ด้วยการใช้เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง เพื่อประมวลผลและผสานข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมและ LiDAR ได้อย่างแม่นยำ ทำให้การติดตามและวัดคาร์บอนเครดิตมีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูง ช่วยเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินของโครงการ และสนับสนุนให้เกิดโครงการปลูกป่าใหม่ในอนาคต


• Raisewell Ventures กองทุนเพื่อสังคม (Impact Fund) จากซิลิคอนแวลลีย์ ที่มุ่งลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Tech) ในสหรัฐอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศไทย กองทุนมุ่งลงทุนในบริษัทช่วงเริ่มต้นถึงระยะกลาง (Early- to Mid-Stage) ในสามกลุ่มหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Tech), การผลิตและซัพพลายเชน (Supply Chain Manufacturing), และ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (Health Tech) โดยมีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และทรัพยากรระหว่างภูมิภาค ส่งเสริมการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมและธุรกิจให้เติบโตในระดับภูมิภาค

 

นายธนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บีคอน วีซี ยังคงมองหาโอกาสลงทุนในสตาร์ทอัพและกองทุนร่วมลงทุนที่สามารถยกระดับศักยภาพและต่อยอดเทคโนโลยีในทุกมิติของ ESG ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ สังคม และธรรมาภิบาล ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาการลงทุนผ่าน Beacon Impact Fund คือ “ผลกระทบเชิงบวกที่สามารถวัดผลได้” ในด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของสตาร์ทอัพ ซึ่งเราคาดหวังว่า เป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้ง (Founder) ใช้เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนหลักการของ ESG ทั้งนี้ บริษัทพร้อมทำหน้าที่เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และผู้เชื่อมโยงโอกาส โดยนำประสบการณ์การลงทุน องค์ความรู้ และเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกต่อไปในอนาคต

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้