Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

SCB EIC คนไทยยุคใหม่ “เลือกเช่า” หรือ “เลือกซื้อ” (EP.2) : ส่องแนวโน้มธุรกิจ “เช่าใช้” … หมัดเด็ดปลุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ยั่งยืน

89

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (15 ธันวาคม 2568 )-----จุดเริ่มต้นของธุรกิจเช่าใช้...เมื่อรักคือการไม่ครอบครอง 


จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ได้เป็นที่มาของ "เศรษฐกิจแบ่งปัน" หรือ Sharing economy ที่เน้นหลักการเข้าถึงการใช้งานมากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของ ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐฯ ที่ได้เริ่มพัฒนาระบบการนำสินค้าหรือบริการมาเสนอให้ผู้อื่นได้ “เช่าใช้” เพื่อแลกกับค่าบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Netflix และ YouTube โดยการให้บริการจะอยู่ในรูปแบบการสมัครสมาชิก (Subscription economy) โดย SCB EIC คาดว่ารูปแบบธุรกิจ Subscription economy ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากตัวเลือกของผู้ให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลของ Grandview research ที่คาดว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจ Subscription economy ของโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 13.3% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2025-2033 หรืออยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2033  


ธุรกิจ “เช่าใช้” สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มขยายตัวตามความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่สนใจการ “เช่าใช้” มากขึ้น


ปัจจุบันแนวคิด Subscription economy ได้ขยายขอบเขตที่กว้างขึ้นมาสู่ การ “เช่าใช้สินค้าในครัวเรือน”  ซึ่งรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำลังซื้อที่ลดลงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคยุคใหม่มีความต้องการเป็นเจ้าของสินค้าลดลงและต้องการใช้งานสินค้าที่ยืดหยุ่นมากขึ้น จึงเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจ “เช่าใช้” เครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวและเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา โดยจากข้อมูลของ Grandview research คาดการณ์ว่า ตลาดเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 9.2% ต่อปี (ระหว่างปี 2025-2030) ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้บริโภคชาวไทยก็เริ่มให้ความสนใจการ “เช่าใช้” สินค้าในครัวเรือนมากขึ้น สะท้อนได้จากข้อมูลผลสำรวจของ SCB EIC Consumer survey ภายใต้หัวข้อ สำรวจใจคนไทยยุคใหม่ “เลือกเช่า” หรือ “เลือกซื้อ”  โดยพบว่า ผู้บริโภคราว 42% สนใจการเช่าใช้สินค้าในครัวเรือน โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในคอนโด ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม และหอพัก โดยแรงจูงใจหลักคือไม่ต้องการจ่ายการซ่อมบำรุง และต้องการทดลองใช้สินค้าพรีเมียมหลายยี่ห้อมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจยังให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคบางส่วนยังคงไม่สนใจการเช่าใช้เนื่องจากข้อจำกัด/เงื่อนไขของสัญญาเช่าและยังมีตัวเลือกค่อนข้างจำกัด 


ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการเช่า จึงเพิ่มรูปแบบการขายให้ครอบคลุมถึงการ “เช่าใช้” มากขึ้น นอกจากการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการได้เริ่มวางกลยุทธ์ใหม่ ๆ 


ที่ครอบคลุมถึงการ “เช่าใช้” เพื่อให้ผู้บริโภคยุคใหม่สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเช่าเครื่องใช้ไฟฟ้า LG ในเกาหลีใต้ที่โตเฉลี่ย 30%CAGR (2020-2024) ดันรายได้ในปี 2020 จาก 5.9 แสนล้านวอน เพิ่มขึ้นเป็น 1.67 ล้านล้านวอนในปี 2024 หรือมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการ “เช่าใช้” เพิ่มขึ้นจาก 1% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2020 มาอยู่ที่ 2% ในปี 2024 แม้ว่า LG จะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจเช่าใช้มากขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าธุรกิจให้เช่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG ในเกาหลีใต้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สร้างรายได้ให้กับ LG ควบคู่ไปกับการขายขาดในระยะข้างหน้า สะท้อนได้จากรายได้จากยอดขายของ LG Electronics ที่ยังมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 10%CAGR (2020-2024) 


สำหรับไทย SCB EIC มองว่า ธุรกิจ "เช่าใช้" อาจเป็นกลยุทธ์เสริมที่ช่วยทำให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยเติบโตได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนมากขึ้น 


SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจ Subscription economy ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการซื้อขาดเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันก็ถือได้ว่าเป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เงินก้อน หรือไม่มีความสามารถทางการเงินที่จะซื้อขาด และเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อนำความคิดเห็นไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้วยการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังเผชิญความท้าทายอีกหลากหลายมิติ ทั้งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้เล่นใหม่ และความต้องการซื้อสินค้าใหม่ที่ลดลง แม้โมเดล Subscription จะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ แต่ก็มีโจทย์ท้าทายด้านการบริหารต้นทุนและการจัดการสินทรัพย์/ค่าเสื่อมราคา รวมถึงปัญหาสินค้าตกรุ่นหรือการยกเลิกสัญญา ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคต


อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สนใจโมเดลธุรกิจในรูปแบบการ “เช่าใช้” ควรเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ดังนี้ 


1) วางแผนพัฒนาการให้บริการหลังการขายเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการมัดใจผู้บริโภค โดยออกแบบโปรแกรมเพื่อให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งการซ่อมบำรุง การตรวจสอบสภาพสินค้า ซึ่งการใส่ใจการให้บริการหลังการขายอาจเป็นหมัดเด็ดของการ “เช่าใช้” ที่การ “ซื้อขาด” ทำได้ค่อนข้างจำกัด เช่น การเปลี่ยนหรือคืนสินค้าในระยะเวลาที่พ้นกำหนดการรับประกัน การให้บริการซ่อมบำรุงสินค้าที่การซื้อขาดอาจมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 2) การออกแบบโพรโมชันที่จูงใจ โดยนำเสนอระดับราคาที่หลากหลาย มีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่าและจัดโปรแกรมพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับประเภทที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไปจนถึงจัดโปรแกรมสินค้าพรีเมียมสำหรับผู้ที่สนใจสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าสูง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่ยังไม่ต้องการจ่ายเงินจำนวนมากสามารถเข้าถึงสินค้าเหล่านี้ 3) เสนอทางเลือกของสัญญาให้มีความยืดหยุ่น มีการจัดโปรแกรมระยะสั้น 6 เดือนถึง 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ต้องการทดลองใช้บริการสินค้า 4) สร้างแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น เช่น โปรแกรมวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์เพื่อเลือกสินค้าที่เหมาะกับลูกค้า การเปรียบเทียบราคาหรือรุ่นที่สนใจ เป็นต้น และ 5) ให้ความสำคัญเรื่องการบริโภคแบบยั่งยืน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ ด้วยการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงการใช้บริการ “เช่าใช้” ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระยะข้างหน้า 


อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังเผชิญความเสี่ยงรอบด้านทั้งจากแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้น รวมไปถึงจากการทะลักเข้ามาของสินค้านำเข้าราคาถูกจากจีน ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นการเข้าถึงสินค้าและบริการมากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต่างต้องงัดไม้เด็ดเพื่อทำให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้ โดย SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่ช่วยเสริมทัพให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เติบโตได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนมากขึ้น
จุดเริ่มต้นของธุรกิจเช่าใช้...เมื่อรักคือการไม่ครอบครอง


แนวคิดเศรษฐกิจแบ่งปันหรือ Sharing economy คือจุดเริ่มต้นของรูปแบบธุรกิจ Subscription economy ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเติบโตไปอย่างรวดเร็วและผู้บริโภคให้ความสนใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จนได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจแบ่งปันหรือ Sharing economy ที่เน้นหลักการเข้าถึงการใช้งานมากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของ โดยรูปแบบเศรษฐกิจแบ่งปันได้เริ่มเข้ามาแทนที่การซื้อขายแบบดั้งเดิมหรือ “ซื้อขาด” ซึ่งส่งผลให้รูปแบบธุรกิจ Subscription economy ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2008 ที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก ได้กลายเป็นตัวเร่งของธุรกิจ Subscription economy ซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการแบบสมัครสมาชิกตามแนวคิดของเศรษฐกิจแบ่งปัน มีการพัฒนาระบบของการนำสินค้าหรือบริการมาเสนอให้ผู้อื่นได้ “เช่าใช้” เพื่อแลกกับค่าบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นตัวกลาง เช่น Netflix และ YouTube ไปจนถึงการให้บริการบ้านพักชั่วคราว (Airbnb) และ การเช่าหรือใช้บริการรถยนต์ (Uber) จนกระทั่งปัจจุบันรูปแบบธุรกิจ Subscription economy ได้ขยายขอบเขตมายังการ “เช่าใช้สินค้าในครัวเรือน” เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ในส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องมือไฟฟ้าหรือเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำความสะอาด เป็นต้น โดย SCB EIC คาดว่า รูปแบบธุรกิจ Subscription economy ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากตัวเลือกของผู้ให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น สะท้อนได้จากข้อมูลของ Grandview research  ที่คาดว่ามูลค่าตลาดของธุรกิจ Subscription economy โลกจะมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 13.3% ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2025-2033 หรืออยู่ที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2033  (รูปที่ 1) 


เมื่อธุรกิจ “เช่าใช้” ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป


ผู้บริโภคยุคใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจการเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าการซื้อขาด


เพื่อครอบครอง อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าโลกกำลังเผชิญอุปสรรคมากขึ้น จากทั้งแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในระยะถัดไป ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้บริโภคยุคใหม่


มีความต้องการเป็นเจ้าของสินค้าลดลงและมีความต้องการใช้งานสินค้าที่ยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงต้องการทดลองใช้สินค้าพรีเมียมหรือสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ด้วยเหตุนี้เอง 


จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รูปแบบธุรกิจ Subscription economy ในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าขยายตัวและกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา โดยจากข้อมูลของ Grandview research  ที่ระบุว่า ตลาดเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของโลกมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 9.2% ต่อปี ในช่วงปี 2025-2030 หรืออยู่ที่ราว 7.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มให้ความสนใจการ “เช่าใช้” สินค้าในครัวเรือนมากขึ้น สะท้อนได้จากผลสำรวจพฤติกรรมการใช้งานผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคชาวไทยจากข้อมูลของ SCB EIC Consumer survey ภายใต้หัวข้อ สำรวจใจคนไทยยุคใหม่ “เลือกเช่า” หรือ “เลือกซื้อ”  ที่พบว่า ผู้บริโภคราว 42% ของผู้ตอบแบบสำรวจสนใจการเช่าใช้สินค้าในครัวเรือน โดยเฉพาะผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในคอนโด ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม และหอพัก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Gen Y และกลุ่ม Gen X (รูปที่ 2) 

 


โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มสนใจการเช่าใช้มากกว่าการซื้อขาด คือ 1) ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ต้องการมีภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเพิ่มเติม 2) ราว 58% ของผู้ตอบแบบสำรวจสนใจการ “เช่าใช้” เนื่องจากมีโอกาสได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่หรือสินค้าพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีมูลค่าค่อนข้างสูง การเช่าจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ก่อนตัดสินใจ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก 3) ผู้บริโภคราว 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจเริ่มมองว่าประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญและต้องการมีส่วนร่วมในแนวคิดเศรษฐกิจแบ่งปัน โดยไม่ต้องการเป็นเจ้าของระยะยาวและมองว่าการเช่าใช้จะสามารถช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้มากขึ้นในอนาคต ขณะที่ผู้บริโภคบางส่วนไม่ต้องซื้อขาดเนื่องจากย้ายที่อยู่บ่อยและไม่ต้องการเสียเงินก้อน อย่างไรก็ดี ยังมีผู้บริโภคมากกว่าครึ่งที่ไม่สนใจใช้บริการ “เช่าใช้” มากเท่าไหร่นัก เนื่องจาก 1) ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงนิยมการ “ซื้อขาด” มากกว่า “เช่าใช้” 2) ผู้บริโภคเกือบครึ่งไม่มั่นใจคุณภาพของสินค้า ไม่มีข้อมูลมากเพียงพอสำหรับตัดสินใจและไม่เคยเช่าใช้มาก่อน 3) ผู้บริโภคราว 1 ใน 3 ยังคงมองว่าการเช่ามีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการซื้อขาด และผู้บริโภคบางส่วนยังคงไม่สนใจการเช่าใช้ เนื่องจากข้อจำกัด/เงื่อนไขของสัญญาเช่าและยังมีตัวเลือกในตลาดค่อนข้างจำกัด
สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคชาวไทยสนใจ “เช่าใช้” มากที่สุดคือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยพบว่าผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าครึ่งสนใจ “เช่าใช้” เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า และผู้บริโภคราว 1 ใน 3 สนใจ “เช่าใช้” เครื่องปรับอากาศ, ทีวี และตู้เย็น นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้บริโภคชาวไทยเกือบครึ่งเต็มใจที่จะจ่ายเงินแต่จะต้องไม่เกิน 5% ของราคาเต็มผลิตภัณฑ์/เดือน/ชิ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคบางส่วนเต็มใจที่จะจ่ายมากกว่า 5% ของราคาเต็มผลิตภัณฑ์/เดือน/ชิ้น เพื่อที่จะได้ทดลองใช้สินค้าพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ 30,000-50,000 บาทต่อเดือน สะท้อนได้ว่ากลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ยืดหยุ่น โดยผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าพรีเมียมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเอง 

เสริมรายได้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยโปรแกรม “เช่าใช้” 


ปัจจุบันผู้ประกอบการได้เพิ่มรูปแบบการขายให้ครอบคลุมถึงการ “เช่าใช้” เพื่อเพิ่มทางเลือกในการให้บริการกับลูกค้าที่ยังไม่อยากซื้อขาดมากขึ้น ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มเบนเข็มไปที่ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแรงหนุนของนวัตกรรมที่ช่วยผลักดันให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart home devices) เติบโตต่อเนื่อง จนมาถึงยุคที่เทคโนโลยี AI เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผู้ประกอบการในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า


ที่ได้เริ่มนำเทคโนโลยี AI มาช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามีความพรีเมียมและดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ส่งเสริมให้ AI เปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถควบคุมคำสั่งผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบสั่งงานด้วยเสียง จากการเชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi โดยคาดว่าผู้ผลิตที่เข้ามาลงทุนในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้มีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากขึ้นและอาจกลายเป็นมาตรฐานกลางของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในระยะข้างหน้า นอกเหนือไปจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปแล้ว ผู้ประกอบการยังได้เริ่มวางกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่ดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น ด้วยการเพิ่มรูปแบบการขายให้ครอบคลุมถึงการเช่าใช้ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ยังไม่อยากซื้อขาด ให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้มากขึ้น นอกจากนี้ การเช่าใช้ยังช่วยส่งเสริมการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ของโลกเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนอีกด้วย 


บริษัท LG ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายแรกของเกาหลีที่ได้เริ่มนำรูปแบบ LG Subscribe หรือการ “เช่าใช้” มาให้บริการลูกค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการหารายได้ให้กับบริษัท นับตั้งแต่ปี 2009 จากการนำเครื่องกรองน้ำมาให้บริการเช่ารายเดือน และได้ขยายขอบเขตมายังสินค้าอื่น ๆ มากขึ้น เช่น เครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น และทีวี จนปัจจุบันมีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าให้บริการมากกว่า 300 รายการ ซึ่งในปี 2020 พบว่า บริษัท LG ในเกาหลีใต้ทำรายได้จากธุรกิจเช่าเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก 5.9 แสนล้านวอน มาอยู่ที่ 1.67 ล้านล้านวอนในปี 2024 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2020-2024 หรือมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการ “เช่าใช้” เพิ่มขึ้นจาก 1% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2020 มาอยู่ที่ 1.9% ในปี 2025 แม้ว่า LG จะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจเช่าใช้มากขึ้น แต่รายได้หลักของธุรกิจยังคงมาจากการขายขาด ดังนั้น ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีทิศทางชะลอตัว คาดว่าธุรกิจให้เช่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG ในเกาหลีใต้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สร้างรายได้ให้กับ LG ควบคู่ไปกับการขายขาดในระยะข้างหน้า สะท้อนได้จากรายได้จากยอดขายของ LG Electronics ที่ยังมีอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 10% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2020-2024 (รูปที่ 4)

ขณะเดียวกัน ธุรกิจเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มขยายขอบเขตมายังไทยมากขึ้นทั้งกลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายเล็กและรายใหญ่ โดยรายแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยคือบริษัท Coway จากเกาหลีใต้ โดยบริษัทฯ ได้เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของตัวเองจากการขายเครื่องกรองน้ำแบบขายขาด ไปสู่รูปแบบ Subscription model (เช่าใช้รายเดือน) เป็นหลัก นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่พบว่า ในปี 2020 บริษัท Coway ประเทศไทย มีรายได้จากการประกอบกิจการเพิ่มขึ้นจาก 790 ล้านบาท มาอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ในปี 2024 หรือมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 39% ต่อปีในช่วงระหว่างปี 2020-2024 โดยปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มตัวเลือกสินค้าและรุ่นที่หลากหลายมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง LG ที่ประสบความสำเร็จจาก LG Subscribe ในเกาหลีใต้มาแล้ว และได้ขยายตลาดมายังไทย โดยจากที่เคยเน้นแค่การขายขาดก็ได้มีการเพิ่มรูปแบบการให้บริการ LG Subscribe Thailand ในช่วงปลายปี 2024 ที่ผ่านมา โดยโมเดลของ LG ที่วางเอาไว้จะมีตัวเลือกสินค้าที่ค่อนข้างหลากหลายมากขึ้น ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เช่น เครื่องกรองน้ำ, เครื่องดูดฝุ่น, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า ไปจนถึง โทรทัศน์รุ่นพรีเมียม โดยจากข้อมูลพบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 มีผู้ใช้บริการ LG Subscribe ราว 10,000 ราย โดย LG ได้ตั้งเป้าผู้ใช้บริการไว้ที่ 30,000 ราย ภายในสิ้นปี 2025 (รูปที่ 5)
รูปที่ 5 : ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และเริ่มขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่ต้องการซื้อขาดให้ได้เข้าถึงสินค้ามากขึ้น



ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยโมเดล “เช่าใช้”


ธุรกิจ "เช่าใช้" อาจเป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ช่วยทำให้อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตได้ต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นและความเสี่ยงจากความต้องการ “ซื้อขาด” ที่อาจลดลงในระยะข้างหน้า


SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจ Subscription economy ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการซื้อขาดเพียงอย่างเดียว และเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของสินค้าแต่ต้องการเข้าถึงสินค้าพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่มีความสามารถทางการเงินที่จะซื้อขาด หรือไม่ต้องการใช้เงินก้อน ขณะเดียวกัน ก็เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อนำความคิดเห็นไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้วยการลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากอีกหลายมิติทั้งจากการแข่งขันที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากผู้เล่นรายใหม่ ๆ ความต้องการซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ที่อาจลดลง แม้การให้บริการในรูปแบบ Subscription economy จะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ แต่ยังคงมีความท้าทายทั้งจากการบริหารต้นทุนและการจัดการสินทรัพย์รวมถึงการประเมินค่าเสื่อมราคา เมื่อสินค้าตกรุ่นหรือถูกลูกค้ายกเลิกสัญญา ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีการปรับกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนไปในระยะข้างหน้า 

SCB EIC ได้รวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านผลสำรวจ SCB EIC Consumer survey ภายใต้หัวข้อ สำรวจใจคนไทยยุคใหม่ “เลือกเช่า” หรือ “เลือกซื้อ” ทั้งจากผู้บริโภคที่สนใจและไม่สนใจการเช่าใช้ ว่าปัจจัยใดจะสามารถเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาเช่าสินค้าในครัวเรือนมากขึ้นในอนาคต ซึ่งหัวใจสำคัญของธุรกิจ “เช่าใช้” ไม่ได้อยู่ที่สินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อยู่ที่ "บริการเสริม" และ "ความยืดหยุ่น" ที่สามารถมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยพบว่า 1) ผู้บริโภคเกินครึ่งเห็นว่าบริการเสริมจากผู้ให้บริการมีความสำคัญมากที่สุด เช่น การซ่อมบำรุง การรับประกัน เป็นต้น โดยสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นปัญหาหรือ Pain point ของผู้บริโภคมากที่สุดสำหรับการซื้อขาดคือเมื่อสินค้าเสียหายในช่วงที่สินค้าเลยกำหนดระยะเวลาในการรับประกันไปแล้ว ทำให้ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่าบำรุงรักษาหรือเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่สินค้าเอง 2) ผู้บริโภคราวครึ่งหนึ่งเห็นว่าราคาแพ็กเกจหรือโพรโมชันที่จูงใจและสัญญาเช่าซื้อที่มีความยืดหยุ่น อาจเป็นแรงจูงใจให้เปิดใจลองเลือกบริการ “เช่าใช้” มากขึ้น และ 3) ผู้บริโภคราว 1 ใน 3 เห็นว่าการนำสินค้าที่พรีเมียมมาเปิดให้บริการและจำนวนผู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีผู้บริโภคบางส่วนเห็นว่าแรงจูงใจสำคัญ คือระบบการจองที่ง่ายต่อการเข้าถึง ความคิดเห็นของผู้ที่เคยใช้บริการมากก่อน และให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนและเห็นว่าการ “เช่าใช้” อาจช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมลงได้บ้าง (รูปที่ 6)


จากรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สนใจนำโมเดล “เช่าใช้” มาช่วยเสริมรายได้ทางธุรกิจ ควรเร่งดำเนินการปรับกลยุทธ์ในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ดังนี้ 


1) วางแผนพัฒนาการให้บริการหลังการขายเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์หลักในการมัดใจผู้บริโภค จากการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของลูกค้ามาพัฒนาสินค้าและการให้บริการ มีการออกแบบโปรแกรมเพื่อให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งการซ่อมบำรุง การตรวจสอบสภาพสินค้าเป็นระยะ มีนโยบายการเปลี่ยนคืนสินค้าเมื่อเกิดปัญหาตลอดระยะเวลาที่ระบุในสัญญา ซึ่งการใส่ใจการให้บริการแบบครบวงจรอาจเป็นหมัดเด็ดของการ “เช่าใช้” ที่การ “ซื้อขาด” อาจทำได้จำกัด โดยเฉพาะการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าในระยะเวลาที่พ้นกำหนดการรับประกันไปแล้วและการให้บริการซ่อมบำรุงสินค้าที่การซื้อขาดอาจมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 


2) การออกแบบโพรโมชันที่จูงใจ โดยนำเสนอราคาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับตอบโจทย์กลุ่มกำลังซื้อหลากหลายกลุ่ม โดยอาจมีราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่าสำหรับสินค้าพื้นฐาน และจัดโปรแกรมพิเศษสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับประเภทที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคทั้ง โปรแกรมมินิมอล โปรแกรมคู่รัก หรือครอบครัว ไปจนถึงโปรแกรมสินค้าพรีเมียมสำหรับผู้ที่สนใจสินค้านวัตกรรมราคาสูง 


3) เสนอทางเลือกของสัญญาให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีการจัดโปรแกรมระยะสั้น 6 เดือนถึง 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ต้องการทดลองใช้บริการสินค้า และมีการจัดโปรแกรมระยะยาว 3-5 ปี สำหรับลูกค้าที่ต้องการโปรแกรมที่คุ้มค่าเมื่อต้องการ “เช่าใช้” ระยะยาว 


4) สร้างแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชัน ที่มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น และสามารถเลือกสินค้าที่เหมาะกับความต้องการได้อย่างโดนใจ เช่น การ Personalization โดยอาจจะมีโปรแกรมวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์เพื่อเลือกสินค้าที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละราย การเปรียบเทียบราคาหรือรุ่นที่สนใจ เป็นต้น 


5) ให้ความสำคัญเรื่องการบริโภคแบบยั่งยืน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ ด้วยการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงการใช้บริการ “เช่าใช้” ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระยะข้างหน้า อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังเผชิญความเสี่ยงรอบด้านทั้งจากแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่น
ที่หลากหลายมากขึ้น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่ส่งผลให้กำลังซื้อลดลง รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นการเข้าถึงสินค้าและบริการมากกว่าการครอบครองเป็นเจ้าของมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการต่างต้องงัดไม้เด็ดเพื่อทำให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้ โดย SCB EIC มองว่า รูปแบบธุรกิจเช่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่ช่วยเสริมทัพให้ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เติบโตได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนมากขึ้น 


บทวิเคราะห์โดย... https://www.scbeic.com/th/detail/product/Buy-or-Rent-EP2-081225

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้