คาด SET Index แกว่งตัวออกข้าง: แรงกดดันจากความกังวลฟองสบู่ AI ประกอบกับความกังวลว่าสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาจะนำไปสู่การชะงักงันการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯหรือไม่หากแต่มองทางลงจำกัด ท่ามกลางความหวังในการผ่อนคลายนโยบายการเงินของไทยในสัปดาห์นี้

แนวรับ-ต้าน
1,245 –1,265

กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งเข้าคำนวณ SET50/100 รอบ 1H69: ITC50, SAWAD50, GFPT100, PTG100, STECON100
2) เข้าคำนวณ FTSE SET: THAILarge cap, SCCCMid cap
3) Yield play: AP, BGRIM,GPSC,GULF, GUNKUL, MTC, QH, SAWAD, SIRI, SPALI, TIDLOR
4) หุ้นรับเลือกตั้ง69:ADVANC,CPALL,SCB, TRUE
5) Selective play: BA, BDMS, BH, KKP, TFG

อยู่บนความสับสนและอยู่บนความหวัง
ความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ AI: คาด Sentiment เชิงลบมาจากการเข้าสู่โหมด Risk-offของนักลงทุนสอดรับกับตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ อย่าง DowJones, S&P500 และ Nasdaq ที่ปรับตัวลง 0.51%, 1.07% และ 1.69%ตามลำดับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยภาพข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่ AI โดย Broadcom(AVGO) ร่วงลง 11.43% หลังบริษัทเตือนถึงผลกำไรในอนาคตที่อาจลดลง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรจากการลงทุนด้านAI

สงครามไม่จบ การเจรจาการค้าจะเดินหน้าต่อจริงหรือ:คาดนักลงทุนมีแนวโน้มเปิดรับสถานะเสี่ยงต่อ SETIndexอย่างจำกัด รวมถึงมีแนวโน้มชะลอการลงทุนออกไป ท่ามกลางความกังวลว่าการทำสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชาจะนำไปสู่การชะงักงันในการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ หรือไม่ แม้รมว.พาณิชย์ไทย (รักษาการ)เผยว่าในวันที่ 13 ธ.ค.68 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้แจ้งให้ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าจะประสานแจ้งให้ USTRเดินหน้าการหารือในระดับเทคนิคกับไทย แต่หลังการหารือระหว่างผู้นำไทยกับสหรัฐฯในคืนวันที่ 12 ธ.ค.68 เราพบว่าผู้นำทั้ง 2 ชาติมีการเผยถึงมุมมองที่แตกต่างกันอยู่บ้าง โดยนายกฯไทย (รักษาการ) เผยปธน.สหรัฐ ฯต้องการให้มีการหยุดยิง ซึ่งเขาได้เรียนว่าขอให้ไปบอกกัมพูชาดีกว่า โดยกัมพูชาต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่ากัมพูชาจะหยุดยิงแล้วจะถอนกำลังออกไปรวมถึงเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่วางไว้ทั้งหมดขณะที่ด้านปธน.สหรัฐ ฯเผยว่าทั้งไทยกับกัมพูชาตกลงที่จะยุติการยิงทั้งหมด โดยให้มีผลตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 ธ.ค.68 (ตามเวลาสหรัฐฯ) และกลับสู่ข้อตกลงสันติภาพอย่างไรก็ดีการยุติการยิงนั้นไม่ได้เกิดขึ้น นอกจากนี้ในวันข้างต้นปธน.สหรัฐฯยังได้ให้สัมภาษ์กับ WSJ ว่าเขาได้ใช้มาตรการทางภาษี เพื่อจัดการกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

ความหวังแรงส่งจากนโยบายการเงิน: มองทางลงจำกัด ท่ามกลางแรงหนุนจากความหวังที่มากขึ้นต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินของไทย หลังแรงส่งทางการคลังเริ่มมีบทบาทจำกัดจากการที่สถานะของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นรัฐบาลรักษาการ โดยเราคาดกนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.25% p.a. ในวันที่ 17 ธ.ค.68

ติดตามจีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจ: ขณะที่วันนี้ติดตามการเผยตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.68 ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตในภาคอุตฯ

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)บสย.เผยผลดำเนินงาน 11M68 มียอดค้าประกันสินเชื่อ 35,781 ล้านบาท ซึ่งก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน 46,635 ล้านบาท และสามารถช่วย SMEs ได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้น 45,337 ราย สามารถรักษาจ้างงาน 467,249 ตำแหน่งและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้าประกันได้มากกว่า 147,776 ล้านบาท
(+)จีนส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 69 แต่จะหลีกเลี่ยงการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ เพื่อรักษาระดับการเติบโตในระยะยาว นักเศรษฐศาตร์คาดการณ์ว่าปี 69 จีนจะขาดดุลงบประมาณราว 4% ของ GDP ในปี 68
(-) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยว่าสหรัฐฯขาดดุลการค้าลดลง 10.9% ในเดือนก.ย.68 แตะที่ระดับ 5.28 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.63 เนื่องจากการส่งออกพุ่งขึ้นอย่างมาก ในขณะที่การนำเข้าขยับขึ้นเล็กน้อย มองเป็นลบต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วัชรพล สร้างกุศล – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์