สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 28 พฤศจิกายน 2568 )-------กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ลงพื้นที่ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานพันธมิตร เพื่อปราบปรามธุรกิจนอมินี พื้นที่'อ่าวนาง' จังหวัดกระบี่ ตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด พบพฤติการณ์การใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ เข้าข่ายการกระทำความผิดพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจในพื้นที่
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 20 - 21 พฤศจิกายน 2568 ได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำทีมปราบนอมินีลงพื้นที่ 'อ่าวนาง' จังหวัดกระบี่ ร่วมกับคณะทำงานชุดเฉพาะกิจเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายระดับจังหวัด (จังหวัดกระบี่) เพื่อลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด โดยมีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมือง กรมสรรพากร จัดหางานจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด พิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานในพื้นที่ ตรวจค้น 2 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เป้าหมายแรกเป็นบริษัท ฮิลเลล เฮาส์ จำกัด และสามารถจับกุมชาวต่างชาติซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทและเป็นกรรมการที่ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นธุรกิจต้องห้ามตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลจับกุมคนไทยเพิ่มเติมอีก 2 ราย ที่รับเป็นนอมินีให้กับชาวต่างชาติ
สำหรับการตรวจค้นเป้าหมายที่สองในเวลาใกล้เคียงกัน คือ บริษัท กระบี่ แอดไวเซอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการในเรื่องการรับจ้างจดทะเบียนบริษัทให้ชาวต่างชาติรวมถึงบริการให้คำปรึกษาและดำเนินการแทนเกี่ยวกับการขออยู่พำนักในประเทศไทย การขอวีซ่าประเภทต่างๆ ซึ่งการตรวจค้นในครั้งนี้ ยังพบข้อมูลที่อาจเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจอื่นและจะตรวจสอบขยายผลเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายครอบครองธุรกิจของชาติอย่างไม่ถูกต้องต่อไป
อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดกระบี่ มีนิติบุคคลที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ จำนวน 4,471 ราย เป็นบริษัทจำกัด จำนวน 3,463 ราย ห้างหุ้นส่วนสามัญ/ห้างหุ้นส่วนจำกัดจำนวน 1,004 ราย และบริษัทมหาชนจำกัด 4 ราย จากผลการตรวจสอบพบธุรกิจที่มีลักษณะต้องสงสัยเกี่ยวกับการใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติ (นอมินี) ซึ่งจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ควรพิจารณาดำเนินการตรวจสอบ 401 ราย
กรมฯ เน้นย้ำให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปราบปรามการใช้คนไทยถือหุ้นแทนชาวต่างชาติและบัญชีม้า เพราะเป็นการบิดเบือนโครงสร้างทางเศรษฐกิจและทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบในการแข่งขัน พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมสรรพากร กรมจัดหางาน สำนักงานที่ดิน และหน่วยงานในพื้นที่