AT THE OPEN (#ATO)

SET Index แกว่งออกข้าง 1240-1260
หุ้นเด่นเลือก AOT

Market Strategy
SET Index แกว่งออกข้าง 1240-1260 จุด จากน้ำมันทรงตัวจับตาเจรจาแผนสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน น้ำท่วมใต้กระทบจำกัด คาดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หุ้นเด่นวันนี้เลือก AOT
ปัจจัยต่างประเทศ วานนี้ราคาน้ำมันดิบแกว่งทรงตัว +0.3% จากตลาดจับตาความคืบหน้าแผนสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดประธานาธิบดีปูติน เผยพร้อมเจรจา ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีการพบกันระหว่างตัวแทนสหรัฐฯ-รัสเซียต่อไป สถานการณ์ข้างต้นยังเป็นตัวสร้างความผันผวนต่อราคาน้ำมันต่อไป แต่เราเชื่อว่าการเจรจาคงไม่จบได้เร็ว ส่วนการประชุม OPEC+ ในปลายสัปดาห์ คาดว่าจะคงกำลังการผลิตตามแผนเดิมถึง 1Q69 จึงไม่น่าจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อราคาน้ำมัน โดยการลงทุนในกลุ่มพลังงาน เราชอบกลุ่มโรงกลั่นจากค่าการกลั่นที่ยืนในระดับสูง โดยเลือก SPRC เป็น Top Pick

ปัจจัยในประเทศให้น้ำหนักไปที่ผลกระทบของน้ำท่วมของภาคใต้ ภายหลังเริ่มเห็นสัญญาณหลายพื้นที่น้ำเริ่มลดระดับลง ซึ่งเราประเมินผลกระทบต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนเป็นไปอย่างจำกัด เพราะส่วนใหญ่บริษัทมีการดำเนินงานในพื้นที่ไม่มาก และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงก็น่าจะได้รับผลกระทบต่อกำไรเพียงราว 1–3% เท่านั้น ด้านผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แม้ไม่นับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม เราคาดว่า GDP ของไทยจะเติบโตเพียง 1.3% ใน 4Q68 อยู่แล้ว ขณะที่น้ำท่วมอาจกดดันเพิ่มเติมอีกประมาณ 0.47pt ต่อประมาณการ 4Q68 และเมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวต่ำกว่า 2% ยาวต่อเนื่องถึง 2Q69 เราจึงคาดว่าธปท.จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. และอีกครั้งในช่วงต้นปี 2569 (ประชุมครั้งแรกวันที่ 25 ก.พ.69) ขณะที่ระยะถัดไปเชื่อว่าจะเห็นมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาจากรัฐบาลตามมา

ในเชิงกลยุทธ์เรามอง 2 กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม 1) กลุ่มสินค้าปรับปรุงบ้าน ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน HMPRO และ GLOBAL 2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น SCCC และ TASCO

Market Summary
SET Index ลดลง 8.5 จุด (-0.7%) กลุ่มที่กดดันหลักจาก DELTA กดดันดัชนี 6 จุด และกลุ่ม ICT กดดัน -2 จุดจาก ADVANC -1.6% และ TRUE -3.6% จากความกังวลผลกระทบน้ำท่วมและธนาคารกดดัน -1.2 จุด จากกระแสลดดอกเบี้ยฯของ FED ส่วนกลุ่มบวกกลุ่มพลังงาน BCP (+2.7%) ปรับขึ้นจากแผนซื้อหุ้นคืน กลุ่มท่องเที่ยวที่ Valuation ถูกอย่าง ERW +1.8% และ MINT +0.9% กลุ่มไฟแนนซ์ +0.3% แรงซื้อคืนหลังเราประเมินผลกระทบต่อประมาณกำไรกลุ่มจำกัด จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ รวมถึงความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของ กนง. นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 874 ล้านบาทเช่นเดียวกับสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 669 ล้านบาท

DAILY Stock Pick
AOT
การปรับขึ้น PSC เป็นปัจจัยหนุน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 49.00 บาท
ForwardKeys คาดว่าอุปสงค์นักท่องเที่ยวเดินมาไทยใน 4Q68 ใกล้เคียงระดับ 4Q67 โดยเฉพาะกลุ่ม long-haul ที่ยังแข็งแกร่ง และการขอปรับ PSC ขึ้นในเดือน ธ.ค. เป็นปัจจัยหนุน
ขณะที่ความกังวลจากทั้ง duty free และน้ำท่วม เริ่มคลี่คลาย โดยการจะมีการขออนุมัติเพื่อกำหนด MAG ใหม่ในวันที่ 28 พ.ย. 68 ส่วนสนามบินหาดใหญ่ คิดเป็น 0.7% ของรายได้ AOT ปี 68 ช่วยจำกัด Downside

Technical View
แนวรับ : 43.25 บาท
แนวต้าน : 46.50 บาท
จุดตัดขาดทุน : 42.00 บาท

WEEKLY Stock Pick
BBL
valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180.00 บาท
เราชอบ BBL เนื่องจาก ฐานรายได้หลากหลาย งบดุลแข็งแกร่ง โดยปี 69 เราคาดกำไรเติบโต 5.6% เทียบกับกลุ่มที่ 5% เนื่องจากบริษัทสามารถบริหาร Opex ได้ดีขึ้น และ credit cost ที่ลดลง
BBL YTD +3% เทียบกับ ดัชนีกลุ่ม Bank +10.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ปัจจุบันถูกซื้อขายที่ PBV’69 ที่ 0.48 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่ม Bank พร้อมกับอัตราเงินปันผลที่ 6.4%

Technical View
แนวรับ : 155.00 บาท
แนวต้าน : 160.00 บาท
จุดตัดขาดทุน : 152.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดการเงินโลก เริ่มนิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการวัน Thanksgiving หลังจากขึ้นมาต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ อย่างไรก็ดีภาพรวมการลงทุนยังอยู่ในโหมด risk on และมีโอกาสที่จะยืนระยะต่อเนื่องไปจนการประชุม FOMC (รู้ผล 11 ธ.ค.) ซึ่งจะมีการส่งสัญญาณดอกเบี้ยในปีหน้า ถือเป็นปัจจัยใหม่ที่ตลาดรอ
ปัจจัยในภูมิภาคมีสัญญาณความเสี่ยงในตลาดอสังหาฯ จีนรอบใหม่ หลังจากที่ China Vanke ขอเลื่อนชำระหนี้สกุลหยวน และตราสารหนี้สกุลดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่ความช่วยเหลือจากผู้ถือหุ้นใหญ่ Shenzhen Metro มีเงื่อนไขเข้มงวดขึ้น ซึ่งยิ่งตอกย้ำความกังวลว่า รัฐบาลอาจไม่ให้ช่วยเหลืออย่างเต็มตัวเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้จะทำให้ sentiment ต่อผู้ประกอบการอสังหาฯ จีนรายอื่น รวมถึงอาจกระทบต่อ sentiment ตลาดหุ้นภูมิภาค

EYES ON
27 พ.ย. กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค-เศรษฐกิจ Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ