Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

SCB EIC ส่งออกเดือน ต.ค. มีสัญญาณชะลอลง ทั้งปียังเติบโตดีจากผลสะสม 9 เดือน ด้านนำเข้าเร่งสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะทองคำ

35

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 พฤศจิกายน 2568 )-----มูลค่าส่งออกสินค้าเดือน ต.ค. 2025 อยู่ที่ 28,835 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตชะลอลงเหลือ 5.7%YOY จาก 19.0%YOY เดือนก่อน และต่ำกว่าที่ประเมินไว้ (SCB EIC ประเมิน 9%) ตัวเลขปรับฤดูกาลหดตัว  -1.9%MOM_SA ลดลงมากจาก 6.6%MOM_SA เดือน ก.ย. ภาพรวมมูลค่าส่งออกสะสม 10 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวสูง 13.0% (รูปที่ 1 และ 2)

ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และส่งออกไปสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยหนุนหลัก ขณะที่ทองคำกลายเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ
 
1)    การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ยังขยายตัวสูงในเดือน ต.ค. แม้หลายสินค้าโดนกำแพงภาษีไปแล้ว โดยส่งออกเดือนนี้ยังขยายตัวสูง 29.1% แม้ชะลอลงจาก 35.3% ในเดือนก่อน หากไม่รวมสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า พบว่า การส่งออกไปสหรัฐฯ ยังขยายตัวสูง 18.7% สะท้อนความต้องการสินค้าไทยในตลาดสหรัฐฯ สูงแม้เผชิญกำแพงภาษี โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐฯ 11 จาก 15 รายการขยายตัวดี โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัวสูง 110.2%, 45.9% และ 22.2% ตามลำดับ การส่งออกไปสหรัฐฯ มีส่วนช่วยให้การส่งออกไทยเดือนนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น (CTG) 6%YOY สูงกว่าการเติบโตของส่งออกรวม 5.7%


2)    การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงต่อเนื่อง จากการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ  ซึ่งยังคงได้รับการยกเว้นอัตราภาษีตอบโต้ วัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และ Data center ที่ขยายตัวทั่วโลก ทั้งนี้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังขยายตัวสูง 38.8% ชะลอลงบ้างจาก 42.6% เดือนก่อน หากพิจารณารายตลาดคู่ค้า พบว่าใน Top-15 ของตลาดส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทย มีจำนวน 12 จาก 15 ตลาดกลุ่มนี้ที่ยังขยายตัว ขณะที่ 10 จาก 15 ตลาดขยายตัวสูงกว่า 30% เช่น สหรัฐฯ, จีน, สิงคโปร์, เม็กซิโก และมาเลเซีย (ขยายตัวสูง 52.8%, 36.4%, 87%, 40% และ 86.4% ตามลำดับ) การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีส่วนช่วยให้การส่งออกไทยเดือนนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้น (CTG) 6.9% สูงกว่าการเติบโตส่งออกรวม 5.7%


3)    ทองคำกลายเป็นปัจจัยกดดันหลัก การส่งออกทองคำไม่ขึ้นรูปหดตัวสูง -76.9% จากที่เคยขยายตัวสูงมาก 212.6% และ 144% ในเดือน ก.ย. และ ส.ค. ตามลำดับ ตลาดส่งออกทองคำไปสวิตเซอร์แลนด์, สิงคโปร์ และกัมพูชาหดตัวสูง -92.4%, -96.3% และ 82% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งตามราคาทองคำโลกที่ปรับลดลง หลังความไม่แน่นอนโลกลดลงจากจีน-สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้าชั่วคราว ทองคำเป็นสินค้าหลักที่กดดันส่งออกเดือนนี้ให้หดตัวถึง (CTG) -6.3% เทียบการเติบโตของส่งออกรวม 5.7% (แตกต่างจากช่วง 9 เดือนแรกมาก ซึ่งทองคำช่วยให้ส่งออกไทยขยายตัวกว่า 2.5% จากมูลค่าส่งออกรวม 13.9%)

การนำเข้าเร่งตัวสูง โดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป เช่น ทองคำ ไทยขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
มูลค่านำเข้าสินค้าเดือน ต.ค. อยู่ที่ 32,272.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 16.3% ต่อเนื่องจาก 17.2% เดือนก่อน แต่สูงกว่าที่ประมาณการไว้มาก (SCB EIC ประเมิน 10.1%) ภาพรวมมูลค่านำเข้า 10 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวสูง 12.4% 
ในเดือนนี้การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (รวมทองคำ) และอาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่น ๆ เร่งตัว 43.5% และ 33.4% ในเดือน ต.ค. ตามลำดับ เติบโตกว่าสองเท่าจาก 18.9% และ 15.1% ในเดือน ก.ย. ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค และยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งแผ่วลงมากที่ 3.1%, -2.7% และ -1.7% ตามลำดับ (เทียบกับเดือนก่อนที่เติบโตสูง 23.7%, 16.6% และ 31.8% ตามลำดับ) ทั้งนี้การนำเข้าเชื้อเพลิงเป็นหมวดเดียวที่หดตัวสูงราว -10% เทียบเดือนก่อนที่หดตัวไม่มาก -0.8.% (รูปที่ 3)

การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปยังคงขยายตัวสูง ส่วนหนึ่งเพราะไทยกลับมานำเข้าทองคำสูงมาก มูลค่านำเข้าหักทองคำเหลือขยายตัวเพียง 4.3% ในเดือนนี้ทองคำนำเข้าขยายตัวสูงถึง 315.3% จากที่เคยหดตัว –44.3% 
ในเดือนก่อน โดยนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, จีน, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์ และฮ่องกงเป็นหลัก ซึ่งขยายตัวสูงถึง 745.7%, 516.1%, 1,436.9%, 327.8%, 779.3% และ 7.1% ตามลำดับ มีสัดส่วนราว 93% ของมูลค่านำเข้าทองคำทั้งหมดเดือนนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากราคาทองคำที่ลดลง

ดุลการค้า (ระบบศุลกากร) เดือนนี้กลับมาขาดดุลสูง -3,436.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 31 เดือน และขาดดุลสูงกว่าคาดมาก (SCB EIC ประเมินขาดดุล -800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผลจากการการส่งออกเริ่มชะลอลงแล้ว แต่นำเข้ายังเร่งตัวสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ดุลการค้าสะสม 10 แรกของปี 2025 ขาดดุล -3,866.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกไทยปี 2025 ขยายตัว 10.7% ตามข้อมูล 9 เดือนสะสมที่สูงกว่าคาด มุมมองส่งออกปี 2026 มีแนวโน้มหดตัว -1.5% 

SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกไทยปี 2025 เป็น 10.7% จากเดิม 5.3% (ตัวเลขระบบดุลการชำระเงิน, มุมมอง ณ พ.ย. 2025) แม้ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. ออกมาต่ำกว่าคาดพอสมควร เนื่องจากการส่งออกไตรมาส 3 ยังเติบโตได้ดีในช่วงที่สหรัฐฯ เริ่มขึ้นกำแพงภาษีแล้ว สำหรับในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ มูลค่าส่งออกมีแนวโน้มเติบโตต่ำจากปัจจัยฐานสูง สาเหตุที่ปรับเพิ่มประมาณการส่งออกปีนี้มาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ
        1)    เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกปี 2025 ขยายตัวดีกว่ามุมมองช่วงต้นปี ผลจากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะระหว่างจีน-สหรัฐฯ กำแพงภาษีสหรัฐฯ ที่เริ่มใช้จริงต่ำกว่าที่เคยประกาศครั้งแรกมาก หลังการเจรจากับสหรัฐฯ ได้ข้อตกลงที่สหรัฐฯ พอใจ รวมถึงการเร่งส่งออกก่อนสหรัฐฯ เริ่มกำแพงภาษีช่วงต้นเดือน ส.ค. ส่งผลให้การส่งออกไทยไปประเทศคู่ค้าหลักขยายตัวได้ดี เช่น จีน, อาเซียน 5  และสหภาพยุโรป (15.5%, 6.3% และ 7.9% ตามลำดับ)
        2)    สหรัฐฯ เลื่อนเวลาเริ่มเก็บภาษีตอบโต้ จาก 2 เม.ย. เป็น 8 ส.ค. ส่งผลให้ไทยเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ได้มาก ส่งออกไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปีขยายตัวสูงถึง 14.4%
        3)    ไทยเจรจาสหรัฐฯ ขอลดอัตราภาษีตอบโต้ได้เกือบครึ่ง จาก 36% เหลือ 19% อัตราใกล้เคียงคู่แข่งในภูมิภาค ส่งผลให้สินค้าส่งออกไทยยังสามารถรักษาความสามารถแข่งขันได้ในตลาดสหรัฐฯ 
        4)    ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และทองคำ ขยายตัวสูงมาก 35.6% และ 104.8% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ตามลำดับ สินค้ากลุ่มนี้ช่วยให้ส่งออกไทย 9 เดือนแรกเติบโตได้ถึง (CTG) 8.7% เกินครึ่งของอัตราการเติบโตมูลค่าส่งออกรวม 13.9% (CTG)

สำหรับมุมมองของกระทรวงพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน โดยประเมินว่ามูลค่าส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัว 10.7% - 11.4% 

อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินมูลค่าส่งออกปี 2026 มีแนวโน้มพลิกกลับมาหดตัว -1.5% สาเหตุหลักจาก 
        1.    เศรษฐกิจโลกและปริมาณการค้าโลกในปี 2026 มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์จะเริ่มส่งผลชัดเจนและเต็มรูปแบบมากขึ้น หลังจากเลื่อนบังคับใช้ในปีนี้ โดยองค์กรการค้าโลก (WTO) ได้ปรับลดประมาณการปริมาณการค้าโลกในปี 2026 ล่าสุด เหลือเพียง 0.5% (ชะลอลงมากจาก 2.4% ในปี 2025) เช่นเดียวกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดประมาณการปริมาณการค้าและบริการโลกลงเหลือ 2.3% ในปี 2026 (ชะลอจาก 3.6% ในปี 2025) 
        2.    ปัจจัยฐานสูง โดยเฉพาะช่วง 7 เดือนแรกของปี 2025 ที่ขยายตัวสูงถึง 14.4% 
        3.    สินค้าจีนแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น ภายใต้ข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. สหรัฐฯ ตกลงลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนเหลือ 20% (เดิม 30%) เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราภาษีที่ใกล้เคียงกับไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ ส่งออกของไทยยังเผชิญความเสี่ยงสูงหลายด้านในปี 2026 เช่น (1) ภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาษีเฉพาะเจาะจงรายสินค้า และภาษีสวมสิทธิ์อัตรา 40% และ (2) ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ–จีนกลับมารุนแรงอีกครั้ง 

บทวิเคราะห์โดย... https://www.scbeic.com/th/detail/product/trade-251125

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ไม่ผ่าน By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ คนไทย ไม่ทิ้งกัน หลายหน่วยงาน ระดมช่วย ผู้ประสบภัย น้ำท่วมที่หาดใหญ่ และก็มี สตูล ก็เจอ....

NER พบนักวิเคราะห์และนักลงทุน ประจำไตรมาส 3 /2568

NER พบนักวิเคราะห์และนักลงทุน ประจำไตรมาส 3 /2568

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้