คาดหวังดอกเบี้ยลง ... ลุ้นหุ้นไทยดีดเด้ง

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.4% ถึง +2.7% นำโดยหุ้นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี เกิดแรงซื้อกลับ ก่อนวันหยุด THANKSGIVING DAY ในวันที่ 27 พ.ย. 68 ด้วยความหวังใหม่ที่จะเห็น FED ปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ในเดือนธ.ค. นี้ โดยล่าสุด FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 83% แล้ว (เดิม 70%)
• สำหรับแรงหนุนที่ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า FED จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม มีทั้งคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคืนนี้เวลา 20.30 น. รอติดตามยอดขายค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68 CONSENSUS คาดขยายตัวแค่+0.4%MOM นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจาก BOND YIELD 10Y ของสหรัฐฯ ร่วงลงเหลือ 4.02% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.0% ขณะที่ท่าทีของเจ้าที่ FED หลายรายเริ่มสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้

REGION RADAR
• ในช่วงไตรมาส 4 เป็น HIGH SEASON ของกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯ นำโดย WALMART และ COSTCO เนื่องจากมีเทศกาลช็อปปิ้งครั้งใหญ่สุดอย่าง BLACK FRIDAY (28 พ.ย.) นอกจากนี้ จำนวนผู้เข้าร้านWALMART และ COSTCO ในไตรมาส 4 ของปีนี้มีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง
• สถิติย้อนหลัง 5 ปีในสัปดาห์ BLACK FRIDAY พบว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯ อาทิ WALMART และ COSTCO ให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปี แนะนำเก็งกำไร WALMART (WMT US) และ COSTCO19

THAI FOCUS
•เช้านี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทยเดือน ต.ค.68 คาดขยายตัวแค่+6.5%YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว +19%YOYจากอุปสงค์โลก ชะลอตัวลงพร้อมกัน หรือผลกระทบจากสงครามการค้า SUPPLY CHAIN โลกที่ตึงเครียดขึ้น
• อีกทั้งหากเกิดการยุบสภาก่อนกำหนด อาจทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 20 โครงการชะลอลงได้ หากมาตรการใดยังไม่ได้เริ่มต้น และถือเป็นการชะลอตัวลงของ GDP ในงวด 4Q68 จนอาจเกิดภาวะTECHNICAL RECESSION ได้

SYNAPSE STRATEGY
• ตลาดหุ้นโลกรีบาวน์ช่วงสั้น หลังปธน.สหรัฐ คุย ปธน.จีน และมีโอกาสเห็น FED ลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีเพิ่มขึ้น หลังตลาดหุ้นโลกถูกกดดันลดลงมาจากจุดสูงสุด -3.4%
• ส่วนตลาดหุ้นไทยมูลค่าซื้อขายเบาบาง มีประเด็นน้ำท่วมหาดใหญ่อาจกดดันเศรษฐกิจช่วง 4Q68 แต่ผ่านแรงกดดันจากการลดน้ำหนักของ MSCI ไปแล้ว กลยุทธ์เน้นหุ้น VALUATION ดีมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่าง ERW, MINT, CPF, WHA

HORIZON MARKET VIEW
ทิศทางดอกเบี้ยปลายปีอาจมีพลิก
วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.4% ถึง +2.7% นำโดยหุ้นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเกิดแรงซื้อกลับ ก่อนวันหยุด THANKSGIVING DAY ในวันที่ 27 พ.ย. 68 ด้วยความหวังใหม่ที่จะเห็น FED ปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. นี้โดยล่าสุด FEDWATCH TOOL ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 83% แล้ว (เดิม 70%)

สำหรับแรงหนุนที่ทำให้มีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า FED จะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม มีทั้งคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคืนนี้เวลา 20.30 น. รอติดตามยอดขายค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68CONSENSUS คาดขยายตัวแค่ +0.4%MOM นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจาก BOND YIELD 10Y ของสหรัฐฯ
ร่วงลงเหลือ 4.02% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.0%

ขณะที่ท่าทีของเจ้าที่ FED หลายรายเริ่มสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยในปลายปีนี้เช่นกัน อาทิ CHRISTOPHERWALLER (ผู้ว่าการ FED), JOHN WILLIAMS (ประธาน FED สาขานิวยอร์ก), MARY DALY (ประธาน FEDสาขาซานฟรานซิสโก) เป็นต้น

REGION RADAR
ไตรมาส 4 เป็นช่วงเทศกาลช็อปปิ้งของกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯในช่วงไตรมาส 4 เป็น HIGH SEASON ของกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯ นำโดย WALMART และ COSTCO เนื่องจากมีเทศกาลช็อปปิ้งครั้งใหญ่สุดอย่าง BLACK FRIDAY (28 พ.ย.) และเทศกาลช็อปปิ้งอื่นๆ อาทิ THANKSGIVING(26 พ.ย.) CYBERMONDAY (1 ธ.ค.) และ CHRISTMAS (25 ธ.ค.) นอกจากนี้ จำนวนผู้เข้าร้าน WALMART และCOSTCO ในไตรมาส 4 ของปีนี้มีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดย WALMART มีลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น 6% YOY ขณะที่
COSTCO มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 11% YOY

หุ้นกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯ มักปรับตัวขึ้นได้ดีช่วง BLACK FRIDAY
สถิติย้อนหลัง 5 ปีในสัปดาห์ BLACK FRIDAY พบว่าหุ้นในกลุ่มค้าปลีกสหรัฐฯ อาทิ WALMART และ COSTCOให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกปีโดยในสัปดาห์ BLACK FRIDAY แต่ละปี WALMART ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่1.46% และ COSTCO ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 1.88%

THAI FOCUS
ส่งออก ต.ค.68 อาจโตชะลอลง และมาตรการพยุงเศรษฐกิจเสี่ยงสะดุด หากยุบสภาเร็วกว่ากำหนด
เช้านี้จับตาตัวเลขส่งออกไทยเดือน ต.ค.68 คาดขยายตัวแค่ +6.5%YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว +19%YOY จากอุปสงค์โลก (GLOBAL DEMAND) ในเดือน ต.ค.68 ชะลอตัวลงพร้อมกัน อาจเกิดจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก (เช่น สหรัฐฯ ยุโรป หรือจีน) เริ่มแผ่วลง หรือผลกระทบจากสงครามการค้า SUPPLYCHAIN โลกที่ตึงเครียดขึ้น อีกทั้งปกติเดือนก.ย.68 มักจะเป็นเดือนที่มีการเร่งส่งออกสินค้า เพื่อให้ทันขายในช่วงเทศกาลปลายปี (คริสต์มาสและปีใหม่) ในตลาดตะวันตก เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว คำสั่งซื้อล็อตใหญ่จะเริ่มลดลง ทำให้ตัวเลขส่งออกในเดือนต.ค.68 มักจะต่ำกว่าเดือนก.ย.68 ตามวงรอบธุรกิจปกติโดยจะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่ไทยประเทศเดียวที่ชะลอตัว แต่เป็นทิศทางเดียวกันทั้งภูมิภาคเอเชียในเดือนต.ค.68 ดังนี้

• เวียดนาม :จากจุดสูงสุด +24.7%YOY (ก.ย.) ย่อตัวลงเหลือ 17.5%YOY (ต.ค.)
• เกาหลีใต้ :จาก 12%YOY (ก.ย.) ร่วงลงแรงเหลือ 3.5%YOY (ต.ค.)
• จีน :จากบวกอยู่ดีๆ พลิกกลับไปติดลบ -1.1%YOY (ต.ค.)

ดังนั้นควรจับตาดูตัวเลข TRADE BALANCE (ดุลการค้า) ที่คาดว่าจะขาดดุล -1149 ล้านเหรียญฯ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่านอกจากส่งออกชะลอแล้ว การนำเข้าอาจจะยังสูงอยู่ และจะส่งผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้

อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีการเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน 20 โครงการ(ผ่านแล้ว 9 มาตรการ / ระหว่างเสนอ 11 มาตรการ) ในเวลาสั้นๆ เพียง 4 เดือน (ต.ค.68-ม.ค.69) เพื่อครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ เริ่มที่ต.ค. 68 : เจาะกลุ่มเปราะบาง (บัตรสวัสดิการ) และชนชั้นกลาง (คนละครึ่ง/เที่ยว), พ.ย. 68 : เจาะกลุ่มเกษตรกร(คุมราคาสินค้า) และคนเป็นหนี้,ธ.ค. 68: เจาะกลุ่มนักลงทุน/คนออมเงิน (สลาก/พันธบัตร), ม.ค. 69: เก็บตกทุกคนด้วย UPSKILL และคนละครึ่งเฟส 2 ซึ่งหากเกิดการยุบสภาก่อนกำหนดในช่วง ธ.ค.68 วันเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นระหว่างช่วงปลายเดือนม.ค.69 – กลางเดือน ก.พ.69 และคณะรัฐมนตรีชุดเดิมจะ ยังคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในฐานะ "รัฐบาลรักษาการ" แต่ไม่สามารถ อนุมัติโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ เช่นมาตรการเศรษฐกิจ 20 มาตรการได้(ตามเนื้อหาข้างต้น) ดังนั้นหากมาตรการใดยังไม่ได้เริ่มต้น ก็อาจจะต้องถูกชะลอไว้ก่อน และถือเป็นการชะลอตัวลงของ GDP ในงวด 4Q68 ได้

SYNAPSE STRATEGY
ชื้นใจขึ้นหน่อย!!! ตลาดหุ้นโลกรีบาวน์
ตลาดหุ้นโลกรีบาวน์ช่วงสั้น หลังปธน.สหรัฐ คุย ปธน.จีน และมีโอกาสเห็น FED ลดดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีเพิ่มขึ้น หนุน MSCI ACWI สัปดาห์นี้ + 2.7%(WTD)ร่นระยะห่างจากจากจุดสูงสุดเหลือ -3.4% หลังจากปรับตัวลงมา 3 สัปดาห์ติด

กลับมาที่ตลาดหุ้นไทยมูลค่าซื้อขายเบาบาง มีประเด็นน้ำท่วมหาดใหญ่อาจกดดันเศรษฐกิจช่วง 4Q68 แต่วานนี้ผ่านแรงกดดันจากการลดน้ำหนักของ MSCI ไปแล้ว กลยุทธ์เน้นหุ้น VALUATION ดี มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่าง ERW, MINT, CPF, WHA

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์