Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

77


AT THE OPEN (#ATO)

SET Index แกว่งขึ้น 1250-1265
หุ้นเด่นเลือก MINT


Market Strategy
SET Index คาดปรับขึ้นตามกรอบ 1250-1265 จุดแรงหนุนจากความคาดหวัง FED ลดดอกเบี้ยฯ เดือน ธ.ค. ด้านในประเทศมีความคืบหน้าโครงการ Fast Pass ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่ผลต่อตลาดหุ้นจำกัด ประเด็นติดตามวันนี้การประชุม ครม. พิจารณารถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวันและยอดส่งออกไทยเดือน ต.ค. คาดขยายตัว 6.5%YoY หุ้นเด่นวันนี้เลือก MINT

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นทุกดัชนี นำโดย NASDAQ +2.7% S&P500 +1.6% และ Dow Jones +0.4% หนุนจากความหวังต่อการลดดอกเบี้ยฯมากขึ้น หลังจากคุณ Waller(FED Governor) ออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการลดดอกเบี้ยฯในเดือน ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอิเล็คฯ (DELTA) และกลุ่มไฟแนนซ์ (KTC MTC SAWAD) คาดว่าจะปรับขึ้นได้เด่นกว่าตลาด

ประชุม ครม. เศรษฐกิจวานนี้เห็นชอบโครงการ FastPass เร่งปลดล็อกการลงทุน 80 โครงการลงทุนมูลค่า 4.8 แสนล้านบาท พร้อมกับมาตรการสร้างบุคลากรทักษะสูงสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เรามองเป็นบวกต่อโครงการดังกล่าวที่อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งลงทุนภาคเอกชน ดีต่อยอดขายและโอนที่ดินของกลุ่มนิคมฯ AMATA WHA และ WHAUP

น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะหาดใหญ่ที่ปัจจุบันยังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายประเมินว่าจะดีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ โดยอิงการประเมินของหอการค้าประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจหากสถานการณ์คลี่คลายได้ใน 1 เดือนที่ 1-1.5 หมื่นล้านบาท ด้านกรมการป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ประเมินผู้ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 7.2 แสนครัวเรือน หากอยู่บนสมมติฐานทุกครัวเรือนจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลครัวเรือนละ 9000 บาท คิดเป็นวงเงินเยียวยารวมที่ 6.48 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินส่วนนี้จะถูกเกลี่ยไปใช้ในการซ่อมแซมบ้านหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย จึงมองเป็นบวกต่อยอดขายของหุ้นกลุ่มซ่อมแซมตกแต่งบ้านต่อไป ซึ่งเรา แนะนำซื้อ HMPRO และ GLOBAL ที่แนวโน้มกำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 3Q68 ไปแล้วและราคาปัจจุบันซื้อขาย PER ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ราว -2 S.D.

 


Market Summary
SET Index ปิดที่ระดับ 1252.73 จุด ปรับตัวลดลง 1.67 จุด (-0.13%) โดยพลิกกลับมาติดลบในช่วงท้ายตลาดจากผลกระทบของ MSCI Rebalance มูลค่าการซื้อขายที่ 4.2 หมื่นล้านบาท หุ้นปรับตัวขึ้นเด่น AMATA (+4.7%) จากมุมมองยอดขายและยอดโอนที่ดินแข็งแกร่ง KTC (+4.6%) หุ้นปันผลสูงรับทิศทางดอกเบี้ยขาลง, MOSHI (+3.8%) ที่แนวโน้มกำไร4Q68 คาดโตโดดเด่น หุ้นกลุ่มซ่อมแซมบ้านเป็นบวกหากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายหนุน GLOBAL (+3.3%), HMPRO (+2.6%) และ DOHOME (+0.6%) หุ้นลบ GPSC (-6.2%) BGRIM (-8.1%) กังวลเรื่องการฟ้องร้องยกเลิก ADDER TPIPP (-6.6%), QH (-4%), AAV (-2.8%) CKP (-1.9%) ถูกกดดันจากการถูกคัดออกจากดัชนี MSCI Global Small Cap

 


DAILY Stock Pick
MINT
Valuation ถูกสุดในกลุ่มโรงแรม
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 34.50 บาท
QTD MINT -9.2% เทียบ SET -3.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากถูกแรงขายจากการลดน้ำหนักของ MSCI เป็นหลัก ขณะที่แนวโน้มกำไรใน 4Q68 เติบโตจากทั้งการลดดอกเบี้ยและฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย โดย QTD RevPar ของไทย +11%YoY
ณ ราคาปัจจุบัน ถูกซื้อขายที่ PE’69 ที่ 12 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่มโรงแรม (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 17 เท่า) ขณะที่ EPS’69 โตถึง 24% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 21%

 

Technical View
แนวรับ : 20.50 บาท
แนวต้าน : 21.50 บาท
จุดตัดขาดทุน : 20.00 บาท

 

WEEKLY Stock Pick
BBL
valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 180.00 บาท
เราชอบ BBL เนื่องจาก ฐานรายได้หลากหลาย งบดุลแข็งแกร่ง โดยปี 69 เราคาดกำไรเติบโต 5.6% เทียบกับกลุ่มที่ 5% เนื่องจากบริษัทสามารถบริหาร Opex ได้ดีขึ้น และ credit cost ที่ลดลง
BBL YTD +3% เทียบกับ ดัชนีกลุ่ม Bank +10.2% ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ปัจจุบันถูกซื้อขายที่ PBV’69 ที่ 0.48 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่ม Bank พร้อมกับอัตราเงินปันผลที่ 6.4%

Technical View
แนวรับ : 155.00 บาท
แนวต้าน : 160.00 บาท
จุดตัดขาดทุน : 152.00 บาท

 

 

 

 

EYES ON
25 พ.ย. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ค้าปลีก/ดัชนี PPI/ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ตัวเลขส่งออกของไทย เดือน ต.ค.
27 พ.ย. กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค-เศรษฐกิจ Eurozone

 

 

KEY FACTOR
เข้าสู่ช่วงการรายงานชุดตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งจากสหรัฐฯและไทย โดยฝั่งสหรัฐฯ จะเริ่มทยอยรายงาน ยอดค้าปลีก เดือน ก.ย. (คาด +0.4% MoM) PPI เดือน ก.ย. (คาด+0.3% MoM และ +2.6%YoY) และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. (คาดลดลงเล็กน้อยจาก 94.6 สู่ 93.3) ซึ่งถือเป็นข้อมูลชุดแรก หลังการเปิดทำการอีกครั้งจากช่วง Government Shutdown แตอย่างไรก็ตาม ประเมินว่าน้ำหนักต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นอาจไม่มากนัก เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ยังมองว่าทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และ Fed ยังคงเปิดทางลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. (ตลาดคาดมีโอกาส 71%)ขณะที่ตัวเลข PPI หากไม่เร่งขึ้นผิดปกติ ก็น่าจะไม่รบกวนภาพเงินเฟ้อที่กำลังลดลงอยู่ในตอนนี้
ในทางกลับกัน ตัวเลขการส่งออกเดือน ต.ค. ของไทยน่าจะเป็นจุดสนใจ และมีน้ำหนักมากกว่า โดย Consensus มองว่าไทยมีโอกาสรายงานตัวเลขที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ในช่วง +3.7% ถึง +17.1% (ค่ากลาง +6.5%) ยังมีโมเมนตัมที่ต่อเนื่อง หลังความกังวลสงครามการค้าผ่อนคลายลง และมีแรงส่งจากสินค้าเทคโนโลยีที่ยังได้รับประโยชน์จากกระแสลงทุนด้าน AI และ Data Center

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

คึกไม่ออก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง พยายามทำจิตใจ ให้ร่าเริง สนุกสนาน แต่ทำได้ไม่นาน ยิ่งเห็นข่าวน้ำท่วมที่หาดใหญ่ แล้ว ขอให้ทุกคน...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้