วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงแรงต่่าสุดราว -32 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับแรงกดดันจากFund Flow ที่ไหลออก จากความกังวลว่าเฟดอาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แรงขายกดดันหลักอยู่ในหุ้นDELTA ซึ่งกดดันดัชนีราว -14 จุด ได้รับ Sentiment เชิงลบจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐปรับตัวลงตามด้วยแรงขายกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และขนส่ง เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม ส่งผลให้ดัชนี SET Indexปิดตลาดที่ 1,254.40 จุด -27.41 จุด -2.41% มูลค่าการซื้อขาย 36,090.12 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี-14.86 จุด -1.17%) Program Trading -2,869.27. ลบ. ต่างชาติ-3,186.47 ลบ. TFEX -27,174 สัญญาตราสารหนี้+1,314.42 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 493.15 จุด หรือ +1.08% หลังจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า FED อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกภายในปีนี้
+ CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้่าหนักกว่า 70%ในการคาดการณ์ว่า FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.หลังจากที่ให้น้่าหนักไม่ถึง 40% ในช่วงก่อนหน้านี้
+ รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจอนุญาตให้อินวิเดีย (Nvidia)ขายชิปปัญญาประดิษฐ์ H200 อันทรงพลังให้กับจีนได้ ซึ่งสะท้อนท่าทีที่อ่อนลงด้านเทคโนโลยี หลังการท่าข้อตกลงสงบศึกทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ปูซานเมื่อเดือนก่อน

ปัจจัยลบ
-สัญญาน้่ามันดิบ WTI ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.59% ปิดที่58.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดต่่าสุดในรอบ 1 เดือน หลังสหรัฐฯเดินหน้าผลักดันข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย–ยูเครน ซึ่งอาจเพิ่มอุปทานน้่ามันโลก ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯสกัดกั้นความต้องการเสี่ยงของนักลงทุน
- สหรัฐฯ จะไม่เข้าร่วมการหารืออย่างเป็นทางการใดๆ ในการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ที่แอฟริกาใต้สุดสัปดาห์นี้ ซึ่งตอกย้่าท่าทีไม่สนับสนุนความร่วมมือแบบพหุภาคีของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การน่าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้สาธารณะของไทยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสิ้นปีงบ 68 เมื่อเดือน ก.ย.68 พบว่าไทยมียอดหนี้สาธารณะทั้งสิ้น 12.22 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน64.82% ต่อจีดีพีประเทศที่ 18.86 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 67ที่ไทยมีหนี้สาธารณะที่ 11.62 ล้านล้านบาท หรือ 63.28% ของจีดีพี
- ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ขยายตัวต่่ากว่า 1% และมีโอกาสที่จีดีพีเติบโตติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จีดีพีไตรมาส 3 แม้ขยายตัวเป็นบวก 1.2% เมื่อเทียบระยะเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ติดลบถึง -0.6%หากไตรมาส 4 ติดลบ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ถือว่าภาวะ
เศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคแล้ว

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงหนุนจากนักลงทุนเริ่มคาดหวังว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกภายในปีนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีการ Rebalance ของดัชนี MSCI ในวันนี้ คาดกรอบดัชนี 1,250-1,260 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
- MSCI Rebalance (ปรับน้่าหนัก 24 พ.ย. 25) MSCI Thailand เข้า – ออก - MSCI Global Small Capเข้า M ออก AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP
- จัดตั้ง JV AMC : BAM KBANK CHAYO JMT