21 พ.ย. 2568 11:47:02 57
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (21 พฤศจิกายน 2568 )-----ทิศทางพลังงานหลักของโลกมีเป้าหมายในการเดินหน้าสู่การใช้ "พลังงานหมุนเวียน" (Renewable Energy: RE) อย่างเต็มตัว แต่คำถามที่ต้องเผชิญ คือ เมื่อความต้องการและปริมาณการใช้พลังงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง พลังงานหมุนเวียนจะรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าได้หรือไม่ เพราะพลังงานจากธรรมชาติอย่างแสงแดดและลมมีความไม่แน่นอน ขณะที่พลังงานทางเลือกอื่นยังมีต้นทุนสูง หรือมีความกังวลด้านความปลอดภัย หลายประเทศจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พลังงานหมุนเวียน คืออนาคต แต่โรงไฟฟ้าฐาน (Base-load Power Plant) ยังคงเป็นรากฐานของระบบไฟฟ้าที่โลกยังต้องพึ่งพา
สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน คำถามนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียน เช่น แสงแดด ลม และพลังงานทางเลือกอื่น กำลังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ตามเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) และ Net Zero จะสามารถทดแทน รักษาเสถียรภาพ ความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศได้หรือไม่ รวมถึงโรงไฟฟ้าฐานโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเสถียรภาพสูงยังมีความหมายต่อระบบมากน้อยแค่ไหน เหตุการณ์ไฟฟ้าดับบางพื้นที่จากกรณีโรงไฟฟ้าพลังน้ำจาก สปป.ลาว หลุดจากระบบเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างสะท้อนว่า ระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ต้องการทั้งความสะอาด ความมั่นคง และความต่อเนื่องไปพร้อมๆ กันด้วยเหตุนี้ การรักษาสมดุลของเสถียรภาพพลังงานและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน จึงต้องดำเนินการควบคู่กันอย่างเหมาะสม โดยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี (BLCP) ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีกำลังการผลิตรวม 1,434 เมกะวัตต์ สามารถเดินเครื่องได้ต่อเนื่องมากกว่า 90% ต่อปี เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของ "โรงไฟฟ้าฐานหลักที่ทันสมัย" และเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าฐานขนาดใหญ่ที่มีความเสถียรสูงของไทย มีการใช้เทคโนโลยี HELE (High Efficiency, Low Emission) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและการควบคุมมลสาร (สารหรือองค์ประกอบที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพอากาศ) ที่เข้มงวดและสูงกว่ามาตรฐานสากล นอกจากจะใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการผลิตไฟฟ้าแล้ว โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ยังมีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) อย่างจริงจังอีกหลายโครงการเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน อาทิ การศึกษาการเผาไหม้ร่วม (Co-firing) โดยศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเชื้อเพลิงสะอาดแห่งอนาคตอย่าง แอมโมเนีย (Ammonia) และ ชีวมวล (Biomass) มาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วม เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โดยตรง หรือ โครงการนวัตกรรมดักจับคาร์บอน (CCUS) ซึ่งริเริ่มโครงการวิจัย "Microalgae CCUS" โดยร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นในการใช้จุลสาหร่าย (Microalgae) ดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และนำจุลสาหร่ายที่ได้ไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และ ระบบตรวจวัดคุณภาพการปล่อยอากาศแบบต่อเนื่อง (CEMs) ที่เปิดเผยค่าการปล่อยมลพิษสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบได้แบบโปร่งใสดังนั้น แม้เป้าหมายด้านพลังงานของประเทศไทย จะมุ่งเน้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แต่การผสมผสานอย่างชาญฉลาด (Smart Energy Mix) ในการใช้งานโรงไฟฟ้าฐานที่ทันสมัย และพลังงานหมุนเวียน น่าจะเป็นคำตอบของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่สมดุลระหว่างความสะอาดและความมั่นคง ที่ไม่ใช่เพียงเรื่องไฟไม่ดับเท่านั้น แต่คือการสร้างความมั่นใจ มั่นคง ส่งเสริมให้กับทุกย่างก้าวในการพัฒนาของทั้งภาครัฐ ภาคเศรษฐกิจ ธุรกิจ โรงงาน โรงพยาบาล การสื่อสาร การคมนาคม และคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนในประเทศอีกด้วยโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี มุ่งพัฒนาพลังงานที่มั่นคง เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.blcp.co.th/web/index หรือ Facebook : โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี - BLCP Power Limited
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เสพข่าว รัฐบาลมีแผนปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แบบขั้นบันได โดยจะเพิ่มเป็น 8.5% ในปี 2571 ....
หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์