Equality for All
HANA : บมจ.ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคส์

3Q25 กำไรหดตัวต่อเหลือ 15 ลบ. หดแรง -96% y-y และ -58% q-q จากเงินบาทแข็ง และรายการพิเศษ : กำไรออกมาน่าผิดหวังจากผลกระทบของเงินบาทแข็งค่า และรายการพิเศษเกิดขึ้นส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง -3.4% เหลือ 6% จาก 9.4% q-q

ยอดขาย อยู่ที่ 164 ล้านเหรียญ หด -6% y-y กลุ่ม PCBA ยอดขายหด -12% y-y ลำพูน -9% JXG -24% IC +8% AYT -2% JXG +90% PMS -34% HTI -19% ขณะที่ในภาพ q-q ยอดขายหด +5% q-q กลุ่ม PCBA ยอดขาย -2% ลำพูน -2% JXG -6% IC +12% AYT +8% JXG +36% PMS +56% HTI +17%
คชจ. ขายและบริหาร ลดลง -10% y-y และ -12% q-q ส่วนหนึ่งจากค่าใช้จ่ายวิจัยพัฒนาเพิ่มขึ้น และอัตราภาษีจ่ายเพิ่มขึ้น มีตั้งด้อยค่าสินค้าของ PMS ที่เคลื่อนไหวช้ารวมอยู่ด้วย

ปรับลดประมาณการลงจากเดิม : เนื่องจากคำสั่งซื้อยังอ่อนแอไปจนถึง 1Q26 สรุปตามธุรกิจดังนี้

กลุ่ม PMS จากการแข่งขันด้านราคาในจีนที่ยังรุนแรง โดย HANA จะหันไปหาลูกค้าเกาหลี และอินเดีย รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ที่จะออกในปลายปีนี้ในรุ่น Gen3 1200v SiC และ Gen5 1200v สำหรับกลุ่มรถยนต์ที่จะพัฒนาแล้วเสร็จใน 2Q26

กลุ่ม IC การใช้กำลังการผลิตที่ระดับ 40% ทำให้ขาดทุน และอุปสงค์ที่อ่อนแอยังมีผลต่อเนื่องถึง 1Q26 คาดจะเห็นการฟื้นตัวทั้งยอดขาย และกำไรกลางปีเป็นต้นไป ขณะที่โรงงานในจีนคาดจะกลับมากำไร 1Q26 จากการปรับลดต้นทุนลง

HTI แม้การแข่งขันด้านราคาจะดีขึ้นแต่แนวโน้ม margin ยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับอุปสงค์ Tyre tags ในยุโรปที่อ่อนแอ HANA จะมีการขยายกำลังการผลิตทั้งในจีน และสหรัฐเพื่อรองรับการขยายตัว และคาดส่วนงานดังกล่าวจะกลับมากำไรกลางปี 2026

หน่วยผลิตกัมพูชา โรงงานกัมพูชาคาดจะได้คำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่ช่วง 2Q26 และได้ผลบวกจากการย้ายฐานการผลิตในจีน ส่วนปัญหาไทย-กัมพูชาส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น แต่คาดโรงงานดังกล่าวจะกำไรได้ในปี 2026 จากคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น

จากแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดูช้ากว่าคาดอย่างมากและอาจมีเพียงธุรกิจ PCBA ที่ดูทรงตัวมากสุด ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ กว่าจะเห็นการฟื้นตัวจะเป็นช่วง 2H26 ทำให้เราปรับลดประมาณการปี 2025 ลง 39% และ 2026 ลง 29% จากเดิม โดยปี 2025 คาดยอดขาย 631 ล้านเหรียญ หดตัว -10% y-y แต่ปรับอัตรากำไรขั้นต้นลงจากผลของค่าเงินบาทแข็งค่าเหลือ 8.1% คาดกำไรปกติ 713 ลบ. หด -41% y-y ขณะที่ปรับกำไรสุทธิเหลือเพียง 573 ลบ. เพิ่มขึ้น +190% y-y เนื่องจากปีก่อนมีตั้งด้อยค่าเครื่องจักร 1,800 ลบ. ของ PMS

ขณะที่ปี 2026 คาดจะเห็นการฟื้นตัวของการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจากคำสั่งซื้อที่จะทยอยเพิ่มขึ้นทั้งจากโมเดลใหม่ ทำให้แนวโน้มการดำเนินงานปี 2026 เราคาดกำไรจะเพิ่มขึ้น +59% y-y ที่ 910 ลบ. ภายใต้ยอดขาย 668 ล้านเหรียญ +6% y-y

AI เลื่อนไปกลางปีหน้า : โครงการใหม่ (Solid state cooling devices) ที่เกี่ยวกับ AI อยู่ระหว่างเจรจาคาดจะเริ่มผลิตได้ใน 2Q26 เป็นต้นไปซึ่งล่าช้ากว่าเดิมที่คาดจะเริ่มปลายปีนี้และเพิ่มขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง

เสี่ยงตั้งด้อยค่าเพิ่ม : โครงการ PMS คาดว่าอาจมีตั้งด้อยค่าในส่วนสินค้าแต่ไม่มาก แต่ในส่วนเครื่องจักร HANA พยายามจัดการเพื่อไม่ให้มีการตั้งด้อยค่าอย่างที่ผ่านมา แต่โครงการ FT1 ที่ร่วมมือกับ PTT ที่เกี่ยวข้องกับ SiC มีความเป็นไปได้ที่อาจต้องตั้งด้อยค่าหากบ. และ PTT ยุติโครงการดังกล่าวแต่คาดจะไม่มากเนื่องจากไม่ได้ลงทุนในจำนวนมาก

อยู่ในสถานการณ์ลำบาก
“การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้พบว่าแนวโน้มของ HANA ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งการขาย และการทำกำไร รวมถึงความเสี่ยงในการตั้งด้อยค่าเพิ่มเติม แม้ไม่มากเท่าปีก่อนแต่ยังมีความเสี่ยงต่อประมาณการ ขณะที่โครงการใหม่เกี่ยวกับ AI คาดจะส่งผลต่อการดำเนินงานคงเป็นช่วง 2H26 เป็นต้นไป
แนวโน้มยังอ่อนแออยู่ในช่วงปรับประมาณการของตลาด ไม่รีบแม้ราคาหุ้นจะปรับลงมาจากปัจจัยลบหลายด้าน รอก่อนได้ไม่รีบ ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th