Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX มอง SET วันนี้ "การขึ้นยังจำกัดที่ 1295-1300"

85

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 21 พฤศจิกายน 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 คาดการแกว่งขึ้นของตลาดยังจำกัด/พักตัว แต่หากมีการยุบสภาเร็วจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น ประเด็นการขึ้น VAT ในปี 2571 ถูกปฏิเสธและไม่กดดันตลาด ตัวเลข NFPs สหรัฐฯ ดีกว่าคาด แต่อัตราการว่างงานกลับสูงขึ้น ตลาดประเมินมีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หุ้นสหรัฐฯ ตอบสนองเชิงบวกสั้นก่อนกลับมาลง ติดตามเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ทางเทคนิค หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1295/1300 ยังเป็นเพียงรีบาวด์ แนวรับไม่ควรหลุดอยู่ที่ 1275/1260

 

ประเด็นสำคัญ
• การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ใน ก.ย. 2568 เพิ่มขึ้น 1.19 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ แต่อัตราการว่างงานปรับขึ้นสู่ระดับ 4.4% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2564 สะท้อนความเปราะบางของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทำให้ตลาดมองความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยใน ธ.ค. 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 46% จาก 34% และในวันที่ 16 ธ.ค. กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ จะเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมสำหรับ ต.ค.-พ.ย. 2568
• รมว. คลัง ยืนยันรัฐบาลจะยังไม่เริ่มปรับขึ้น VAT จาก 7% สู่ 10% ภายในปี 2573 ตามกรอบแผนการคลังระยะยาวปี 2569-2573 เนื่องจาก ศก. ไทยอยู่ระหว่างฟื้นฟูและไม่อยากเพิ่มภาระประชาชน
• “คนละครึ่งพลัส” เฟสสองอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบ ระหว่าง การให้ผู้ที่เข้าร่วมเฟสแรกและใช้สิทธิ์ครบแล้วสามารถเข้าร่วมเฟสสองได้ หรือผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมสามารถลงทะเบียนในเฟสสองและได้รับวงเงิน 4,000 บาท กระทรวงการคลังจะเร่งหาข้อสรุปและเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ใน ธ.ค. เพื่อให้เปิดลงทะเบียนในปลาย ธ.ค. นี้
• รมว. คลังจะนำ BOI เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อ Roadshow ส่งเสริมการลงทุนกับ นลท. รายใหญ่ โดยจะนำเสนอทิศทางนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
• ศุลกากรจีนเผยยอดนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ใน ต.ค. 2568 ยังคงเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นการงดนำเข้าเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน แม้ว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณผ่อนคลายจากการพบกันระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ ที่เกาหลีใต้ แม้ปลาย ตค.มีการจองซื้อ 1 ล้านตันจากเป้า 12 ล้านตัน


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยทางเทคนิคหลังดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1285 ทำให้มีโอกาสแกว่งลงไปที่บริเวณ 1265/1240 ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาซึ่งอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แม้คาดจะมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการ บจ. ไทยโดยรวม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ FOMC Minutes, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญทั้งภาคแรงงาน NFPs และภาคเงินเฟ้อ PCE CPI หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ – แนวต้าน : 1275/1260 – 1295/1300


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BCPG BEM BGRIM PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SETESG Rating A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5% และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BAM KTB AP SIRI TOP BLA
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเฉพาะจุด แนะนำ TASCO HMPRO GLOBAL ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจิตวิทยา หากสถานการณ์ความตึงเครียดไทย-กัมพูชาบานปลายรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่าง CBG SAV

 


Daily Top Picks
CPALL: คาดได้อานิสงส์นโยบายรัฐบาลกระตุ้นการบริโภค SSS ใน 4Q68TD ของธุรกิจ CVS ยังคงดีที่สุดในกลุ่ม ส่วนแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q68 คาดจะเติบโต YoY จากยอดขายและมาร์จิ้นธุรกิจ CVS ที่ดีขึ้นชดเชยส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT ที่ลดลง และเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เป้าหมายระยะสั้น 45.00 บาท

MINT: คาดได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล และมองประเด็นความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่นจะหนุนการท่องเที่ยวประเทศอื่นรวมถึงไทยในระยะสั้น บริษัทตั้งเป้าหมายกําไรเติบโต 15–20% ต่อปีในระยะ 3 ปีข้างหน้า และการ IPO ธุรกิจร้านอาหาร Minor Food ในปี 2569 เป้าหมายระยะสั้น 21.00 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ขึ้นภาษี... By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เสพข่าว รัฐบาลมีแผนปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แบบขั้นบันได โดยจะเพิ่มเป็น 8.5% ในปี 2571 ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้