วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว ทั้งแดนบวกและลบ ราว+,- 6 จุด ดัชนีปรับลงในช่วงแรกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก่อนจะพลิกตัวบวกในช่วงปิดตลาด จากแรงซื้อหุ้น DELTA ส่งผลต่อดัชนีราว +3 จุด โดยตลาดฯขาดปัจจัยบวกใหม่ในการหนุนดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,272.17 จุด +2.13 จุด +0.17% มูลค่าการซื้อขาย 30,423 ลบ. Program Trading -951.07 ลบ. ต่างชาติ-1,454.74 ลบ. TFEX -12,880 สัญญา ตราสารหนี้+2,501 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 47.03 จุด หรือ +0.10% ซึ่งฟื้นตัวหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกล่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้น ก่อนที่บริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI)รายใหญ่ของสหรัฐฯ จะเปิดเผยผลประกอบการหลังตลาดปิดทำการขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ (20 พ.ย.) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
+ แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีการขยายตัว 4.2% ในไตรมาส 3/2568 หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 0.5%ในไตรมาส 1 และขยายตัว 3.8% ในไตรมาส 2
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯลดลง 23.8% สู่ระดับ 5.96 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 6.13 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 7.82 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.
+ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการ Fast Pass เข้าที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ 24 พ.ย.นี้เพื่อเร่งปลดล็อกข้อจำกัดการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติและโครงการขนาดใหญ่ที่ค้างท่ออยู่ในระบบกว่า 70 โครงการที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนใหม่เข้าสู่ระบบอย่างน้อย300,000 ล้านบาท จากที่ค้างท่อ 470,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ และมีเม็ดเงินเข้ามาช่วงต้นปี 2569

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.30 ดอลลาร์ หรือ -2.14% ปิดที่59.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ ก าลังผลักดันให้มีการทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครนซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันจากรัสเซียไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผย
ว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง30% ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.
- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ให้คำมั่นว่าจะปกป้องความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับจีน ในการเจรจากับนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียง ของจีนที่กรุงมอสโก แม้เผชิญเสียงวิจารณ์จากชาติตะวันตกเกี่ยวกับการซื้อพลังงานจากรัสเซียของปักกิ่ง
- จีนแจ้งต่อญี่ปุ่นว่าจะระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ท่ามกลางความขัดแย้งทางการทูตระหว่างสองชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้น
- นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกตั๋วเครื่องบินไปยังญี่ปุ่น หลังรัฐบาลจีนออกประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของทั้งสองประเทศ
- ส.อ.ท. เปิดเผยผลการส ารวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ต.ค.68 อยู่ที่ระดับ 87.3 ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 87.8 ในเดือนก.ย.68 ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าคงทนปรับตัวลดลงโดยเฉพาะในหมวดรถยนต์สันดาปและเครื่องปรับอากาศ จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวในตลาดออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานคาดกรอบดัชนี 1,260-1,280 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
• ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
• MSCI Rebalance (ปรับน้ าหนัก 24 พ.ย. 25) MSCI Thailand เข้า – ออก - MSCI Global Small Capเข้า M ออก AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP
• จัดตั้ง JV AMC : BAM KBANK CHAYO JMT