Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

92

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (19 พฤศจิกายน 2568 )-----บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating)  ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ ‘A(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ ‘F1(tha)’

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

เครือข่ายธุรกิจที่เป็นอิสระและเป็นที่ยอมรับ: อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของประเทศไทย บริษัทสามารถสร้างขนาดธุรกิจและความแข็งแกร่งได้แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านการแข่งขัน โดยได้รับแรงหนุนจากแหล่งรายได้ที่หลากหลายและมีสถานะทางการตลาดที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีบริษัทแม่เป็นธนาคารรายอื่นๆ อีกทั้งยังมีระดับหนี้สินปานกลาง สภาพคล่องที่เพียงพอ ปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการโดยรวมมีความสม่ำเสมอ และช่วยให้ ASP คงความสามารถในการทำกำไรตลอดช่วงภาวะการชะลอตัวของปริมาณการซื้อขาย ตลาดหุ้นและเศรษฐกิจโดยรวมในอดีต รวมถึงความท้าทายในช่วงที่ผ่านมา

 

ยังมีแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์: บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยยังเผชิญแรงกดดันจากภาวะตลาดหุ้นหลักทรัพย์ที่ซบเซา โดยมูลค่าการซื้อขายของในตลาดหุ้น ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับตัวลดลง 7% เมื่อเทียบช่วงดียวกันของในปีก่อน (ปี 2567: -12%) และปริมาณบริษัทที่รอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ที่ลดลงอย่างมาก  บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มีการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างประเทศมากขึ้น แต่ฟิทช์คาดว่าศักยภาพการทำกำไรไม่น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้มากนักในระยะสั้น และตลาดจะยังคงผันผวน

 

คุณภาพสินทรัพย์สะท้อนถึงความผันผวน: ฟิทช์ มองว่าความเสี่ยงเชิงลบที่ระดับหนี้ด้อยคุณภาพจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกนั้นมีค่อนข้างจำกัด แม้อัตราส่วนหนี้ด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จาก 0.2% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 ภายหลังการบังคับขายหลักทรัพย์ค้ำประกัน (forced sell) เป็นวงกว้างทั้งอุตสาหกรรมในไตรมาส 1 ปี 2568 อย่างไรก็ตามบริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน 100% ซึ่งจะช่วยรองรับการตัดหนี้สูญและจำกัดแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานเพิ่มเติมในอนาคต โดยขนาดสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง 60% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จาก สิ้นปี 2567 เนื่องจากนโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นน่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยง

 

ทั้งนี้ฟิทช์เห็นว่าระดับหนี้ด้อยคุณภาพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ณ ระดับอันดับเครดิตปัจจุบัน อีกทั้ง ASP ยังมีประวัติที่ดีในการรักษาอัตราส่วนหนี้ด้อยคุณภาพให้อยู่ในระดับต่ำควบคู่กับการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ครอบคลุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ (LLR) 100% อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยสนับสนุนสถานะที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่น

 

ความสามารถในการทำกำไรเผชิญความเสี่ยงสูง: ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ความสามารถในการทำกำไรยังไม่น่าจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับที่ 14% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2564–2567 ในช่วงสองปีข้างหน้า ทั้งนี้ ASP ยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นฟูธุรกิจการจัดการกองทุน โดยการออกกองทุนใหม่และการขยายช่องทางจัดจำหน่ายควบคู่กับการควบคุมต้นทุน แต่ฟิทช์คาดว่ากิจกรรมต่างๆเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนผลประกอบการเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่อ่อนแออย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอันดับเครดิต

 

ผลประกอบการของ ASP ในครึ่งแรกปี 2568 ปรับตัวอ่อนแอ่ลง โดยอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (คิดเป็นรายปี) อยู่ที่ 2.8% (ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม: 3.1%) เทียบกับ 9.2% ในปี 2567 สะท้อนถึงภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ซบเซา รวมทั้งผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทลูกด้านการจัดการกองทุน และผลตอบแทนจากการลงทุนที่ลดลง ปริมาณธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจ (investment banking) ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่ลดลงเพิ่มแรงกดดันต่อรายได้

 

ฐานะเงินกองทุนอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้: ระดับหนี้สินของ ASP อาจผันผวนตามธุรกรรมในตลาดทรัพย์ ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ฐานะเงินกองทุนยังคงน่าจะเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนและความเสี่ยงด้านลบได้ในระดับหนึ่ง ฟิทช์คาดว่าโครงการซื้อหุ้นคืนในระหว่างไตรมาส 3 ปี 2568 จะมีผลกระทบต่อระดับอัตราส่วน net adjusted leverage ของ ASP ในวงจำกัดที่ประมาณ 0.1 เท่า ทั้งนี้อัตราส่วน net adjusted leverage ของ ASP ปรับตัวลดลงเป็น 1.6 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จาก 1.8 เท่า ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งสะท้อนถึงปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ชะลอตัวและสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ที่ลดลง

 

สภาพคล่องปรับตัวดีขึ้น: สภาพคล่องของ ASP ปรับตัวดีขึ้นจากภาวะตลาดที่ซบเซาและการลดลงของสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ซึ่งทำให้มีเงินสดส่วนเกิน บริษัทมีการพึ่งพาการระดมทุนจากตลาดทุน (wholesale funding) อยู่บ้าง ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย แต่บริษัทได้ชำระหนี้ระยะสั้นส่วนใหญ่ไปแล้ว ส่งผลให้อัตราส่วนสภาพคล่องหลัก (เงินสดและเงินลงทุนที่มีสภาพคล่องต่อเงินกู้ระยะสั้น) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 15.8 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จาก 1.8 เท่า ณ สิ้นปี 2567 แม้ว่าจะมีกระแสเงินสดไหลออกบ้างจากการซื้อหุ้นคืนในไตรมาส 3 ปี 2568 และการฟื้นตัวของปริมาณการซื้อขายในปี 2569 อาจทำให้อัตราส่วนสภาพคล่องปรับตัวลดลงได้บ้าง แต่สถานะสภาพคล่องของ ASP น่าจะยังคงแข็งแกร่งกว่าบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นที่มีอันดับเครดิตอ้างอิงจากความแข็งแกร่งของบริษัทเองโดยที่ไม่มีบริษัทแม่สนับสนุน

 

อันดับเครดิตอยู่ในระดับเดียวกันกับกลุ่ม: อันดับเครดิตของ ASP เป็นการพิจารณาโครงสร้างเครดิตของทั้งกลุ่ม (consolidated basis) เนื่องจากมีการบูรณาการการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดระหว่างบริษัทแม่และบริษัทลูกภายในกลุ่ม โดย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด คิดเป็นสัดส่วนสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของกลุ่ม ฟิทช์มองว่าเงินกองทุนและสภาพคล่องสามารถถ่ายโอนกันได้บริษัทภายในกลุ่ม ซึ่งช่วยสนับสนุนโครงสร้างเครดิตทั้งในระดับบริษัทโฮลดิ้งและระดับบริษัทลูก นอกจากนี้การประเมินอันดับเครดิตยังสะท้อนความคาดหวังของฟิทช์ว่าอัตราส่วน double leverage ของบริษัทโฮลดิ้งจะยังคงอยู่ในกรอบที่ต่ำกว่า 120% อย่างต่อเนื่อง แนวทางการวิเคราะห์แบบครอบคลุมทั้งกลุ่มนี้สะท้อนถึงการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการและโครงสร้างทางการเงินที่ผสานกันของ ASP

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP อาจต้องเผชิญแรงกดดัน หากอัตราส่วนทางการเงินของบริษัทปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมและต่ำกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนสถานะด้านความสามารถในการแข่งขันและเครือข่ายธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ หากค่าเฉลี่ย 4 ปีของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงต่ำกว่า 7% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะบ่งชี้ถึงศักยภาพในการทำกำไรที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความผันผวนของอัตรากำไรปีต่อปีที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ หากอัตราส่วน net adjusted leverage ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรืออัตราส่วน double leverage ของบริษัทโฮลดิ้งส์สูงกว่า 120% เป็นเวลานานก็อาจสะท้อนถึงความอ่อนแอลงของฐานะเงินกองทุนและอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตได้เช่นกัน

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตภายในประเทศของ ASP อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจประกอบกับโครงสร้างความเสี่ยงที่สม่ำเสมอสามารถสนับสนุนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีอันดับเครดิตใกล้เคียงกันในระดับภายในประเทศอย่างยั่งยืนตลอดวัฏจักร โดยตัวอย่างของปัจจัยสนับสนุนจะรวมถึงความมั่นคงและปริมาณที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของธุรกิจที่ไม่ใช่นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงของรายได้ท่ามกลางความผันผวนของตลาด ทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้นจะต้องไม่มีระดับการยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และระดับเงินกองทุนรวมถึงสภาพคล่องไม่อ่อนแอลง แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อยในระยะสั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่อ่อนแอและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เข้มข้น

 

อันดับเครดิตหุ้นกู้และตราสารหนี้อื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ ASP ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ASP เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัท

 

อันดับเครดิตหุ้นกู้และตราสารหนี้อื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของบริษัทปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ASP

 

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ A(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ F1(tha)

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ A(tha)

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้