Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บล. ดาโอ (ประเทศไทย) ที่ ‘BB(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

86

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (19 พฤศจิกายน 2568 )-----ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DAOLSEC ที่ ‘BB(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘B(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันฟิทช์คงอันดับเครดิตตราสารด้อยสิทธิของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (หรือ Net Capital Bond: NC Bond) ของ DAOLSEC ที่ ‘B+(tha)’

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของ DAOLSEC สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทที่ยังจำกัด แนวโน้มผลการดำเนินงานที่ผันผวน และเงินกองทุนในการรองรับความเสี่ยงที่อยู่ในระดับปานกลาง  นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุน (Wholesale funding) ของบริษัท

 

ยังมีแรงกดดันต่อการดำเนินงาน: ภาวะตลาดหลักทรัพย์ที่ซบเซายังคงกดดันการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทย โดยมูลค่าการซื้อขายของตลาด ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2568 ปรับตัวลดลง 7% เมื่อเทียบช่วงดียวกันของปีก่อน (หลังจากที่ได้ปรับตัวลดลง 12% ในปี 2567) และปริมาณบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ที่ลดลงอย่างมาก  บริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ มีการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างประเทศมากขึ้น แต่ฟิทช์คาดว่าศักยภาพการทำกำไรไม่น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้มากนักในระยะสั้น และสภาวะตลาดจะยังคงผันผวน

 

เครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่ยังเล็ก: DAOLSEC เป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดเล็กในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ 0.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งลดลงจาก 0.8% ในปี 2567 บริษัทมีการกระจายรายได้ไปยังธุรกิจที่ไม่ใช่นายหน้าซึ่งคิดเป็นประมาณ 77% ของรายได้รวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (ปี 2567: 74%) ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 64% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขนาดธุรกิจที่จำกัด ทำให้รายได้ของ DAOLSEC ยังอ่อนไหวต่อภาวะการซื้อขายในตลาด และส่งผลให้ผลการดำเนินงานยังมีความผันผวน

 

คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ฟิทช์จัดอันดับ: DAOLSEC มีหนี้เสียสุทธิหลังหักค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตอยู่ในระดับสูง คิดเป็น 15.5% ของสินทรัพย์รวม ซึ่งมาจากเหตุการณ์ที่ลูกหนี้ไม่ชำระค่าซื้อหลักทรัพย์อันเกิดจากการทุจริตที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหลักทรัพย์ไทยเมื่อปี 2565  ทั้งนี้ คำพิพากษาของศาลแพ่งในเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ตัดสินให้บริษัทชนะคดีอาจช่วยให้ความเสี่ยงด้านลบที่เกี่ยวข้องกับคดีความดังกล่าวผ่อนคลายลงได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางกฎหมายยังไม่เป็นที่สิ้นสุด หากไม่รวมธุรกรรมดังกล่าว ฟิทช์เชื่อว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพของบริษัทยังอยู่ในระดับสูงกว่าบริษัทอื่นที่ฟิทช์จัดอันดับเล็กน้อย แต่คาดว่าน่าจะทรงตัวได้ในระยะสั้น

 

ผลประกอบการฟื้นตัวจากรายการพิเศษแต่ยังมีความท้าทาย: อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้นที่ปรับตัวเลขให้เต็มปีของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเป็น 18.8% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (ปี 2567: -12.7%) เนื่องมาจากการกลับรายการค่าเผื่อหนี้สูญที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริต ซึ่งหากไม่รวมการกลับรายการดังกล่าว DAOLSEC จะมีผลประกอบการขาดทุนโดยมีอัตราส่วนกำไรดังที่กล่าวข้างต้นอยู่ที่ -11.9% ฟิทช์คาดว่าความสามารถในการทำกำไรอาจฟื้นตัวได้หากสภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้น แต่ผลประกอบการของบริษัทจะยังคงอ่อนไหวต่อภาวะความเชื่อมั่นของตลาดที่ผันผวนและน่าจะมีอัตราส่วนกำไรน้อยกว่าบริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่รายอื่นที่ฟิทช์จัดอันดับ เนื่องจากเครือข่ายของธุรกิจที่จำกัด และโครงสร้างต้นทุนที่ยังสูง

 

อัตราส่วนหนี้สินระดับปานกลาง: อัตราส่วนหนี้สินมีแนวโน้มผันผวนตามสภาวะตลาดและหากเกิดการขาดทุนต่อเนื่องก็อาจกดดันระดับเงินกองทุนของบริษัท ทั้งนี้ อัตราส่วน net adjusted leverage ของ DAOLSEC ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.0 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จาก 2.5 เท่าในปี 2567 เนื่องจากลูกหนี้สุทธิเพิ่มขึ้นตามการกลับรายการตั้งสำรอง ฟิทช์คาดว่าฐานะเงินกองทุนของบริษัทน่าจะยังคงสามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งในระยะสั้น

 

มีความอ่อนไหวด้านการระดมเงินทุน: การระดมเงินทุนของบริษัทมีความอ่อนไหวต่อภาวะตลาดเนื่องจากบริษัทมีการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากการออกขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิในประเทศ เพื่อสนับสนุนอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิให้เป็นไปตามเกณฑ์กำกับดูแล ทั้งนี้ อัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่อเงินกู้ยืมระยะสั้น) ของบริษัทอยู่ที่ 0.85 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายนปี 2568 ซึ่งยังอ่อนแอกว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่นที่ได้รับการจัดอันดับโดยฟิทช์ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้จากธนาคารและจากบริษัทแม่ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการระดมเงินทุนได้

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อาจมีการปรับลดอันดับเครดิตหากโครงสร้างทางการเงินของ DAOLSEC มีการปรับตัวถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ ซึ่งอาจเกิดจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของฐานะเงินกองทุน หรือกำไรของบริษัทที่อ่อนแอลงอย่างมาก เช่น หากอัตราส่วน Net Adjusted Levaerage ปรับตัวสูงขึ้นเกิน 5.0 เท่าเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง หรือมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง หรือหากมีเหตุการณ์ใดที่แสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและเจ้าหนี้อาจนำไปสู่การดำเนินการเชิงลบต่ออันดับเครดิตได้เช่นกัน

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อาจมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหากผลการดำเนินงานของ DAOLSEC มีกาปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรวมถึงการที่คดีความการผิดนัดชำระหนี้มีคำพิพากษาของศาลเป็นที่สิ้นสุดโดยไม่ต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ หรือผลการดำเนินงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อค่าเฉลี่ยของส่วนของผู้ถือหุ้น: (operating profit / average equity) มีค่าเฉลี่ย 4 ปีปรับตัวสูงกว่า 5.0% อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่มีการเพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ

 

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของตราสาร NC Bond ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท 2 อันดับ สะท้อนถึงสถานะด้อยสิทธิของตราสารและคุณสมบัติการรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น การเลื่อนการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นหรือยกเลิกการชำระดอกเบี้ยในกรณีที่บริษัทไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิตามเกณฑ์ขั้นต่ำ หรือเมื่อมีการผิดนัดชำระราคาหรือการส่งมอบหลักทรัพย์ต่อสำนักหักบัญชีหรือลูกค้า

 

ฟิทช์ไม่ได้ปรับลดอันดับเครดิตของตราสารดังกล่าวเพิ่มเติมเนื่องจากเชื่อว่าเหตุการณ์ (Trigger event) ตามกรณีที่ทำให้เกิดการรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย นอกจากนี้ ตราสารดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติที่จะถูกตัดเป็นหนี้สูญ (write down) หรือการแปลงเป็นหุ้นสามัญ (equity conversion) ฟิทช์ให้ตราสารดังกล่าวมีส่วนของหนี้ที่คิดเป็นทุน (equity credit) ที่ 0% เนื่องจากตราสารมีอายุที่ค่อนข้างสั้น  และไม่ได้มีคุณสมบัติที่จัดเป็นส่วนหนึ่งของส่วนของผู้ถือหุ้น

 

อันดับเครดิตตราสารหนี้และอันดับเครดิตอื่น: ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตของตราสาร NC Bond จะเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท

 

แหล่งที่มาของข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นไปตามรายละเอียดที่อธิบายไว้ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

 

รายละเอียดอันดับเครดิตของ DAOLSEC มีดังนี้:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BB(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘B(tha)’ 

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของตราสารด้อยสิทธิของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (หรือ Net Capital Bond: NC Bond) คงอันดับที่ ‘B+(tha)’

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้