Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.ทิสโก้ : TFG คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6 บาท

87

 

Company Note
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป


สรุปจากการประชุมนักวิเคราะห์ (18/11/25)

ผู้บริหารยืนยันว่าผลประกอบการปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยคาดว่ารายได้รวม 75,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิจะอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมตั้งเป้าปี 2026F เติบโต 10-15% โดยใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงทั้งในธุรกิจ Feed, Farm, Food Processing และค้าปลีก รวมถึงการขยายตลาดในไทยและเวียดนามเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาสุกร

ธุรกิจค้าปลีก TFG Food Market เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยรายได้ 9M25 ยู่ที่ราว 20,000 ล้านบาท คาดสิ้นปีแตะ 28,000–30,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปีหน้าเพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท (+30%) ปัจจุบันมี 533 สาขา คาดสิ้นปีเพิ่มเป็น 615 สาขา และปี 2026F ขยายเป็น 850 สาขา โดยมีพื้นที่พร้อมแล้วกว่า 700 สาขา SSSG ปีนี้คาดโต 15% และปีหน้าตั้งเป้าแบบอนุรักษ์นิยมที่ 10% กลยุทธ์เพิ่มยอดขายและมาร์จิ้น คือเพิ่มสัดส่วนสินค้า Non-TFG จาก 26-27% เป็น 32-34% ซึ่งมี GP Margin สูงกว่า 20% เทียบกับสินค้าของ TFG ที่ประมาณ 15% GP Margin ของค้าปลีกใน Q3 อยู่ที่ 16.2% ถือเป็นฐานใหม่ และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 20% ใน 2-3 ปี ขณะที่ SG&A ต่อรายได้เพิ่มเป็น 8% จากการเร่งขยายสาขาและสำรองบุคลากร แต่คาดควบคุมได้ในระยะยาว

ธุรกิจสุกรในไทยราคาฟื้น จากจุดต่ำสุด 48 บาท/กก. ในเดือนต.ค.เป็น 64 บาท/กก. ปัจจุบัน และคาดเฉลี่ยระยะยาวที่ 65-70 บาท โดยมีโอกาสแตะ 70 บาทในครึ่งปีแรกของปีหน้า ต้นทุนการเลี้ยงของ TFG อยู่ที่ประมาณ 50 บาทต้นๆ ขณะที่เกษตรกรทั่วไปกว่า 60 บาท ทำให้รายย่อยยังขาดทุน ปริมาณขายสุกรไทยปีหน้าเพิ่มเป็น 220,000 ตันจาก 190,000 ตัน โดยเพิ่มจากประสิทธิภาพฟาร์มไม่ใช่เพิ่มแม่พันธุ์ อุตสาหกรรมยังควบคุมแม่พันธุ์ทำให้ซัพพลายไม่เพิ่มมาก

สุกรเวียดนามราคาต่ำสุด ที่ 47,000 ดองจาก ASF และน้ำท่วม คาดฟื้นเป็น 55,000 ดองใน Q4 และเฉลี่ยปีหน้า 55,000-60,000 ดอง ปริมาณปีหน้าเพิ่มเป็น 140,000 ตันจาก 119,000 ตัน ต้นทุนอยู่ที่ 40,000 ดองและคาดลดลง 5% พร้อมเริ่มเห็นรายได้จากธุรกิจไก่ในเวียดนามปีหน้า

 

รกิจไก่คาดปริมาณโต 5-7% ปีหน้า ตั้งเป้าส่งออกโต 15% โดย 80% มาจากลูกค้าเดิม ตลาดหลักยุโรป (55%) และญี่ปุ่น (28%) โควตาเนื้อดิบยุโรปเต็มแล้ว แต่ยังโตได้ในเนื้อสุก ขณะที่ส่งออกจีนหยุดชั่วคราว 80-90% จากปัญหาโควต้าและการจัดการ Transhipment คาดกลับมาปกติสิ้นปีนี้เป็นบวกต่อ Q1 ปีหน้า

ต้นทุนวัตถุดิบ TFG ล็อกราคาไว้ล่วงหน้า 50-60% ถึงสิ้นปีหน้า โดยกากถั่วเหลืองล็อกที่ 13.5 บาท/กก. (ลดจาก 15 บาท) ข้าวโพดอยู่ที่ 9 บาทกลางๆ คาดต้นทุนสุกรลดลง 5% และไก่ลดลง 3-5% รัฐเปิดนำเข้าข้าวโพดสหรัฐฯ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ โดยใช้โควต้า 3:1 ซึ่งจะช่วยกดราคาข้าวโพดในประเทศ

วางแผน CAPEX ปีหน้า 2,500–3,000 ล้านบาท โดย 80% ลงในธุรกิจค้าปลีกเป็นหลัก

บริษัทคาดรักษาอัตราจ่ายปันผลที่ 50% ของกำไรสุทธิ และจ่าเป็นยรายไตรมาสต่อไป สภาพคล่องดีขึ้น วงจรเงินสดเหลือ 21-22 วัน (จาก 30 วัน) และ D/E Ratio ลดเหลือ 0.96 จาก 1.41 ในปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารเงินทุนที่มีประสิทธิภาพและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท

ยังคงประมาณการเดิม แนวโน้มกำไรปี 2026 อ่อนตัว จากฐานราคาปศุสัตว์ที่ต่ำกว่า

มุมมองของเรา จากประมาณการของเราแบบอนุรักษณ์นิยมจะต่ำกว่าบริษัทคาดการณ์ เนื่องจากยังมีความผันผวนของราคาปศุสัตว์ และต้นทุนวัตถุดิบซึ่งขึ้นกับ demand และ supply

เรายังประมาณการเดิม คาดผลประกอบการ 9M25 คิดเป็น 80% ของกำไรทั้งปี เราคาด 4Q25F ยังมีผลกระทบจากราคาหมูเฉลี่ยยังต่ำ QoQ จากเดือน ต.ค.ที่ต่ำสุดในรอบปีอยู่ที่ 55 บาท/กก. อย่างไรก็ตาม ราคาหมูเริ่มปรับเพิ่มขึ้นเร็วหลังจากผ่านเทศกาลกินเจ และจากสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานกัมพูชาเริ่มบรรเทา จากการทดแทนแรงงานจากลาว เมียนมา และไทย และจากภาครัฐฯกระตุ้นการใช้จ่ายจาก โครงการคนละครึ่ง ส่งผลต่อการบริโภคมากขึ้น

เราคาดกำไรปี 2025F เติบโต 87.5% แต่ปีถัดไปลดลง 14.7% จาก 1) ธุรกิจสุกรปี 2025F รายได้เพิ่มขึ้น 4% ตามราคาสุกรที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังอ่อนตัว แต่ปีถัดไปคาดลดลง -7% จากคาดราคาลดลงเทียบกับปี 2025F ตามการคาดการณ์ของอุตสาหกรรมราคาเฉลี่ย 65-70 บาท/ก.ก. ลดลงเทียบกับปี 2025F ที่คาดเฉลี่ย 73-75 บาท/กก. 2) ธุรกิจไก่คาดเพิ่มขึ้น จากการเน้นจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของบริษัทเพิ่มขึ้น คาดการส่งออกปีนี้ 7 หมื่นตัน ส่งออกไปญี่ปุ่น จีน และกลุ่มยุโรปเป็นหลัก 3) คาดร้านค้าปลีกคาดเพิ่มขึ้นเป็น 550 สาขา และปีถัดไปเพิ่มขึ้น 100 สาขา (สิ้นปี 2024 ปิดที่จำนวน 401 สาขา) คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ และปีถัดไปคาดลดลงจากราคาสุกรที่ปรับลดลงและธุรกิจ shop ที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าเพิ่มขึ้น

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มสัญญาณที่ดีของราคาหมูเริ่มกลับมา และต้นทุนวัตถุดิบกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ยังคงลดลง การจ่ายเงินปันผลที่น่าสนใจ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท อ้างอิง historical PER-0.5STD เฉลี่ย 6X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER26F ที่ 4.5X, Dividend Yield 26F อยู่ระดับสูงคาดที่ 10.6% ความเสี่ยง : โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้