Equality for All
TFG : บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
3Q25 กำไรสุทธิ 1,704 ลบ. เพิ่ม +35% y-y แต่หด -33% q-q : กำไรออกมาหดตัว q-q เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มตามราคาหมูที่ลดลงทั้งในไทย และเวียดนาม แยกตามกลุ่มดังนี้
ธุรกิจไก่ (สัดส่วน 27%) ยอดขาย 4,866 ลบ. เพิ่ม +7% y-y จากปริมาณขายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะตลาดส่งออกและการขายให้อุตสาหกรรม
ธุรกิจหมู (20%) ยอดขาย 3,544 ลบ. เพิ่ม +3% y-y จากปริมาณขายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะหมูชำแหละ เช่นเดียวกับเวียดนามยอดขายเพิ่มขึ้นจากปริมาณขาย
ธุรกิจอาหารสัตว์ (16%) ยอดขาย 2,773 ลบ. เพิ่ม +1% y-y จากปริมาณขายเพิ่มขึ้น
ธุรกิจค้าปลีก (36%) ยอดขาย 6,893 ลบ.เพิ่ม +13% y-y จากจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 533 สาขา โดย SSSG ปรับลงจากใน 2Q25 ที่ +17.7% เหลือเพียง +8% ตามราคาหมูที่ลดลง
อัตรากำไรขั้นต้น ขยับลงมาที่ 18.8% จาก 24.0% q-q แต่ดีกว่าปีก่อนที่ 15.2% ตามปริมาณขายเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร เพิ่ม +27% y-y และ +12% q-q ตามการเปิดสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น 71 สาขา ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจากภาระหนี้ที่ลดลง
คาดกำไรปีนี้โตมากกว่า 2 เท่า ขณะที่ปีหน้าคาดจะหดตัว y-y เช่นเดียวกับกลุ่มเนื้อสัตว์ : ผบห. ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 13-14% y-y และปีหน้าโต 10-15% y-y เป็นการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งไก่, หมู, อาหารสัตว์ ตามการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม และในส่วนร้านค้าปลีกจากการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น (..อ่านต่อหน้า 2)
หมู : ปริมาณขายในไทยคาดอยู่ที่ 190,000 ตัน ส่วนปีหน้าจะเพิ่มเป็น 220,000 ตัน เพิ่ม +16% y-y จากการขยายการเลี้ยง ส่วนราคาขายเฉลี่ยคาด 65-70 บาท/ กิโลกรัม ขณะที่เวียดนามคาดปริมาณขาย 119,000 ตันและเพิ่มเป็น 130,000 ตันในปี 2026 ราคาขายเฉลี่ยคาด 55,000-60,000 ดอง/ กิโลกรัม
ไก่ : คาดปริมาณขายปี 2025 ที่ 40,000 ตัน และปี 2026 เพิ่ม +10% y-y จากการเชือดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายทรงตัว y-y
อาหารสัตว์ : ปริมาณขายเพิ่มจากการขยายกำลังการผลิต
ร้านค้าปลีก : คาดยอดขายปี 2025 โต +13% y-y ภายใต้จำนวน 615 สาขา และ SSSG +15% ขณะที่ปี 2026 คาดยอดขายโต +30% y-y จากจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 850 สาขา SSSG +10% y-y ซึ่งมีพื้นที่รองรับแล้ว 700-750 สาขา อีกทั้งจะได้ส่วนเพิ่มจากรายได้อื่นเข้ามาจากการนำสินค้านอกกลุ่มมาขายในร้านเพิ่มขึ้นคาดจะเพิ่มเป็น 1.5% ของยอดขายในปีหน้าจากปี 2025 ที่ราว 1%
ต้นทุนวัตถุดิบ : ข้าวโพดและกากถั่วเหลืองในไทยนั้นได้มีการล็อคราคาไปราว 50-60% ของปริมาณการใช้จนถึงสิ้นปีหน้าแล้ว ขณะที่ในเวียดนามล็อคถึงกลางปีหน้าเช่นกันคาดว่าต้นทุนจะลดลงราว 3-5% y-y
แผนนำบ. ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต เข้าตลาดใน 2-3 ปีข้างหน้า : ผบห. แจ้งปีนี้การเปิดสาขาจะอยู่ที่ 615 สาขา ขณะที่ปีหน้าเพิ่มเป็น 850 สาขา จากผลตอบรับที่ดีและไม่มีการแย่งยอดขายกันเองสำหรับสาขาที่เปิดใหม่อย่างที่กังวล โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 28,000 ลบ. และเพิ่มเป็น 40,000 ลบ. ในปีหน้า และตั้งเป้าจะมียอดขายจากสินค้านอกกลุ่ม TFG มากขึ้นจากปัจจุบันขายอยู่ราว 25% ของยอดขายและเพิ่มเป็น 40% ในปีหน้า การนำบริษัทดังกล่าวเข้าตลาดนั้นคาดจะเกิดขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้า
มีปันผลสูงเป็นของแถม
“แม้การดำเนินงานปีหน้าจะย่อตัวลงบ้าง แต่เราคาดว่าแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ยังมีโอกาสเร่งตัวขึ้นจากมาตรการตัดวงจรหมูซึ่งคาดจะยังส่งผลให้ราคาเนื้อสัตว์ยังยืนสูงจนถึงกลางปีหน้า ขณะที่วัตถุดิบทยอยล็อคราคาบ้างแล้วช่วยให้ต้นทุนลดลง ส่วนร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต ยังทำได้ดีต่อตามการเปิดสาขาที่เร่งตัวขึ้น
แม้ระยะสั้นราคาหมูในเวียดนามอาจลดลง แต่ทาง ผบห. คาดจะทยอยเร่งตัวขึ้นในปลายปีนี้เพื่อรองรับเทศกาลเต็ดในต้นปีหน้าซึ่งจะเป็นตัวเพิ่มกำไรของ TFG ในเวียดนาม เรายังชอบและยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนปันผลดีสุดในกลุ่มอาหาร 12.3% ปีนี้ และ 9.5% ปีหน้า ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th