Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ไซด์เวย์/รอเบรก ปัจจัยในประเทศมีปัจจัยหนุนระยะสั้นสัญญาณภาษีศุลกากรไทย-สหรัฐฯ ดีขึ้น

91

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 19 พฤศจิกายน 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/รอเบรก ปัจจัยในประเทศมีปัจจัยหนุนระยะสั้นสัญญาณภาษีศุลกากรไทย-สหรัฐฯ ดีขึ้น นายกฯ ชี้ว่า ปธน. ทรัมป์พร้อมลดภาษีแลกไทยกู้ทุ่นระเบิดเป็นสัญญาณบวก แต่ปัจจัยภายนอกยังเป็นลบ ความกังวล Valuation หุ้นเทคฯ กดดันหุ้นเอเชีย ในขณะที่กรรมการเฟดหลายท่านออกมาส่งสัญญาณระมัดระวังในการลดดอกเบี้ย แต่ภาคแรงงานที่แย่ยังหนุน ทางเทคนิค แกว่งในกรอบหากหลุดต่ำกว่า 1265 จะกลับมาลงรอบใหม่ แต่หากยืนเหนือ 1280 ได้มีช่วงรีบาวด์ต่อ



ประเด็นสำคัญ
• นายกฯ เผยเพิ่มเติมว่า ปธน. สหรัฐฯ จะลดภาษีนำสำหรับไทยอีก 2% จากปัจจุบันที่อัตรา 19% หากไทยสามารถเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้เร็วขึ้น เป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาคส่งออก หนุนความได้เปรียบการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศ ติดตามรายละเอียดและความคืบหน้าการค้ากับ USTR
• ธปท. เผยภาพรวมสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ใน 3Q68 หดตัว 1.0%YoY จากสินเชื่อ SMEs และครัวเรือนที่อ่อนแอ ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ขยายตัวได้เล็กน้อย แต่สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเป็น 2.94% จากฐานสินเชื่อที่หดตัว ภาพรวมของระบบธนาคารพบว่ายังมีเงินทุน, สภาพคล่อง และเงินสำรองสูงท่ามกลางภาวะ ศก. ชะลอ
• ครม. เห็นชอบการปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) ช่วงปีงบ 2569-2573 โดยจะกำหนดกรอบการคลังให้เข้มงวดขึ้น และกำหนดเป้าหมายการขาดดุลไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2572 จาก 4.4%, เพิ่มรายได้ให้ไม่ต่ำกว่า 15.1% ของ GDP จาก 14.8% และลดรายจ่ายให้เหลือ 18% ของ GDP จาก 19%
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei225 วานนี้ปรับลง 3.2% ตามแรงขายกลุ่มหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ และความกังวลต่อสถานะทางการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งได้กดดันให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรญี่ปุ่น ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นระยะ 10 ปีพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี ที่ 1.75%
• Cloudflare (NET.US) สามารถแก้ไขปัญหาระบบเว็ปไซด์ขัดข้องได้แล้วหลังเกิดเหตุคืนวานนี้ หลังพบปริมาณข้อมูลเข้าสู่ระบบมากผิดปกติ มีเว็ปไซด์หลายร้อยแห่งได้รับผลกระทบ เช่น OpenAI, Perplexity, ChatGPT, X, Gemini, Canva

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยทางเทคนิคหลังดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1285 ทำให้มีโอกาสแกว่งลงไปที่บริเวณ 1265/1240 ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาซึ่งอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แม้คาดจะมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการ บจ. ไทยโดยรวม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ FOMC Minutes, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญทั้งภาคแรงงาน NFPs และภาคเงินเฟ้อ PCE CPI หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ – แนวต้าน : 1265/1255 – 1280/1285

 


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BCPG BEM BGRIM PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SET ESG Ratings A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5% และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BAM KTB AP SIRI TOP BLA
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเฉพาะจุด แนะนำ TASCO HMPRO GLOBAL ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจิตวิทยา หากสถานการณ์ความตึงเครียดไทย-กัมพูชาบานปลายรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่าง CBG SAV


Daily Top Picks
AMATA: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมีโอกาสการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ อาจได้ลดภาษีลง ขณะที่ Backlog ปัจจุบันที่ 22,500 ลบ. คาดหนุนผลประกอบการปี 2568-2569 ส่วน 4Q68 คาดยอดโอนแข็งแกร่งและอาจส่งผลต่อ Upside ของกำไรสุทธิจากประมาณการของเราที่ 2,669 ลบ. เป้าหมายระยะสั้นที่ 16.50 บาท

LHHOTEL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q68 โดย 4Q68 คาดกำไรจะยังเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ประเมินเป้าหมายระยะสั้นที่ 13.00 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

กำไรขาย By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง ท่องไว้ในใจ เด้งขาย กำไรขาย ลงค่อยทยอยซื้อ...อ่านแล้ว โคตรง่าย หาเงิน หากำไรจากหุ้น ทำไมง่าย ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้