Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ "ตลาดเริ่มคาดเฟดไม่ลดดอกเบี้ย"

96

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 18 พฤศจิกายน 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/พักตัว ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาที่อาจส่งผลทางจิตวิทยา แม้ว่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและกำไรบริษัทจดทะเบียนรวมยังจำกัด ในขณะที่โอกาสในการลดดอกเบี้ยของเฟดใน ธ.ค. ลดลงเหลือเพียง 43% หนุนให้เงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่และไทยน้อยลงได้ในช่วงถัดไป ทางเทคนิคตลาดรีบาวด์หลังทดสอบ 1265 แล้ว หากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1285/1295 ได้ให้ระวังว่าจะเป็นเพียงรีบาวด์สั้น การลงมีแนวรับที่ 1270/1255

 


ประเด็นสำคัญ
• รัฐบาลแถลงย้ำจุดยืนต่อการระงับปฏิญญาร่วม กระทรวงพาณิชย์เผยจะยึดคำพูดจากการหารือระหว่างนายกฯ และ ปธน. สหรัฐฯ ที่แยกแยะประเด็นความมั่นคงและการเจรจาการค้า โดยจะเดินหน้าเจรจากับ USTR ต่อและคงกรอบเวลาเดิมในการเจรจาข้อตกลงการค้าในรายละเอียดให้เสร็จภายในสิ้นปี 2568
• สภาพัฒน์เผย 3Q68 GDP ขยายตัว 1.2%YoY ชะลอลงจากไตรมาสก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดแต่ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ที่ 1.0%YoY ชะลอลงตามการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐและการส่งออกบริการ และประเมิน GDP ปี 2568 จะเติบโต 2.0%YoY จากการเร่งส่งออกและผลจากภาษีศุลกากรที่น้อยกว่าคาด
• ประธานรัฐสภาเผยความคืบหน้าการเปิดประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง รธน. ในวาระที่ 2 ยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาล แต่ได้รับทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าจะมีการตกลงพิจารณาระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค. 2568 และต้องเว้นช่วง 15 วันจึงจะสามารถลงมติในวาระ 3 ได้ สะท้อนกรอบเวลาการยุบสภาที่ชัดเจนขึ้น
• FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 55.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมใน ธ.ค. 2568 เพิ่มจากน้ำหนักที่ 37.6% ในสัปดาห์ก่อน
• 3Q68 GDP ญี่ปุ่นหดตัว 1.8%YoY หดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส กดดันจากการส่งออกที่กระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และการชะลอตัวของการลงทุนที่อยู่อาศัย ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยวญี่ปุ่นวานนี้ปรับลงหลังจีนประกาศเตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น เช่น Shiseido (9.1%) Fast Retailing (-5.3%)

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยทางเทคนิคหลังดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1285 ทำให้มีโอกาสแกว่งลงไปที่บริเวณ 1265/1240 ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาซึ่งอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แม้คาดจะมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการ บจ. ไทยโดยรวม รวมทั้งการประชุม ครม. คาดจะมีการพิจารณามาตรการแก้หนี้เสียรายย่อย, รถไฟฟ้าสายสีม่วง-สีแดง 40 บาทตลอดสาย และเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ FOMC Minutes, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญทั้งภาคแรงงาน NFPs และภาคเงินเฟ้อ PCE CPI หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1270/1255 – 1285/1295


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BCPG BEM BGRIM PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SET ESG Ratings A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5% และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BAM KTB AP SIRI TOP BLA
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเฉพาะจุด แนะนำ TASCO HMPRO GLOBAL ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจิตวิทยา หากสถานการณ์ความตึงเครียดไทย-กัมพูชาบานปลายรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่าง CBG SAV


Daily Top Picks
GULF: ปัจจัยหนุนจากโครงการ Direct PPA ของรัฐบาล และปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้า Jackson มีแนวโน้มดีกำไรเติบโตดีตาม Capacity Payment ที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก US$27/MW-day เป็น US$270/MW-day และการเริ่ม COD โครงการ Solar 5 แห่ง และโครงการ Solar+BESS 2 แห่งใน 4Q68 เป้าหมายระยะสั้น 43.50 บาท

TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้น รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q68 และคาดจำนวนผู้ใช้รายใหม่สุทธิจะเป็นบวกใน 4Q68 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนหลังการประมูลคลื่นความถี่หนุน เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.80 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไม่กระตุ้นไม่ขยาย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นข่าวสภาพัฒน์ฯ เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ชะลอตัวมาก โดยขยายตัวได้พียง 1.2 % .....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้