สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(17 พฤศจิกายน 2568)---------บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 95.1 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 3,727.5 ล้านบาท สะท้อนความมีเสถียรภาพของธุรกิจหลัก และทิศทางเติบโตของกลุ่ม EV ที่ชัดเจนขึ้น
นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2568 ว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 11,335.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% (YoY) มีปริมาณการขายถ่านหินรวม 0.87 ล้านตัน และมีกำไรสุทธิ 243.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.3% (YoY) ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และความสำเร็จจากการขยายฐานรายได้ในกลุ่มธุรกิจใหม่
ส่วนภาพรวมการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 ยังคงใกล้เคียงจากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 3,727.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% (YoY) ลดลง 7.3% (QoQ) มีกำไรสุทธิที่ 95.1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้:
1. ธุรกิจถ่านหิน รายได้ไตรมาสนี้อยู่ที่ 2,147.9 ล้านบาท ลดลง 22.8% (QoQ) มีปริมาณการขายถ่านหินที่ 0.87 ล้านตัน ใกล้เคียงจากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับความต้องการใช้พลังงานในประเทศ และความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ธุรกิจโลจิสติกส์ มีรายได้ 143.7 ล้านบาท ลดลง 7.9% (QoQ) โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้านอกกลุ่มต่อเนื่อง เช่น กลุ่มสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรม
3. ธุรกิจพลังงานยั่งยืน ผ่านการลงทุนใน บมจ.เอเชีย ไบโอแมส (ABM) มีรายได้จากกลุ่มนี้รวม 561.5 ล้านบาท ลดลง 5.9% (QoQ) โดยอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการ เพื่อผลักดันประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น
4. ธุรกิจ Low Emission Mobility โดย บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด (AAG) มีรายได้ 874.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80.4% (QoQ) จากการจำหน่ายรถยนต์ EV และ Hybrid ผ่านพันธมิตร 4 แบรนด์ ได้แก่ Zeekr, Omoda & Jaecoo, Chery และ Mitsubishi Motors พร้อมเดินหน้าขยาย–ปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการรวม 9 แห่ง ซึ่งทยอยเปิดให้บริการภายในปี 2568 นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการให้บริการเช่ารถ EV Taxi จำนวน 50 คัน ช่วยหนุนการเติบโตของพอร์ต EV อย่างต่อเนื่อง
นางสาวปณิตา ย้ำว่า AGE พร้อมยกระดับธุรกิจให้สอดคล้องกับทิศทางพลังงานแห่งอนาคต ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจถ่านหินเดิม และการลงทุนในธุรกิจ Low Emission Mobility ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยภาพรวมงวด 9 เดือนของปี 2568 มีรายได้รวมและกำไรสุทธิเป็นบวก และมั่นใจผลประกอบการปี 2568 จะเติบโตใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยั่งยืนอยู่ที่ประมาณ 30–35% ในปี 2568 และเพิ่มเป็น 50% ในปี 2573
สำหรับเรื่องการกำกับดูแลกิจการ AGE ยังได้รับการประเมินผลการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report: CGR) ประจำปี 2568 ในระดับ “ดีเลิศ (5 ดาว)” จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยผลการประเมินนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AGE ในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว