สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 14 พฤศจิกายน 2568 )------- บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงหลุดแนว 1,300 จุด ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ
SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบช่วงแรก ก่อนจะร่วงลงหลุดแนว 1,300 จุดในช่วงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายหลัก ๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นำโดย แรงขายทำกำไรหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง และหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังบริษัทค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ซึ่งค่อนข้างอ่อนแอ
ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมา ขานรับข่าวสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ (ที่ทำสถิติรอบนี้ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ) สิ้นสุดลง แต่กรอบการปรับขึ้นค่อนข้างจำกัดเนื่องจากยังคงเผชิญแรงขายต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ย ซึ่งทำให้การประชุมรอบถัดไปของเฟดยังคงมีความไม่แน่นอน นอกจากนี้ แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยด้วยเช่นกัน
ในวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,269.26 จุด ลดลง 2.58% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 33,463.35 ล้านบาท ลดลง 7.62% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.51% มาปิดที่ระดับ 219.50 จุด
สัปดาห์ถัดไป (17-21 พ.ย. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,230 และ 1,200 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) บันทึกการประชุมเฟด ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. ของยูโรโซนและญี่ปุ่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนพ.ย. (เบื้องต้น) ของอังกฤษ ยูโรโซนและญี่ปุ่น