Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

78

 


ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
Sentiment ตลาดหุ้นสหรัฐฯมิกซ์ แต่ไทยปรับลงแรง
KEY FINDINGS:

สหรัฐฯ: ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าจากความคาดหวังในการสิ้นสุดภาวะ Government Shutdown ขณะที่เครื่องชี้วัดภาวะอารมณ์ตลาด (Sentiment Indicators) ส่งสัญญาณมิกซ์ โดยดัชนี Fear & Greed Index ฟื้นตัวขึ้นจากโซน Extreme Fear กลับเข้าสู่โซน Fear คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 24 จุดเป็น 35 จุด สวนทางกับผลสำรวจ AAII ที่มี Bull-Bear Spread ที่ลดลง

ไทย: ขณะเดียวกัน ดัชนี SET ปรับตัวลง 2.0% สอดคล้องกับมาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ที่แย่ลงมาก โดยคะแนนปรับลงจาก 62 คะแนน เหลือ 34 คะแนน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากโซน Greed สู่โซน Fear

US MARKET SENTIMENT TRACKER:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวผันผวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงในช่วงแรก แต่รีบาวด์กลับมาได้จากความคาดหวังในการสิ้นสุดภาวะ Government Shutdown ส่งผลให้ดัชนีปิดปรับตัวขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่เครื่องมือชี้วัด Sentiment ส่งสัญญาณมิกซ์ โดย CNN Fear & Greed Index ฟื้นตัวขึ้นจากโซน Extreme Fear กลับเข้าสู่โซน Fear คะแนนปรับเพิ่มขึ้นจาก 24 จุด เป็น 35 จุด หนุนจากทั้งองค์ประกอบด้าน Market Breadth, Market Momentum และ Stock Price Strength ที่ปรับตัวดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนของ AAII สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบต่อตลาดในช่วง 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนมีมุมมองฝั่ง Bullish ลดลงจาก 38.0% เหลือ 31.6% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 37.5%) ขณะที่มุมมองฝั่ง Bearish เพิ่มขึ้นจาก 36.3% เป็น 49.1% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 31.0%) ส่งผลให้ Bull-Bear Spread ปรับลดลงแรงจาก +1.7% สู่ระดับ -17.5% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 6.5%)

THAI MARKET SENTIMENT TRACKER:
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับตัวลงถึง 2.0% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลุดระดับ 1,300 จุด ขณะที่มาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ปรับตัวลงแรงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยคะแนนลดลงถึง 28 คะแนน จาก 62 คะแนนสู่ 34 คะแนน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากโซน Greed เข้าสู่โซน Fear โดยมีองค์ประกอบย่อยแย่ลงในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี Bull-to-bear ที่ปรับลงจากระดับ 50.5% สู่ 22.6% ดัชนี Volume Index ที่ปรับลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ และดัชนี Momentum Strength ที่ปรับลงจาก 10.4 จุด สู่ 3.0 จุด รวมถึง Market Breadth ที่ยังคงอ่อนแอ

IMPLICATION:
ความผันผวนยังคงเป็นประเด็นหลัก โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มเผชิญแรงขายเริ่มกระจายตัวไปในหลายกลุ่มมากขึ้นในคืนที่ผ่านมา ท่ามกลาง Sentiment ที่ผสมผสาน สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุน

สำหรับตลาดหุ้นไทย สัญญาณ Sentiment Tracker บ่งชี้ถึงแรงกดดันที่ยังไม่สิ้นสุด แม้ BLS Greed & Fear Barometer จะปรับลงมามาก แต่ตัวชี้วัดสำคัญทั้ง Momentum, Volume และ Market Breadth ยังคงอ่อนแอและมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ ภาวะนี้ชี้ว่าตลาดยังขาดเสถียรภาพ และยังคงมีความเปราะบางสูงในระยะสั้น

สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทยหมอนๆ โดยบวกตาม DELTA เป็นตัวนำ แสดงว่าที่เหลือเล่นสลับกัน โดยหุ้นบวก BDMS CPALL TLI IVL SPRC BEM สลับกับ M CPN CPAXT CRC OR CCET HANA


แนวโน้มตลาดวันนี้
Wait and see.
ตลาดหุ้นไทยกลับขึ้นมาปิดบริเวณแนวรับสำคัญ 1290 จุด ได้สำเร็จ (ยังไม่ทำ New low กรอบระยะสัปดาห์) แต่เรายังไม่วางใจในความผันผวนที่เกิดกับหุ้นไทยแต่ละตัว ที่ราคาหุ้นอาจไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานในแง่ที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 แล้ว แม้จะดีตามคาดหรือ ดีกว่าคาด แต่ก็มีความเสี่ยงราคาหุ้นปรับลดลง
เราจึงปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับหน้างาน “เป็นการเน้นตั้งรับ” แทนที่จะเลือกซื้อก่อนเพื่อเล่นดักงบ หรือ เล่นตามงบการเงินที่ทยอยประกาศดีขึ้นเกินคาด ซึ่งรอบนี้เราปรับหุ้น COM7 ออกจากพอร์ต (งบดี-แต่ราคาหุ้นตก) และชะลอการเพิ่มหุ้นเข้าพอร์ตไปก่อน จนกว่าความผันผวนของราคาหุ้นรายตัวจะลดลง
ปัจจัยที่ต้องตาม คาดมีผลต่อราคาหุ้นรายตัว เช่น MSCI Rebalance มีผล 24 พ.ย.นี้ โดยมีหุ้นไทยหลายตัวตกเป็นเป้าหมายในการถูกลดน้ำหนักลงทุน, การประชุมนักวิเคราะห์หลังงบออก เพื่อมองไปข้างหน้าต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 4/25 และปี 2026


กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้-“รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร



What to watch
ตลาดคาดหุ้นเพิ่มเข้าคำนวณดัชนี SET50 ม.ค.-มิ.ย.69: GLOBAL, ITC, SAWAD หุ้นออกได้แก่ BCP, KKP, VGI โดยคาดประกาศกลางเดือน ธ.ค.69 / ดัชนี SET100 คาดหุ้นเข้า BPP, CKP, SAPPE ส่วนหุ้นถูกถอด คาดได้แก่ JTS, MBK, WHAUP

สถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ยุติลงแล้ว “คาดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ ซึ่งขาดหายไปราว 1 เดือน เมื่อข้อมูล (เงินเฟ้อ, การจ้างงาน ฯลฯ) ทยอยประกาศ อาจมีผลต่อการตีความของตลาดได้ทั้งบวก และ ลบ ต่อ ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ในการประชุมเดือน ธ.ค. (เช่น เงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และ การจ้างงานที่ดีขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดคาด เฟด จะไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุม เดือน ธ.ค.นี้”

MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรายไตรมาส MSCI Global Small Index หุ้นเข้ามี 1 ตัว คือ M ส่วนหุ้นออกมี 5 ตัว คือ AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP โดยจะมีผลต่อราคาปิดของวันที่ 24 พ.ย.

หายห่วง!! น้ำท่วมไม่ซ้ำรอยปี 54 กทม. ย้ำผ่านจุดสูงสุดแล้ว ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำหนุนในส่วนของกรุงเทพมหานครว่า สถานการณ์น้ำหนุนในช่วงเดือนนี้ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เนื่องจากได้ผ่านวันที่มีน้ำหนุนสูงสุดคือ 8 พ.ย. 68 ไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำเหนือที่น่าจะบรรเทาลง ประกอบกับถ้าไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาสถานการณ์ก็จะคลี่คลายขึ้น รวมถึงที่ผ่านมา กทม. มีการปรับปรุงโครงสร้างประตูระบายน้ำที่เคยมีปัญหาในปี 54 ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น จึงทำให้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ จึงไม่น่าเกิดขึ้นแบบปี 54

ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน รายงานว่า ปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอยู่ในระดับที่แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถรับได้อย่างปลอดภัย บริเวณจุดวัดสามโคก จังหวัดปทุมธานี พบว่า มีอัตราการไหลเฉลี่ย 2,400-2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากศักยภาพการรับน้ำสูงสุดที่ 3,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แสดงให้เห็นว่าระดับน้ำยังต่ำกว่าความจุสูงสุดมาก และไม่มีแนวโน้มที่น้ำเหนือจะท่วมเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ

โอเปก คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเล็กน้อยในปี 2569 เป็นการเปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวในปี 2569

คาดอุปสงค์น้ำมันจากโอเปกพลัสในปี 2569 จะอยู่ที่ 43.0 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าจะมีอุปทานน้ำมันส่วนเกินเล็กน้อยที่ระดับ 20,000 บาร์เรล/วัน หากโอเปกพลัสยังคงผลิตน้ำมันในอัตราเดียวกับเดือน ต.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
TOP“ถือ” จาก Valuation ที่ต่ำอยู่ด้านล่าง PBV 0.47x ผลตอบแทนเงินปันผล 5.2%
แนวรับ 35 ต้าน 37 Stop loss 34

Tactical port ถอด COM7

 

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

วันนี้ มีรายงานผลประกอบการทั้งหมด 11 บริษัท แบ่งเป็น
(+) กำไรดีกว่าคาด (Beat) จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ GUNKUL SAWAD CPF AP
(0) กำไรตามคาด (In-line) จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ DIF BEM ERW SYNEX LH
(-) กำไรต่ำกว่าคาด (Missed) จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ MINT OKJ


(+) Beat:

(+) GUNKUL รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 457 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 457 ล้านบาท ทรงตัว YoY ลดลง 12% QoQ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 6% และ 11% ตามลำดับ จาก GM มากกว่าคาด พร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.04 บาท (Div yields 2%) ขึ้น XD 27 พ.ย. แนวโน้ม 4Q25 คาด กำไรลดลง YoY (จากค่าไฟ) และ QoQ (ตามฤดูกาล) ในปี 2026 คาดมีการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ 177MW คาดจะกลบผลกระทบของ PPA ที่ครบอายุไปได้ เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.84 บาท

(+) SAWAD รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 1.3 พันล้านบาท (สูงกว่าที่เราคาด 6% แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด) เพิ่มขึ้น 2% YoY (ผลขาดทุนจากการขายรถจักรยานยนต์ยึดลดลง) และ 4% QoQ (รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโตและ credit cost ลดลง) แนวโน้มกำไร 4Q25 จะทรงตัว YoY แต่อ่อนตัวบ้าง QoQ (รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและ NIM อ่อนตัวลง) ราคาหุ้นมี valuation ถูก คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34 บาท

(+) CPF รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 5,186 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 6,099 ล้านบาท ลดลง 8% YoY และ 45% QoQ แต่สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 9% และ 15% ตามลำดับ แนวโน้ม 4Q25 คาด ลดลง YoY, QoQ ตามราคาเนื้อสัตว์ เราปรับกำไรปี 2025-26 ขึ้น 5% และ 10% ตามลำดับ ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 24.60 บาท (จาก 24.20 บาท) ยังแนะนำซื้อเก็งกำไร ดักราคาเนื้อหมูฟื้นตัว

(+) AP รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 1.15 พันล้านบาท ลดลง 17% YoY แต่เพิ่มขึ้น 15% QoQ สูงกว่าที่เราคาด (แต่เป็นไปตามตลาดคาด) จากส่วนแบ่งกำไร JV เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชดเชยยอดโอนแนวราบอ่อนตัว แนวโน้ม 4Q25 คาดกำไรเพิ่มขึ้น YoY, QoQ เป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี โดยจะมีโครงการใหม่เพิ่งเสร็จโอนในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังเปราะบางจากการแข่งขันด้านราคา เราจึงยังแนะนำเลี่ยงการลงทุน (ขาย) ไปก่อน เช่นเดียวกับภาพกลุ่มอสังหาฯ

(0) In-line:

(0) DIF รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 2,769 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 3,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 2% QoQ พร้อมจ่ายปันผล 0.2222 บาท (Div yields 2.4%) ขึ้น XD วันที่ 17 พ.ย. แนวโน้ม 4Q25 คาดทรงตัว YoY, QoQ ตามปกติ เราแนะนำถือรับปันผล (แต่ยังไม่ซื้อเพิ่ม จากราคาที่ขึ้นมาสูง) ทั้งนี้ Div yields รวมทั้งปีคาดราว 9.5% ต่อปี

(0) BEM รายงานกำไรสุทธิ/หลัก 3Q25 ที่ 1,079 ล้านบาท ทรงตัว YoY เพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด แต่มากกว่าตลาดคาด 6% แนวโน้ม 4Q25 คาด ขยายตัว YoY จาก MRT และค่าใช้จ่ายลด แต่ลดลง QoQ จากไม่มีรายได้ปันผลสูงเหมือนไตรมาสก่อน คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท

(0) ERW รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 57 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 56 ล้านบาท ลดลง 55% YoY และ 10% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 4Q25 คาด กำไรหลักลดลง YoY (จาก RevPar) แต่ฟื้นตัว QoQ (ตามฤดูกาล) คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท

(0) SYNEX รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 198 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY และ 8% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด การเติบโตหนุนโดยยอดขายมือถือ และอุปกรณ์เกมส์ และส่วนงานองค์กร ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรดีขึ้นมากจาก NCAP ด้วย แนวโน้ม 4Q25 คาดกำไรยังเติบโต YoY ต่อจากทั้ง iPhone 17 และ Switch 2 แต่ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นไตรมาสที่มีการปรับปรุงต้นทุนทางบัญชี เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14 บาท

(0) LH รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 787 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 792 ล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่ฟื้นตัว 36% QoQ จากฐานต่ำ กำไรที่ออกมาเป็นไปตามที่เราคาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด แนวโน้ม 4Q25 คาดเป็นไตรมาสดีสุดของปี ฟื้นตัว YoY, QoQ อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำเลี่ยงการลงทุน (ขาย) จากขาดตัวเร่งการเติบโต และปัจจัยแวดล้อมไม่เอื้อ

 

(-) Missed:

(-) MINT รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 2,553 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 2,768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY ลดลง 19% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 6% (แต่เป็นไปตามตลาดคาด) แนวโน้ม 4Q25 คาดกำไรเติบโต YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 35 บาท

(-) OKJ รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 17 ล้านบาท ลดลง 71% YoY และ 27% QoQ ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดราว 26% จากรายได้น้อยกว่าคาด และ GM ต่ำกว่าคาด โดย SSS ใน 3Q25 ลดลงถึง 23% YoY แต่รายได้เพิ่มขึ้น 12% YoY จากการขยายสาขาใหม่ อย่างไรก็ดี GM ที่ 42% ลดลงทั้ง YoY, QoQ กดดันจากรายได้ของส่วนร้านอาหาร ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการขยายสาขา และโปรโมชั่น ดังนั้น แนวโน้ม 4Q25 คาด กำไรลดลง YoY แต่ฟื้น QoQ ตามฤดูกาล เราหั่นกำไรปี 2025-26 ลง 18% ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.54 บาท (จาก 5.60 บาท) ยังแนะนำเลี่ยงการลงทุนไปก่อน


สรุปประเด็นจาก Quick take

SPRC
สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น QoQ ใน 4Q25 หนุนโดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอุปทานที่ตึงตัว ในส่วนของธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม คาดอัตรากำไรจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงและส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มยอดขายต่อสถานีและลด OPEX
View from fundamental: ช่วงไฮซีซั่นของค่าการกลั่น รวมทั้งมูลค่าหุ้นที่ไม่แพงและคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2026 ในระดับสูงกว่า 8% น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท)

 

MTC
เมืองไทย แคปปิตอล
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
MTC ประเมินแนวโน้ม NPLs เกิดใหม่จะลดลงใน 4Q25 เพราะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล สำหรับเป้าหมายทางการเงินปี 2026 ได้แก่ สินเชื่อเติบโต 10-15% YoY, ขยายสาขา 300-400 สาขา, cost of funds ลดลงราว 20-40bps มาที่ 4.1-4.3% และคาด credit cost จะลดลงได้ YoY ในปี 2026
View from fundamental: เราประเมินว่าทิศทางกำไรของ MTC จะขึ้นทำ new high ได้ต่อเนื่องใน 4Q25 ขณะที่ valuation metrics ไม่แพง เรายังแนะนำ BUY

PTTGC
พีทีที โกลบอล เคมิคอล
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
คาดส่วนต่างราคาปิโตรเคมี (HDPE, PP, PX, Benzene) ปรับตัวสูงขึ้น YoY ในปี 2026 หนุนโดยการปิดโรงงาน/การลดการผลิตของผู้ผลิตต้นทุนสูง
View from fundamental: มูลค่าปัจจุบันของ PTTGC ซื้อขายที่ PBV ปี 2026 เพียง 0.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 2SD) น่าจะสะท้อนแนวโน้มระยะสั้นที่อ่อนแอไปในราคาแล้ว เรามองว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นก่อนผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นในปีหน้า เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 27 บาท)

AAV
เอเชีย เอวิเอชั่น
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
แนวโน้ม 4Q25 น่าจะพลิกกลับเป็นกำไร หนุนโดยช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทยและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ
View from fundamental: ช่วงไฮซีซั่นจะหนุนให้กำไรหลัก 4Q25 แข็งแกร่ง และคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึง 1Q26 เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 1.50 บาท)

 

CPAXT
ซีพี แอ็กซ์ตร้า
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
SSS ช่วงต.ค.ถึงกลางพ.ย. เริ่มเห็นฟื้นตัว +1-3% ในธุรกิจค้าส่ง ส่วนธุรกิจค้าปลีกไม่ฟื้น ยังหดตัวเล็กน้อยใกล้กับ 3Q25
View from fundamental: ทิศทางการดำเนินงานถูกกดดันจากธุรกิจค้าปลีก เรายังคงคาดกำไรหลัก 4Q25 ลดลง YoY แต่ฟื้น QoQ ทั้งนี้ เราประเมินจังหวะลงทุน CPAXT อยู่ที่ SSS ทั้งค้าส่งและค้าปลีกต้องกลับเติบโตอีกครั้ง

CPALL
ซีพี ออลล์
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
SSS ช่วงต.ค.ถึงกลางพ.ย. ยังลงเล็กน้อยใกล้เคียงกับ 3Q25 (-0.5%) เพราะปริมาณฝนมากกว่าปีก่อน มาตรการคนละครึ่งพลัสอาจกระทบต่อยอดขายในร้านช่วงสั้น แต่ผู้บริหารเชื่อว่าการหมุนเวียนเงินในระบบที่สูงขึ้นและจะช่วยกำลังซื้อผู้บริโภคโดยรวมดีขึ้น
View from fundamental: อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ปรับขึ้นได้ดี ช่วยขับเคลื่อนกำไรหลัก CPALL ปี 2025 จะเติบโตดีกว่ากลุ่มค้าปลีกรวม ทั้งนี้ เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อน downside ของ CPAXT ไปแล้ว แนะนำ ซื้อ

CRC
เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ดีลขายห้างในอิตาลีอาจเสร็จเร็วขึ้นเป็นภายในสิ้นเดือน พ.ย. จากนั้น จัดประชุมบอร์ดเพื่ออนุมัติจ่ายปันผลพิเศษงวดแรกภายในสิ้นปีราว 0.7 บ./หุ้น (yield 3.6%) ปรับเป้าหมายการเติบโตยอดขาย 3 ปีข้างหน้าเป็น 7-9% เพราะมีปรับแผนเพิ่มขยายสาขาในเวียดนามเท่าตัวเป็น 11-12 แห่งต่อปี หนุนคาดยอดขายในเวียดนามจะโตเฉลี่ย > 10%ต่อปี (เดิมคาดโต 5-6%)
View from fundamental: ทิศทางกำไรหลัก 4Q25 จะฟื้นตัว QoQ ต่อเนื่องจาก SSS ที่ลบน้อยลงและอัตราทำกำไรที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ช่วง 9 เดือนข้างหน้าที่จะจ่ายเงินปันผลสูง เราคาดรวมราว 1.9 บ/หุ้น คิดเป็น yield 9.8% จึงยังยืนยัน ซื้อ


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปุยนุ่น By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ สำรวจหุ้นไทยวันศุกร์ แต่ไม่สดใส SET ร่วงหล่น 20 จุด ขณะที่วอลุ่มเทรดเบาดังปุยนุ่น .....

คับคั่ง By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานงบการเงินไตรมาส3/68 ออกมาอย่างคับคั่ง บางบริษัทกำไรโต บ้างก็กำไรลดลง ....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้