วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐใกล้ยุติ แรงซื้อนำโดยหุ้น DELTA ซึ่งหนุนดัชนีราว +3 จุด ตามด้วยแรงซื้อในหุ้น BDMSเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ยังคงไหลออก เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,287.44 จุด +2.63 จุด +0.20% มูลค่าการซื้อขาย34,627.43 ลบ. Program Trading -452.27 ลบ. ต่างชาติ-43.08 ลบ. TFEX +16,133 สัญญา ตราสารหนี้+428.82 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่58.69 ดอลลาร์/บาร์เ รล โดยได้แรงหนุนจากมุมมองบวกที่ว่าการที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง จะเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนประเมินผลกระทบด้านอุปทานจากการที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทลุคออยล์ ( Lukoil) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
+ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงข้อกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ว่า การหารือทางการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐยังคงเดินหน้าต่อไป และไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศครั้งนี้
+ ประธานบอร์ดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไฟเขียวปลดล็อกขายเหล้า-เบียร์ช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ได้ รอออกประกาศสำนักนายกฯใน 15 วันชี้ช่วยหนุนท่องเที่ยวช่วงเทศกาล
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 797.60 จุด หรือ -1.65% โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED หลังจากเจ้าหน้าที่ FED มีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯนอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Nvidia และหุ้นบริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายอื่น ๆ ยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย
- นักลงทุนเทน้ำหนักคาดการณ์ว่า FED จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 47% ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนัก70% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ ตามเวลาสหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคล 5 ราย และนิติบุคคล 3 แห่ง ที่มีฐานอยู่ในเมียนมาและไทย โดยระบุว่าทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับการบังคับใช้แรงงานเพื่อหลอกลงทุนออนไลน์
- อังกฤษเปิดเผย GDP เบื้องต้น ขยายตัวเพียง 0.1% ใน 3Q68 ซึ่งต่ ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.2% และชะลอตัวลงจาก 2Q68 ที่ขยายตัว 0.3%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงกดดันจากนักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและและมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันขณะที่ปัจจัยในประเทศยังจับตาการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนที่จะสิ้นสุดวันนี้ มองกรอบดัชนี 1,280-1,295 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
- สินค้าส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต : KCE HANA DELTA CCET TFG GFPT
- MSCI Rebalance (ปรับน้ำหนัก 24 พ.ย. 25) MSCI Thailand เข้า – ออก - MSCI Global Small Capเข้า M ออก AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP
- จัดตั้ง JV AMC : BAM KBANK CHAYO JMT