สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 13  พฤศจิกายน 2568 )------- บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)GUNKUL รายงานงบการเงินรวม ไตรมาสที่ 3/2568 กำไรสุทธิ 457.12 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 379.40 ล้านบาท  พร้อมปันผลระหว่างกาล อัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น XD 27 พ.ย. 68   พร้อมรุกตั้งโฮลดิ้ง ขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในฟิลิปปินส์ 

 

 นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  GUNKUL เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานในภาพรวมสําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยมีกําไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ปรากฏผลกําไรสุทธิ 457.12 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปกอนแสดงผลกําไรสุทธิ 379.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจํานวน 77.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.48 โดยมีสาเหตุมาจากการดําเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจพลังงาน ทั้ง โครงการพลังงานลม โครงการพลังงานแสงอาทิตย รวมถึงดอกเบี้ยรับตามสัญญาเช่าเงินทุนและรายได้อื่นๆ ที่เติบโตขึ้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการตนทุนทางการเงิน และต้นทุนการดําเนินงานที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ ส่งผลใหบริษัทฯ มีอัตรากําไรขั้นต้นสําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 อยู่ที่รอยละ 38.36 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปกอนแสดงที่มีอัตรากําไรขั้นตนที่รอยละ 31.20 เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 7.16 ส่วนกําไรจากการ ดําเนินงานตามปกติ ปรากฏผลกําไรสุทธิ 456.17 ลานบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของ ปีก่อน แสดงผลกําไรสุทธิ 472.96 ล้านบาท ลดลงเป็นจํานวน 16.79 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 3.55 



รายได้รวมของบริษัทฯ สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 จํานวน 1,837.55 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีกอนแสดงจํานวน 2,370.33 ล้านบาท ลดลงจํานวน 532.78 ล้านบาท คิดเป็น ลดลงร้อยละ 22.48 ซึ่งสามารถจําแนกรายละเอียดในส่วนของรายได้ตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้  


รายได้จากการขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟา แสดงในงบการเงินรวม สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2568 แสดงจํานวน 586.80 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีกอนแสดงจํานวน 537.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 49.23 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นรอยละ 9.16  


ในส่วนของรายได้จากการขายไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ในประเทศ สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่30 กันยายน 2568 แสดงจํานวน 227.03 ลานบาท เปรียบเทียบ กับงวดเดียวกันกับปีกอน แสดงจํานวน 175.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 51.36 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.24 เนื่องจากผลการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ รวมถึง การเข้าทําสัญญาซื้อหุนสามัญเพิ่มเติมในการร่วมค้าบริษัท กัน กุล พาวเวอร เจนเนอเรชั่น จํากัด จาก บริษัท ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ อินเตอรเนชั่นแนล บี.วี. การซื้อหุนดังกลาวเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนไดเสีย ในบริษัทดังกล่าวจากเดิมร้อยละ 51 เป็นร้อยละ 100 และบริษัท กันกุล พาวเวอร เจนเนอเรชั่น จํากัด ได้เปลี่ยน สถานะจากการร่วมค้าเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และส่งผลใหบริษัทฯ มีรายได้จากการขายไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น  

สําหรับรายได้จากการขายไฟฟาพลังงานแสงอาทิตยตางประเทศ สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 แสดงจํานวน 359.77 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีกอน แสดงจํานวน 361.90 ล้านบาท ลดลงจํานวน 2.13 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 0.59  

อนึ่ง ในส่วนของรายได้และกําไรจากการขายไฟฟาพลังงานลม สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่30 กันยายน 2568 ทั้ง 3 โครงการ ขนาดกําลังการผลิตรวม 170 เมกะวัตต์ บริษัทฯ ใช้วิธีการรับรู้โดยใชวิธีส่วนได้เสีย (Equity Method) และได้บันทึกรายการดังกลาวในสวนแบ่งกําไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่สัดส่วนร้อยละ 50 ตาม สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ จึงไมปรากฏบันทึกเป็นรายได้จากการขายไฟฟ้าของโครงการพลังงานลม แต่ไดบันทึก เป็นส่วนแบ่งกําไรของบริษัทร่วมบนงบการเงินแทน 



รายได้จากการก่อสรางและให้บริการ แสดงในงบการเงินรวม สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 แสดง จํานวน 731.78 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีกอน แสดงจํานวน 842.63 ล้านบาท ลดลงจํานวน 110.85 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 13.16 เนื่องจากในปีก่อน บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้โครงการก่อสรางโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ให้กับลูกค้าภาคเอกชน และโครงการ ก่อสร้างสายเคเบิ้ลใตน้ำให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อยางไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีส่วนของ Backlog งานบริการก่อสรางและ งานขายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าราว 8,000 ล้านบาท ที่รอรับรู้ รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ราว 1,500 – 2,000 ล้านบาท และ ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า  


รายได้จากส่วนงานผลิตและจําหน่ายสินค้า แสดงใน งบการเงินรวม สําหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 แสดงจํานวน 331.18 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวด เดียวกันกับปีกอน แสดงจํานวน 502.58 ล้านบาท ลดลง จํานวน 171.40 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 34.10 อย่างไรก็ตามอัตรากําไรขั้นต้นในงวด 30 กันยายน 2568 เท่ากับ ร้อยละ 27.03 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันในปกอนที่มี อัตราสวนเท่ากับ ร้อยละ 23.26 จากการบริหารและควบคุมต้นทุนในส่วนของงานขายสินค้าและอุปกรณ์ที่ดีขึ้น ทําให้อัตรากําไรสูงขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ โดยในช่วงไตรมาส 3 บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งใหเป็นผูจัดจําหน่ายอุปกรณ์โซลูชั่น อินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่อย่างเป็นทางการจากผูผลิตชั้นนํา ระดับโลก โดยบริษัทฯ ได้วางเป้าในการส่งมอบโซลูชั่นอินเวอรเตอร์และแบตเตอรี่ ภายในปี 2568 ไมต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเพิ่มยอดขายในชวงไตรมาส 4 เป็นต้นไป เพิ่มเติมจากการจําหนายสินค้าปกติของบริษัทฯ  

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีความพร้อมและศักยภาพสูงในการเข้าร่วมและขยายการดําเนินธุรกิจภายใต้ โครงการโซลาร์ชุมชน ที่รัฐบาลมีนโยบายสงเสริมโครงการโซลาร์ชุมชนเพื่อกระจายการผลิตไฟฟ้าไปสู่ระดับทองถิ่นที่ คาดวาจะเปิดรับซื้อไฟฟ้ารวมกว่า 1,500 เมกะวัตต์ ครอบคลุมหลายรอยชุมชนทั่วประเทศ รวมถึงโอกาสในการเข้าร่วมและขยายการดําเนินธุรกิจภายใต้ขายไฟฟ้าในรูปแบบ Direct PPA (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) ที่จะเปดโอกาสใหบริษัทฯ สามารถเข้าถึงลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจขนาดใหญ่โดยตรง ซึ่งเป็น ปจจัยสนับสนุนโดยตรงต่อบริษัทฯ ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและการดําเนินงาน และจะสามารถสร้างรายได้ เพิ่มเติมในอนาคต 



 ทั้งนี คณะกรรมการบริษัทฯ  ปันผลระหว่างกาลงวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2568 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2568    ในอัตรา 0.04 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย  XD วันที่  27 พ.ย. 68   และกำหนดจ่ายปันผลวันที่  11 ธ.ค. 2568 



พร้อมกันนี้ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) จัดประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่13 พฤศจิกายน 2568 นั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งใน ประเทศฟิลิปปินส์เพื่อขยายการลงทุนในต่างประเทศ  ซึ่งบริษัทฯ จะถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 100 ซึ่งเป็นผลให้ บริษัทดังกล่าวมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้   


ชื่อบริษัท : อยู่ระหว่างการพิจารณาตั้งชื่อบริษัท 

สถานที่ตั้ง :  ประเทศฟิลิปปินส์  

  วันที่คาดว่าจะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท :  ภายในเดือนมกราคม 2569

 วัตถุประสงค์การลงทุน   :เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศฟิลิปปินส์ 


ทุนจดทะเบียน :    12,000,000  เปโซฟิลิปปินส์   


จำนวนหุ้น  :  120,000  หุ้น 

มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (ราคาพาร์)  :    100  เปโซฟิลิปปินส์ต่อหุ้น 
  


สัดส่วนการเข้าลงทุน  และโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท   :  บริษัท ไบรท์ กรีน พาวเวอร์ จำกัด (ถือหุ้นโดยบริษัทฯ ที่ร้อยละ 99.99) จัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งที่ประเทศฟิลิปปินส์ สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 100 

ลักษณะการประกอบธุรกิจ    บริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศ ฟิลิปปินส์   

 

แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการจัดตั้งบริษัท   :   เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ 
 



การลงทุนในบริษัทย่อยในครั้งนี้ ไม่มีความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวโยงใด ๆ กับกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อยของบริษัทฯ ทั้งนี้ รายการดังกล่าว ไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ของบริษัทจดทะเบียน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และ ประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) 



---จบ---