Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

MTC เดินหน้าสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างเป็นธรรม ดันพอร์ตสินเชื่อ Q3/68 เติบโต 13.26% แตะ 180,453 ลบ. ส่งมอบบริการมาตรฐานสากล หนุนเศรษฐกิจฐานรากไทยยั่งยืน

104


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 พฤศจิกายน 2568)---------บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เดินหน้าสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมและเท่าเทียม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 พอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 180,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.26% และมีกำไรสุทธิ 1,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.63% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรักษาคุณภาพลูกหนี้ รักษาสัดส่วน NPL อยู่ที่ 2.60% ฟากผู้บริหาร “ปริทัศน์ เพชรอำไพ” ระบุมั่นใจปี 68 พอร์ตสินเชื่อเติบโตตามเป้า พร้อมมอบบริการทางการเงินในมาตรฐานระดับโลก เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายสหประชาชาติ ผ่านเครือข่ายกว่า 8,609 สาขาทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 ควบคู่กับนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่ยังคงพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบ โดยมุ่งหวังให้ประชาชนได้รับบริการทางการเงินที่โปร่งใส เข้าถึงง่าย และเป็นธรรม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 180,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.26% รายได้รวม 7,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.10% และกำไรสุทธิ 1,724 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสามารถควบคุมคุณภาพหนี้เสีย (NPL) ไว้ที่ 2.60% ขณะที่ 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวม 22,682 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% และกำไรสุทธิ 4,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.27% เทียบช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อน

“ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 3/2568 ยังคงมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่มีหลักประกันควบคู่กับการขยายสาขาต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดปล่อยสินเชื่อขยายตัวได้มากขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้น 437 สาขา จากสิ้นปีก่อน รวมทั้งสิ้นเป็น 8,609 สาขา ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่ให้ครบ 600 สาขาในปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ให้บริการไมโครไฟแนนซ์ในมาตรฐานระดับโลก โดยเน้นจุดแข็งด้านความยั่งยืนทางธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ” นายปริทัศน์ กล่าว


สำหรับปี 2568 มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 10-15% พร้อมคุม NPL ให้ไม่เกิน 2.70% ควบคู่การปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรมภายใต้หลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในสังคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินตามเป้าหมายของสหประชาชาติ โดยเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรม สร้างสังคมไทยให้เป็นสุข พัฒนากระบวนการปล่อยสินเชื่อตลอดห่วงโซ่ของกิจการ เพื่อรักษาผลประโยชน์และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุดเช่นเดิม


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา MTC ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความรับผิดชอบ โปร่งใส และธรรมาภิบาล โดยได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับดีเลิศ (CG Rating 5 ดาว) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 รวมถึงผลการประเมินด้านความยั่งยืน (ESG Rating) ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวในประเทศที่ระดับ A-(tha) จาก Fitch Ratings ซึ่งสะท้อนถึงเสถียรภาพทางการเงินและความเชื่อมั่นขององค์กรในระดับสากล


นอกจากนี้ MTC ยังได้รับรางวัล “Best Micro Finance Company Thailand 2025” จากเวที Global Banking & Finance Awards พร้อมร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC), องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และ บริษัทเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเยอรมนี (KfW DEG) เพื่อผลักดันการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว พร้อมได้รับการสนับสนุนจาก Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ภายใต้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ช่วยตัวเอง By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น รัฐบาล เห็น นักการเมือง เห็นการเมืองไทย แล้ว รู้สึกว่า เตือนตัวเองไว้ ช่วยตัวเอง เอาตัวให้รอด ....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้