Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

BANPU ไตรมาส 3/68 กําไรสุทธิ 33 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 238% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจผลิตพลังงาน -ธุรกิจก๊าซมีปริมาณขายและราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น

91

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 11 พฤศจิกายน 2568 )------- บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) BANPU รายงานผลการดําเนินงานสําหรับไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ รายงานผลกําไรสุทธิ จํานวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 57 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 238 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากผลกําไรจาก การดําเนินงานที่ดีของส่วนงานผลิตพลังงาน ทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในสาธารณรัฐประชาชนจีน และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา และจากผลกําไรจากการดําเนินงานของธุรกิจก๊าซในประเทศ สหรัฐอเมริกาจากปริมาณการขายและราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นแม้ว่าจะมีรายได้จากธุรกิจถ่านหินลดลงตามราคา ตลาดของถ่านหิน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีปริมาณขายถ่านหินรวมเพิ่มขึ้นและต้นทุนขายเฉลี่ยต่อตันที่ลดลงอย่าง มีนัยสําคัญจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทรับรู้ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตรา แลกเปลี่ยนจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทต่อสกุลเงินสหรัฐ และรับรู้กําไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือ ทางการเงินลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้บริษัทฯ ยังคงดําเนินมาตรการในการบริหารจัดการต้นทุนและ ค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อให้บริษัทสามารถเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดพลังงานได้อย่างมั่นคงและ มุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนือง


ไตรมาสที่3 ปี 2568 รายงานผลกําไรสุทธิจํานวน 32.65 ล้านเหรียญสหรัฐ (รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลียนทียังไม่เกิดขึนจริง จํานวน 12.54 ล้านเหรียญสหรัฐ) สะท้อนถึงศักยภาพในการดําเนินงานทีแข็งแกร่ง และสร้างกระแสเงินสดได้ อย่างต่อเนือง พร้อมกันนี้ BANPU ยังคงมุ่งเน้นการเพิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพอร์ตธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพ การเติบโตให้พร้อมรับโอกาสจากตลาดพลังงานทีมีแนวโน้มฟืนตัวและปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนือง โดยแผนการปรับ โครงสร้างตามทีได้กล่าวไปข้างต้นช่วยให้เกิดการจัดระเบียบกลุ่มธุรกิจหลักภายใต้กลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’ ใหม่ เป็น 4 เสาธุรกิจ (4 Pillars) ได้แก่ Pillar 1: ธุรกิจเหมืองยุคใหม่ (Next-Gen Mining Business) ยกระดับการทําเหมือง ด้วยเทคโนโลยี AI และเปลียนผ่านสู่การผลิตแร่แห่งอนาคตที่จําเป็นต่อการเปลียนผ่านพลังงาน Pillar 2: ธุรกิจก๊าซ ธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ (US Closed-Loop Gas Business) ที่รวมสินทรัพย์ด้านพลังงานก๊าซในสหรัฐฯ ให้อยู่ ภายใต้การบริหารจัดการของ BKV Pillar 3: ธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจทีเกียวเนือง (Power+ Business) รวมสินทรัพย์ โรงไฟฟ้าพลังงานพืนฐาน พร้อมทั้งขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี (BESS) และ การซือขายไฟฟ้า Pillar 4: ธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต (Future Tech Business) มุ่งเน้นเทคโนโลยีพลังงานทีเชือมโยง กับนวัตกรรมด้านพลังงานและการเติบโตของธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Centers)


ทั้งนี้ในไตรมาส 3 BANPU รายงานกําไรก่อนหักดอกเบีย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA1) รวม 296 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบด้วย EBITDA จากธุรกิจเหมืองถ่านหิน
จํานวน 142 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติจํานวน 66 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจไฟฟ้าจํานวน 84 ล้าน เหรียญสหรัฐ (ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า) และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานจํานวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ


Pillar 1: ธุรกิจเหมืองยุคใหม่ (Next-Gen Mining Business)
ธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย รายงานปริมาณการขายที 6.11 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากไตรมาส ก่อนหน้า มีราคาขายเฉลี่ย (ASP) 73.59 เหรียญสหรัฐต่อตัน ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สะท้อนถึงสภาวะสมดุลระหว่าง อุปสงค์และอุปทานของตลาดถ่านหิน ต้นทุนขายเฉลี่ยลดลงอยู่ที 48.46 เหรียญสหรัฐต่อตัน ลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาส ก่อนหน้า อันเป็นผลจากการให้ความสําคัญอย่างต่อเนื่องกับการบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงาน จึง รักษาอัตรากําไรขันต้น (GPM) ได้ในระดับที่ดีร้อยละ 34


ธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศออสเตรเลีย รายงานปริมาณการขาย 1.91 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 9 จากไตรมาสก่อน หน้า สาเหตุจากการย้ายเครืองจักรตามแผนของเหมือง Springvale และ Mandalong ขณะที่ราคาขายเฉลีย (ASP) อยู่ที 152.26 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากไตรมาสก่อนหน้า จากกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งสร้างสมดุล ระหว่างการส่งออกและตลาดในประเทศ ส่วนต้นทุนขายเฉลี่ยอยู่ที 146.12 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากไตรมาสก่อนหน้า


ธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศจีน รายงานส่วนแบ่งกําไรจํานวน 10.23 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 142 จาก ไตรมาสก่อนหน้า โดยราคาถ่านหินในประเทศจีนเริ่มปรับตัวเพิมขึ้นจากความต้องการใช้ถ่านหินในช่วงฤดูร้อนในขณะที่ ปริมาณสํารองถ่านหินในประเทศเริ่มลดลง

ธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศมองโกเลีย รายงานปริมาณการขาย 0.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 จากไตรมาสก่อน หน้าจากการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบจัดการถ่านหิน (Coal Handling and Preparation Plant : CHPP) มีราคาขาย เฉลี่ยที่ 30.12 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามราคาตลาดซึ่งขายส่งออกไปยัง ประเทศจีน ขณะที่ต้นทุนขายเฉลียลดลงอยู่ที่ 11.30 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือลดลงร้อยละ 16 จากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้รายงานอัตรากําไรขันต้นที่สูงถึงร้อยละ 73


Pillar 2: ธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ (US Closed-Loop Gas Business)
ธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เริมรับรู้ผลประกอบการจากแหล่งก๊าซธรรมชาติ Bedrock ภายหลังการปิดธุรกรรมเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 โดยในไตรมาสนี้รายงานปริมาณการขายรวม 76.23 พันล้านลูกบาศก์ฟุต (Bcf) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมือเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีราคาขายเฉลี่ยท้องถิน 2.63 เหรียญสหรัฐต่อพันลูกบาศก์ฟุต (Mcf) ลดลงร้อยละ 7 เมื่อ เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub เริมมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นโดยปัจจุบันอยู่ทีระดับกว่า 4 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู (MMBtu) ได้รับแรงหนุนจากปริมาณก๊าซสํารองในประเทศทีลดลงประกอบกับความต้องการ พลังงานและไฟฟ้าทีเพิมขึนจากเทคโนโลยี AI และธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Centers) รวมถึงการขยายตัวของการส่งออก ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึงช่วยกระตุ้นความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติโดยรวม สําหรับธุรกิจ CCUS โครงการ Barnett Zero รายงานปริมาณการอัดเก็บคาร์บอนจํานวน 44,000 ตันในไตรมาสนี้


Pillar 3: ธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Power+ Business)
ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานพื้นฐาน อันได้แก่โรงไฟฟ้า HPC รายงานส่วนแบ่งกําไรรวม 25.80 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีค่า ความพร้อมจ่าย (EAF) ทีร้อยละ 92 สําหรับโรงไฟฟ้า BLCP รายงานค่า EAF สูงถึงร้อยละ 99 และรายงานส่วนแบ่งกําไร จํานวน 7.75 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในประเทศจีน (CHPs) แม้ปริมาณการขายไฟฟ้าและไอนําจะ ลดลงตามฤดูกาล แต่ต้นทุนถ่านหินต่อหน่วยทีลดลง ส่งผลให้สามารถรายงานกําไรจํานวน 13 ล้านหยวน ขณะทีโรงไฟฟ้า ซานซีลู่กวง (SLG) รายงานส่วนแบ่งกําไรจํานวน 30 ล้านหยวน จากปริมาณการขายไฟฟ้าทีเพิมขึน และต้นทุนถ่านหิน ต่อหน่วยที่ลดลงเช่นเดียวกัน สําหรับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I และ II ในสหรัฐอเมริการายงานผลกําไรรวม 9 ล้าน เหรียญสหรัฐ มีอัตราการใช้กําลังการผลิต (Capacity factor) ที่ร้อยละ 69.30 สะท้อนถึงการดําเนินงานที่ดีอย่างต่อเนือง จากความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อน


ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศจีนรายงานกําไรจํานวน 15 ล้านหยวน โรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญีปุ่นรายงานรายได้จากเงินปันผลตามสัดส่วนการลงทุน (TK dividend) จํานวน 74 ล้าน เยน ในขณะทีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในออสเตรเลียรายงานผลขาดทุนจํานวน 0.5 ล้านเหรียญออสเตรเลีย จาก สภาพอากาศไม่เอืออํานวย ในขณะทีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมประเทศเวียดนาม รายงานผลกําไรรวม 0.1 ล้านเหรียญสหรัฐ สําหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Jinhu Qianfeng ประเทศจีน มีความ คืบหน้าในการก่อสร้างเป็นไปตามแผน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2569


ธุรกิจที่เกียวเนือง ได้แก่ พอร์ตโฟลิโอธุรกิจพัฒนาโครงการระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) ซึ่งปัจจุบันมีกําลังการผลิตรวม 1,900 เมกะวัตต์ชัวโมง มีความคืบหน้าในการพัฒนาและก่อสร้างตามแผน โครงการหลักประกอบด้วย โครงการอิวาเตะ โตโนะ ประเทศญี่ปุ่น มีกําลังการผลิตติดตัง 14.5 เมกะวัตต์ และความจุ พลังงานไฟฟ้า 58 เมกะวัตต์ชัวโมง ซึ่งได้เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนในเดือนมิถุนายน 2568 ในขณะที่โครงการ วูรีน (Wooreen) ประเทศออสเตรเลีย มีกําลังการผลิตติดตัง 350 เมกะวัตต์ และความจุพลังงานไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์ ชั่วโมง ยังคงเดินหน้าในการก่อสร้างตามแผนและคาดว่าจะสามารถเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2570 ทั้งนี้ โครงการอื่น ๆ ภายใต้พอร์ตโฟลิโอมีความคืบหน้าในการดําเนินงานตามแผนทีวางไว้เช่นกันโดยจะทยอยเปิดดําเนินการ เชิงพาณิชย์ได้เพิมเติมภายในปี 2571


สําหรับธุรกิจการซื้อขายไฟฟ้า (Energy trading) ประเทศญีปุ่น ในช่วง 9 เดือนของปี 2568 สามารถจําหน่ายไฟฟ้าเป็น จํานวนรวม 5,325 กิกะวัตต์ชัวโมง โดยให้บริการลูกค้ารวม 1,875 ราย โดยได้มีการนําระบบ AI เพือการคาดการณ์ราคา ซื้อขายไฟฟ้าเข้ามาช่วยเพิมประสิทธิภาพและความสามารถในการทํากําไร

Pillar 4: ธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต (Future Tech Business)
ปัจจุบันมีโรงงานผลิตแบตเตอรีขนาดกําลังการผลิตรวม 3.2 กิกะวัตต์ชัวโมงและธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (E-Mobility) ซึ่ง บริหารจัดการยานยนต์ไฟฟ้ารวมทังสิน 876 คัน โดย BANPU ยังคงเดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการลงทุน ในประเทศทีมีศักยภาพการเติบโตสูง พร้อมทั้งมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Centers) เพือเสริมความแข็งแกร่ง ให้กับระบบนิเวศพลังงานสะอาดตลอดจนเติมเต็มห่วงโซ่คุณค่าและตอกยําบทบาทของ BANPU ในการเป็นผู้ให้บริการ ด้านพลังงานแบบครบวงจร เพื่อเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เล่นตัวที่กำไร By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักเก็งกำไร ตอนนี้ เล่นหุ้น ตัวที่กำไร ออกมาดีกว่าคาด เหนือคาด เรียกว่า หากิน ระยะสั้น ....

กำไรดีก็บวก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เทศกาลตอนนี้ คือ บริษัทจดทะเบียน ประกาศงบการเงินไตรมาส3ปีนี้ ตัวไหน กำไรดีก็บวก ตัวไหน ขาดทุน ...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้