สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 พฤศจิกายน 2568 )-----แสนสิริ ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ไทย ตอกย้ำความเป็น "Trendsetter" ในตลาด ด้วยการประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ ในการใช้ Data และ AI เข้ามาขับเคลื่อนการตลาดอย่างบูรณาการ จนสามารถ คว้า 3 รางวัล จากเวที Marketing Excellence Awards Thailand 2025 ความสำเร็จนี้ไม่ใช่แค่การก้าวทันเทคโนโลยี แต่คือบทพิสูจน์ว่า แม้ในภาวะที่ตลาดอสังหาฯ ผันผวน "ความแม่นยำ" ในการระบุผู้ซื้อคุณภาพด้วย AI คือคำตอบที่ทำให้ ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเบื้องหลังความสำเร็จคือการผนึกกำลังกับพันธมิตรเอเจนซี่อย่าง iProspect และแพลตฟอร์มระดับโลก ที่ร่วมกันวางระบบจัดเก็บและใช้ข้อมูลการตลาดอย่างเป็นระบบ ผ่านการทำงานของ AI ที่สามารถวิเคราะห์เชิงลึกบุคลิกลักษณะของลูกค้าที่มีแนวโน้มการซื้อได้อย่างแม่นยำ
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "แสนสิริ มองหานวัตกรรมและรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยจัดการความท้าทายและแก้ปัญหาในการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ยิ่งในช่วงเวลาที่ความต้องการในการซื้อผันผวนจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และการแข่งขันของผู้ประกอบการเข้มข้นขึ้น การใช้ Data และเทคโนโลยี AI ทางการตลาดจึงเข้ามามีบทบาทเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
"Data เป็นสิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ส่วนเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้สามารถวิเคราะห์เชิงลึกได้อย่างแม่นยำ รอบด้านและครบถ้วน ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์อย่าง iProspect และใช้เทคโนโลยีของ Platform ระดับโลก เช่น Meta Google ทำให้แสนสิริได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมใหม่ก่อนใคร และสามารถประยุกต์ใช้ให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
First Mover ในเอเชียแปซิฟิก: เทคโนโลยี AI ที่ทำให้เห็นผลจริง
แสนสิริทำงานกับ iProspect ในการเชื่อมโยงชุดข้อมูล CRM ของแสนสิริ และข้อมูลเชิงลึกจาก Global Platform เพื่อค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Potential Lead) ที่มีศักยภาพในการซื้อที่อยู่อาศัยได้ตรงหรือใกล้เคียงที่สุดกับโครงการในแต่ละเซ็กเมนต์ในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ
"การประยุกต์เทคโนโลยี AI กับการทำการตลาดในยุคนี้ของแสนสิริบน Platform ดิจิทัลมีเดียหลัก ได้แก่ ฝั่ง Meta ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Conversion API หรือ CAPI ส่วนฝั่ง Google ใช้ Enhanced Conversions for Leads หรือ ECL ซึ่งแสนสิริเป็นแบรนด์อสังหาฯ แรกๆ ในเอเชียแปซิฟิคที่ประสบความสำเร็จในการเริ่มใช้ AI ที่ทางแต่ละ Platform พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2566 และกุญแจสำคัญอีกอย่างคือการทำงานกับ iProspect เอเจนซี่พาร์ตเนอร์ที่อยู่กับแสนสิริมากว่า 10 ปี ร่วมกันริเริ่มและทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่เกิดขึ้นในตลาดมาโดยตลอด” " สมัชชา กล่าว
ความพร้อมของ Data Ecosystem: กลยุทธ์ความสำเร็จ
นายศุภกิตติ์ ลิ้มบุญทรง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอพรอสเพค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า " iProspect นำความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนสื่อและ Marketing Technology มาปรับใช้ให้ตรงกับเป้าหมายทางธุรกิจของแสนสิริ ซึ่งแสนสิริมีรูปแบบการวาง Data Ecosystem ภายในองค์กรที่ดี มีผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการข้อมูลการตลาดตั้งแต่หน้าโครงการจนถึงทีมงานส่วนกลาง ส่งผลให้การทำงานต่อยอดบน Digital Platform มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ แสนสิริยังให้ความสำคัญกับ Digital Transformation ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงกระบวนการทำงานด้านการตลาดให้มีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และรวดเร็ว ซึ่งเป็นการบูรณาการจากทุกส่วนงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมขาย ทีมการตลาด ทีมดิจิทัล ทีมวิเคราะห์ข้อมูล ทีมงานของ iProspect และพันธมิตร Global Platform"
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: Lead เพิ่ม 42% ต้นทุนลด 19%
แสนสิริปลดล็อคข้อจำกัด และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้กับทีมขายติดต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ระบบสามารถกรองมาให้ได้ประสบความสำเร็จมากขึ้น เช่น แคมเปญ Always On ที่เรานำเทคโนโลยี AI ผนวกกับ One Search ที่เราวางแผนร่วมกับแสนสิริ จับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการด้านอสังหาฯ สูง ส่งผลให้ภาพรวมจำนวน Lead สูงขึ้น 42% ในขณะที่ราคาต่อ Lead ถูกลงถึง 19%
"เราทำงานให้กับแบรนด์ต่างๆ หลากหลาย และทุกแบรนด์ก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเดียวกันได้ แต่สิ่งที่ทำให้แสนสิริแตกต่างคือความพร้อมของแบรนด์ในการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือได้สูงสุด ซึ่งปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งคือการให้ความสำคัญของการวางแผนการเก็บและใช้ Data ด้วยการมีข้อมูลต้นทางที่สมบูรณ์ ใช้ได้จริง ซึ่งแสนสิริมีการจัดหา จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล เมื่อนำมาเชื่อมกับ ECL และ CAPI จึงทำให้ได้ Lead ของลูกค้าเป้าหมายที่แม่นยำและมีคุณภาพ ทีมขายสามารถติดต่อลูกค้าและปิดการขายต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่เป็นสิ่งที่แบรนด์ต่างๆ ควรให้ความสำคัญหากต้องการปรับใช้ AI กับธุรกิจ" ศุภกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย
5 องค์ประกอบแห่งความสำเร็จ: บทเรียน 40 ปีแสนสิริ
จากประสบการณ์ของแสนสิริ การนำนวัตกรรมมาปรับใช้ให้เกิดผลทางธุรกิจอย่างแท้จริง จำเป็นต้องมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ นโยบายในการสนับสนุนการทดลองริเริ่มสิ่งใหม่ๆ บุคลากรที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ระบบที่รองรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ พันธมิตรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และช่องทางที่เหมาะสมในการสื่อสารเข้าถึงลูกค้า ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ แสนสิริสามารถขับเคลื่อนธุรกิจตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนมากกว่า 150 โปรเจคครอบคลุมทั่วประเทศ และสามารถรักษาระดับการเติบโตด้วยยอดขาย 9 เดือนแรก (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) อยู่ที่ 39,000 ล้านบาท คิดเป็น 74% ของเป้ายอดขาย และเติบโตเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทาย ตลอดจนได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์ที่ผู้บริโภครัก (Brand Love) จากรางวัลด้านแบรนด์มากมาย" นายสมัชชา กล่าว
คว้า 3 รางวัลระดับประเทศ สะท้อนผู้นำ Marketing Excellence
ล่าสุด ผลลัพธ์จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างแสนสิริและ iProspect ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ ด้วยการคว้ารางวัลด้านการตลาดรวม 3 รางวัลจากเวที Marketing Excellence Awards Thailand 2025 ประกอบด้วย: รางวัลชนะเลิศ Gold (2 รางวัล) คือ Excellence in Data-Driven Marketing จากความสามารถในการคัดกรองข้อมูลผู้ซื้อคุณภาพ และต่อยอดสู่การขายได้อย่างแม่นยำ และ Excellence in Search Marketing จากการสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์การค้นหาผ่านระบบ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีก 1 รางวัล Bronze ในสาขา Excellence in Marketing Transformation สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม การได้รับรางวัลทั้ง 3 สาขาในครั้งนี้ ยืนยันความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการตลาดดิจิทัลของแสนสิริ และเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จที่องค์กรอื่นๆ สามารถศึกษาและนำไปปรับใช้ได้