Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

89

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 7 พ.ย.68 ปิด -10.40 จุด อยู่ที่ 1,302.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,054 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 52 ลบ. สถาบันซื้อ 341 ลบ. รายย่อยซื้อ 2,323 ลบ. และต่างชาติขาย 2,717 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 797 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,BDMS,MINT,CPALL,MRDIYT และยอดขายหุ้น SCB,DELTA,BBL,KTB,KCE มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 929 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CPAXT,BTS,QH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 6,273 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 76,211 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,915 ลบ.

 Market View

  • DJIA +0.16%, S&P500 +0.13%, Nasdaq -0.21% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +56%, สาธารณูปโภค +1.37% ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสาร -0.84%, เทคโนโลยี -0.33% โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA -1.2%,S&P500 -1.6%, Nasdaq -3.04% WoW จากความกังวลมูลค่าหุ้นเกี่ยวกับ AI สูงเกินไป ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ปรับลดลง ขณะที่บริษัทที่ปรีกษาด้านจ้างงาน Challenger, Gray & Christmas เผยตัวเลขเลิกจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐ ต.ค. อยู่ที่ 153,374 ตำแหน่ง +183% หลังระบบ Autoamtion & AI ที่เข้ามาทดแทนแรงงาน และ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย. อยู่ที่ 50.3 & คาด 53.0 ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี ส่วนการแก้ไขภาวะชัตดาวน์สหรัฐนั้น ทางผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ฯ ของพรรครีพับลิกันคาดจะสามารถผ่านงบประมาณชั่วคราวได้ภายในสัปดาห์นี้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันพฤหัสติดตาม US CPI ต.ค.คาด 3.1% & ก.ย. 3.0% YoY
  • Stoxx600 ยุโรป -55% และ -1.2% WoW จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี หลังนักลงทุนกังวลต่อมูลค่าหุ้นที่อาจสูงเกินไป ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ปรับขึ้นหลัง Nexperia บริษัทผู้ผลิตชิปที่ใช้ในรถยนต์สามารถส่งออกชิปจากโรงงานในจีน ซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงด้าน Supply Chain ส่วนกลุ่มบริการสุขภาพปรับลดลง หลัง Novo Nordisk, Eli Lilly ปรับลดลงหลังได้ทำข้อตกลงลดราคายาลดน้ำหนักที่ขายในสหรัฐ ทางด้านผลการประชุม BOE อังกฤษมีมติ 5 - 4 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.0% ซึ่งตลาดยังคาด BOE มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ธ.ค. ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันพุธ CPI เยอรมัน ต.ค., วันศุกร์ GDP ยูโรโซน Q3/68 คาด +1.3%YoY, +0.2% QoQ  
  • ตลาดหุ้นเอเชียสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีนิเกอิ -0%, Kospi เกาหลีใต้ -3.7% WoW จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทค ฯ เช่น Advantest, SoftBank, Samsung Electronics, SK Hynix ปรับลดลงตามกลุ่มเทค ฯ สหรัฐ ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.08% WoW หลังนายก ฯ จีนเผยมูลค่าเศรษฐกิจจีนคาดจะปรับขึ้นที่ระดับ 23.9 ลล.ดอลลาร์ภายในเวลา 5 ปี ขณะที่ตัวเลขส่งออกจีน ต.ค. -1.1% & คาด +3% YoY กอปร ปธน.ทรัมป์ไม่อนุญาตให้ Nvidia ขายชิป AI รุ่นเล็กตัวใหม่ให้กับจีน ซึ่งบ่งชี้สงครามการค้าสหรัฐ - จีนอาจจะกลับมารุนแรงขึ้นได้อีกครั้ง ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้นตัวเลชเงินเฟ้อจีน ต.ค.+0.2% & คาด 0.0% YoY บ่งชี้กำลังซื้อผู้บริโภคเริ่มดีขึ้น
  • SET -0.50% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 62 หมื่น ลบ. -13.2% WoW สถาบันขาย 2,376 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,532 ลบ. ต่างชาติขาย 1,265 ลบ. และรายย่อยซื้อ 5,173 ลบ. WoW โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มปิโตรเคมี -11.8%, วัสดุก่อสร้าง -3.6% และบรรจุภัณฑ์ -3.4% WoW หลังข้อมูล PMI ภาคการผลิตของจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ พ.ย. ยังมีสัญญาณชะลอตัว ส่งผลลบต่อประมาณการณ์รายได้ของกลุ่มเหล่านี้ในงวด Q4/68 กอปรกับ PTTGC, IVL คาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิในงวด Q3/68 เป็นผลจากสเปรดผลิตภัณฑ์ที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่กลุ่มช่วยหนุนดัชนี คือ ไอซีที +3.2% WoW ได้ปัจจัยหนุนจากรายงานกำไร Q3/68 ของ ADVANC ที่ดีกว่าคาดจากรายได้ทางด้าน Data ยังขยายตัวได้ดี และ TRUE ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.19 บาท โดยภาพรวมกำไร Q3/68 ของ บจ.ที่ส่งงบแล้ว 110 แห่ง มีกำไรดีกว่า BB Consensus +4.6% สัปดาห์นี้ติดตามผลการประชุม ครม.ในการออก ม.แก้ไขหนี้ด้วยการตั้ง AMC ซื้อหนี้จากประชาชนไม่เกิน 1 แสนบาท/ราย และ ม.คนละครึ่งพลัสเฟส 2

     Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,295 – 1,300 แนวต้าน 1,310 - 1,315 คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวตามดัชนีภูมิภาค หลังภาวะชัตดาวน์สหรัฐใกล้ยุติในสัปดาห์นี้ และรอการรายงานกำไร Q3/68 ของ บจ.ต่าง ๆ  แนะนำทยอยซื้อกลุ่มคาดจะรายงานกำไร Q3/68 เติบโตดี เช่น CPN, WHAUP / เก็งกำไร ERW, CENTEL, AOT, CPAXT, BCJ, CRC คาดรายได้ในงวด Q4/68 มีโอกาสฟื้นตัวในช่วง High Season / KTB, KTC, SAWAD, MTC, BAM, CHAYO คาดได้ประโยชน์จาก ม.แก้ไขหนี้รายย่อยผ่านการตั้ง AMC
  • PRM* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.40 บาท) แนวโน้ม 3Q68 คาดกำไรปกติดีขึ้น QoQ, YoY เนื่องจากจำนวนเรื่อที่เพิ่มขึ้นใน 1H68 โดยเรือ FSU ลำใหม่ที่รับมาจะให้บริการได้เต็มไตรมาส ด้วย Utilization rate และอัตราค่าเช่าที่สูง ส่วนแนวโน้ม 4Q68 กำไรอาจจะลดลง QoQ เนื่องจากมีเรือ VLCC ที่เข้า Dry Dock แต่จะโต YoY ได้ตามกำลังการให้บริการที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจ OSV มีปัจจัยหนุนจากเรือ Crew Boat ใหม่ ที่ทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่ในเดือน ต.ค.และ ธ.ค.ส่วนแผนการลงทุนในการจัดหาเรือใหม่เพื่อทดแทนเรื่อที่มีอายุมาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและได้อัตราค่าเช่า ทั้งนี้ในปี 68-69 ตลาดคาดการณ์กำไรที่ 4 พันล้านบาท (+14%YoY) และ 2.5 พันล้านบาท (+3%YoY) valuation ไม่แพงด้วย Div.Yield เฉลี่ยต่อปีราว 8%

TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.35 บาท) ประกาศกำไร 3Q68 ที่ 90 ลบ. +49%YoY ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น +29%YoY จากโปรโมชั่นเครื่องดื่มและการขยายสาขาของ 7-Eleven และกาแฟพันธุ์ไทย โดยบริษัทยังรักษา Gross Margin ได้ดีที่ 32% แม้ต้นทุนกาแฟจะสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสะสม 9 เดือนแข็งแกร่งที่ 242 ลบ. +28%YoY IAA consensus คาดกำไรปี 69 ที่ 325 ลบ. +9%YoY dividend yield ดีที่ 10% valuation น่าลงทุนด้วย P/E ปัจจุบัน 10 เท่าตำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี 30%

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ธ.ค.+$0.32 อยู่ที่ $59.75 / บาร์เรล, Brent ม.ค. +$0.25 อยู่ที่ $63.63/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบปรับลดลงราว -2% หลัง EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 5.2 ล.บาร์เรล กอปรกับ Saudi Aramco เตรียมประกาศปรับลดราคาน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในเอเชียใน ธ.ค. ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติไม่เพิ่มกำลังการผลิตในช่วง Q1/69

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$18.80 อยู่ที่ $4,009.8 /ออนซ์. นักลงทุนยังเลือกถือทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐยังอยู่ในภาวะชัตดาวน์ กอปรกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐมีความผันผวนจากความกังวลต่อมูลค่าที่อาจสูงเกินไป

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +244.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -39.01 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +206.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +76.99 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.127 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +41 อยู่ที่ 2,104

(+) BitCoin เช้านี้ +4.30% อยู่ที่ 106,429 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 พ.ย.     สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 และแนวโน้มปี68

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

สรท. แถลงสถานการณ์การส่งออก 

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

13 พ.ย.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)  ( ต.ค.)

14 พ.ย.     CN อัตราการว่างงานของจีน ( ต.ค.)

EU ดัชนีจีดีพี (GDP) (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3) 

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, PRM*, BCPG*, KLINIQ, TFM*, ADVANC

 

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

มีแต่ขายออก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น กระแสทุนนอก นักลงทุนต่างชาติ มีแต่ขายหุ้นออก อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อ เศรษฐกิจ...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้