สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (7 พฤศจิกายน 2568 )-----ทุกครั้งที่หยิบ "ขนมในเซเว่นฯ" เบื้องหลังความอร่อย มักมาพร้อมเรื่องราวของคนทำที่น่าสนใจเสมอ ไม่ใช่เพียงสูตรเฉพาะแต่คือ "ความตั้งใจจริง" ของผู้ประกอบการไทย ที่ไม่ยอมแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลง พร้อมความคิดสร้างสรรค์และปรับตัวให้ทันพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ขนมแต่ละชิ้นไม่ได้แค่ตอบโจทย์รสชาติ แต่ยังสะท้อนหัวใจของผู้ประกอบการ ไทย
"ช็อกโกซิตี้" ช็อกโกแลตหัวใจเบลเยี่ยมที่เติบโตในเมืองไทยมายาวนาน 25 ปีเรื่องราวของ ช็อกโกซิตี้ (Chococity) จาก บริษัท แกลโลไทย จำกัด เริ่มต้นจาก จอห์น หลุยส์ เกรนดอร์จ นักธุรกิจชาวเบลเยี่ยมผู้หลงใหลในของหวาน และมีความตั้งใจอยากให้คนไทยได้ลิ้มรสช็อกโกแลตพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ตั้งแต่เปิดโรงงานในประเทศไทยเมื่อปี 2001 เขาพบว่าคนไทยมีรสนิยมและวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างจากชาวยุโรป คนเบลเยี่ยมกินช็อกโกแลตเฉลี่ยคนละ 800 กรัมต่อปี แต่คนไทยกินเพียง 100 กรัมต่อปี อีกทั้งคนไทยยังชอบรสชาติที่ทานง่าย และชอบอะไรใหม่ๆ ที่สนุก "ตลาดช็อกโกแลตไทย" จึงท้าทายกว่าที่คิด จากโรงงานเล็กๆ โปรโมทแบรนด์ด้วยการออกบูธตามงานแฟร์ วางขายตามโรงแรม และสนามบิน ช็อกโกซิตี้ ค่อยๆ เติบโตจากช็อกโกแลตพรีเมียม จนได้พบกับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เมื่อได้ร่วมงานกับ เซเว่น อีเลฟเว่น เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนนั้น จอห์น หลุยส์ เล่าว่าได้มีโอกาสเจอทีมเซเว่นฯ และเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเซเว่นฯ ถึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะทีมมีความเข้าใจตลาดผู้บริโภคไทยมากๆ ทีมเซเว่นฯ เข้ามาร่วมให้คำแนะนำ ช่วยคิดคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ปรับสูตร ออกแบบรสชาติและแพ็คเกจจิ้งที่ตรงใจ
จากความร่วมมือกับเซเว่นฯ ช็อกโกซิตี้ได้ไอเดียการทำ "ช็อกโกแลตธีมเทศกาล" ออกขายตลอดทั้งปี เช่น คริสต์มาส วาเลนไทน์ ตรุษจีน สงกรานต์ หรือฮาโลวีน ที่เป็นกระแสต้องยกให้กับธีมButterBear ที่ขายหมดภายในระยะเดือนครึ่ง และล่าสุดกับ "ช็อกโกซิตี้ ไทยโกสต์" ช็อกโกแลตธีมผีไทยสุดน่ารัก ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่งของแบรนด์ โดยช็อกโกซิตี้ ยังได้รับรางวัล "SME ความคิดสร้างสรรค์" จากเวที เซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอียั่งยืน 2025 ที่ผ่านมาอีกด้วย แสดงถึงความพยายาม และยังเป็นกำลังใจให้พัฒนาช็อกโกแลตไทยสู่ระดับสากลต่อไป
นอกจากสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ช็อกโกซิตี้ ยังเป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรไทยเห็นโอกาสในพืชโกโก้ พืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง และกำลังเติบโตไปพร้อมกันกับตลาดขนมของไทย "เราผลิตช็อกโกแลตได้กว่า 200,000 ชิ้นต่อซีซั่นส่งให้กับเซเว่น ความมุ่งมั่นของแบรนด์คือการเลือกใช้วัตถุดิบในประเทศกว่า 70% ทั้งผงโกโก้ นมผง และน้ำตาล เราทำงานร่วมกับเกษตรกรในภาคใต้ ในการพัฒนาโกโก้ไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น ที่ผ่านมา เราได้ลงพื้นที่ทั้งชุมพร หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างความเข้าใจและโนว์ฮาวการดูแลสวนโกโก้ให้ยั่งยืน ทั้งให้ความรู้เรื่องการปลูก วิธีการดูแล ตลอดจนสนับสนุนเงินทุนให้ได้โกโก้ที่มีคุณภาพ ปัจจุบันไทยผลิตผลโกโก้ได้ 3,200 ตันต่อปี เราเชื่อมั่นว่าเกษตรกรโกโก้สามารถเติบโตได้ไกลกว่านี้ หากมีผู้ประกอบการคอยหนุนอีกทาง" จอห์น หลุยส์ เล่า
"ไร่ทับทิมสยาม" กล้วยสติ๊กสุดฮอต จากสวนกล้วยเล็กๆ สู่ขนมเพื่อสุขภาพบนเชลฟ์เซเว่นฯ
อีกหนึ่งแบรนด์ที่สะท้อนพลังของความตั้งใจ คือ "ไร่ทับทิมสยาม" แบรนด์ผลไม้อบแห้งจากเพชรบุรี ที่เริ่มต้นจากครอบครัวเล็กๆ ที่ปลูกกล้วยจนล้นสวน แล้วพลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส กุลยา กนกวรกาญจน์ ลูกสาวของผู้ก่อตั้ง เล่าว่า เดิมทีคุณพ่อเพียงอยากทำเกษตรหลังเกษียณ อยากหาซื้อที่ดินเพื่อปลูกกล้วย มะละกอ และส้มโอ แต่ผลผลิตกลับมีมากเกินความต้องการ จึงเริ่มทดลองทำ "กล้วยตากอบแห้ง" ขายออนไลน์และออกบูธต่างๆ จนได้เข้าสู่เชลฟ์เซเว่นฯ เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา จนเป็นที่รู้จักของลูกค้าต่างชาติอย่างเวียดนามและยุโรป
"เราไม่ได้มาจากสายอาหารเลยค่ะ พื้นเพเป็นคนสุพรรณบุรีโตมาจากธุรกิจผลิตเบาะนั่ง รถทัวร์ รถบัส แต่พอตัดสินใจลงมือทำธุรกิจอาหารก็รู้เลยว่ามันท้าทายมาก ต้องใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่คัดกล้วยไปจนถึงการออกแบบแพ็คเกจจิ้ง ส่งผลให้กล้วยตากสูตรบ้านๆ กลายเป็น "กล้วยสติ๊กอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์" และต่อยอดด้วยไอเดียใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะกับตลาดยุคใหม่ ทั้งกล้วยสติ๊กเคลือบช็อกโกแลต และล่าสุดคือ "กล้วยสติ๊กเคลือบนมรสสตรอว์เบอร์รี่" ที่เปิดตัวในเซเว่นฯ เมื่อเดือนกันยายน 2568 ได้รับการตอบรับดีเกินคาด" กุลยา เล่าเอกลักษณ์ของ ไร่ทับทิมกล้วยสติ๊ก คือการเลือกใช้กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่องสายพันธุ์ดี และปากช่อง 50 จากเกษตรกรท้องถิ่น และผ่านการรับรองมาตรฐาน อย., GMP, ฮาลาล และการออกแบบแพ็คเกจจิ้งที่โดดเด่น ซึ่งแบรนด์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ แนวคิดคือต้องออกแบบให้ขนมเราโดดเด้งออกมาจากเชลฟ์ ให้ลูกค้าหยิบให้ได้
"ต้องขอบคุณ เซเว่นฯ ที่เข้ามาช่วยเราพัฒนาตั้งแต่กระบวนการผลิต คุณภาพสินค้า ไปจนถึงดีไซน์แพ็คเกจจิ้ง ทีมงานยังลงพื้นที่มาแนะนำการวางระบบการผลิตให้ทันออเดอร์ และให้คำปรึกษาการทำการตลาดให้ตรงใจผู้บริโภค เราอยากให้กล้วยอบแห้งไทยกลายเป็นขนมสุขภาพที่คนทั่วโลกได้รู้จัก โดยปี 2567 ทำยอดขายได้กว่า 15 ล้านบาท และปีนี้ตั้งเป้าไว้ 20 ล้านบาท"
สำหรับกุลยา ความภูมิใจไม่ได้อยู่ที่ยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชนและพัฒนาท้องถิ่นไปพร้อมกัน ปัจจุบันโรงงานมีพนักงานกว่า 20–30 คน เป็นคนในพื้นที่ ที่เริ่มลุยเริ่มเติบโตมาด้วยกัน เราดีใจที่คนในพื้นที่มีงานทำ ใกล้บ้าน อยู่กับครอบครัว และมีรายได้มั่นคง นี่แหละคือความยั่งยืนที่แท้จริงของธุรกิจเล็กๆ แบบเรา
ทั้ง "ช็อกโกซิตี้" และ "ไร่ทับทิมสยาม" คือภาพสะท้อนของผู้ประกอบการ SME ไทยที่เติบโตด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่น และแรงสนับสนุนจาก "เซเว่น อีเลฟเว่น" ที่ช่วยให้แบรนด์ท้องถิ่นก้าวสู่ระดับประเทศ สร้างอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชน พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจให้ SME ไทยก้าวต่อไปอย่างมั่นคง และยั่งยืน ตามแนวคิดที่มุ่งสนับสนุน SME ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน