สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(7 พฤศจิกายน 2568)-------กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงกรณีมีข่าวเผยแพร่เกี่ยวกับทนายความชาวฝรั่งเศสถูกมิจฉาชีพปลอมแปลงเอกสารและดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทผ่านระบบออนไลน์ของกรมฯ โดยมีการนำชื่อผู้เสียหายออกและใส่ชื่อมิจฉาชีพแทน ก่อนที่จะมีการถอนเงินจากบัญชีธนาคารไปกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้เสียหาย และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทันทีที่รับทราบเรื่อง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำขอจดทะเบียนดังกล่าวในทันที ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงตัวผู้เสียหายออกจากการเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวข้างต้น มีนางสาว จ. อาชีพผู้ทำบัญชีอิสระ ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพัทลุง เป็นผู้รับจ้างดำเนินการยื่นคำขอจดทะเบียน โดยได้มีการโฆษณาบริการรับจ้างจดทะเบียนและรับทำบัญชีผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ต่อมามีผู้ติดต่อว่าจ้างให้ดำเนินการยื่นจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท โดยให้ผู้เสียหายออกจากกรรมการและให้นาย น. เข้าเป็นกรรมการแทน โดยรับค่าตอบแทนตามที่ตกลงกัน แต่ในการดำเนินการดังกล่าวผู้ทำบัญชีอิสระซึ่งเป็นผู้รับจ้าง มิได้มีการตรวจสอบว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นกรรมการเดิมของบริษัทได้รับทราบและยินยอมให้มีการเปลี่ยนเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งตามระเบียบต้องให้กรรมการเดิมซึ่งเป็นผู้เสียหายลงชื่อต่อหน้าตนเอง แต่ปรากฏว่าไม่ได้ให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อต่อหน้าตนเองจริงตามหลักเกณฑ์ที่กรมฯ กำหนดไว้ การกระทำของ นางสาว จ. ผู้รับจ้างจดทะเบียน ถือเป็นการปฏิบัติผิดข้อตกลงและวัตถุประสงค์ในการใช้บริการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของกรมฯ ซึ่งขณะนี้กรมฯ ได้เพิกถอนสิทธิการเข้าใช้งานระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางออนไลน์ของนางสาว จ. แล้ว

อธิบดีพูนพงษ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีของผู้เสียหายตามข่าวแล้ว กรมฯ ยังได้เพิกถอนการจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 68 และขยายผลการตรวจสอบไปยังนิติบุคคลรายอื่นๆ ที่มีการจดทะเบียนเปลี่ยนกรรมการเดิมออกซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงและเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกับกรณีของผู้เสียหาย เพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้กรรมการเดิมรับทราบและป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปด้วย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตระหนักถึงความร้ายแรงและผลกระทบของเหตุการณ์นี้ต่อความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมเป็นอย่างยิ่ง และขอยืนยันว่า กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมทั้งเร่งพิจารณาหามาตรการป้องกันเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

กรมฯ ขอเน้นย้ำและเตือนให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่ใช้บริการรับจ้างจดทะเบียนเพิ่มความระมัดระวังสูงสุดในการส่งมอบข้อมูลและเอกสารส่วนตัว และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้รับจ้างอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีการโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ ในทางกลับกันขอเตือนผู้ทำบัญชี ทนายความและผู้ให้บริการรับจดทะเบียนปฏิบัติตามระเบียบของกรมฯ อย่างเคร่งครัด ซึ่งกรณีทราบว่าผู้ทำบัญชีอิสระรายนี้ซึ่งเป็นผู้รับจ้างกำลังถูกตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ขอให้หลีกเลี่ยงการซื้อ-ขายบริษัท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ถูกหลอกลวงหรือใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดของมิจฉาชีพได้

ทั้งนี้ การจดทะเบียนและเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญของนิติบุคคลทุกครั้ง ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลเป็นสำคัญและหากประชาชนทั่วไปพบเบาะแสการกระทำความผิดสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน Call Center 1570