สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5 พฤศจิกายน 2568)----สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลหวั่นไทยขาดตอนการส่งเสริมนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลในขณะที่ประเทศอื่นในภูมิภาคต่างอยู่ในวาระหลักของรัฐบาล ชี้อาจพลาดโอกาสการลงทุนจากผู้เล่นระดับโลกที่ให้ความสนใจลงทุนในประเทศที่มีกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลชัดเจน มั่นใจงาน Thailand Blockchain Week 2025 แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้
นายนเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลได้รับการยอมรับในระดับโลกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังการรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องออกมา โดยเฉพาะกฎหมาย GENIUS Act ที่อนุญาตให้สามารถผลิต Stablecoins ที่มีสกุลเงินดอลลาร์หนุนหลัง 100% จนทำให้สถาบันการเงิน บริษัทเอกชน ฟินเทค ระดับโลกตลอดจนรัฐบาลของบางประเทศต่างหันมาออก Stablecoins ของตัวเอง
ขณะที่ประเทศต่าง ๆ หันมาทบทวนและยกระดับกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในภูมิภาคเดียวกับไทยอย่างเวียดนามและมาเลเซีย ต่างมีแผนที่จะพัฒนานโยบายที่จะส่งเสริมเทคโนโลยีดังกล่าวให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
"ข้อสังเกตคือประเทศอื่นในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม รัฐบาลหรือผู้นำประเทศจะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยตัวเอง ขณะที่ประเทศไทยเอง ช่วงที่ผ่านมามีนโยบายที่จะส่งเสริมการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจดั้งเดิมอย่างเช่น การเสนอขาย G Token รวมถึงแนวความคิดที่จะออกบัตรคริปโทฯ ที่สามารถนำมาใช้จ่ายร้านค้าในประเทศไทย สมาคมฯ จึงขอเสนอให้รัฐบาลชุดต่อไปที่จะเข้าบริหารประเทศแนวทางส่งเสริมเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ในนโยบายของรัฐบาลด้วยเพื่อไม่ให้พัฒนาการของไทยขาดตอน"
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศกลุ่มแรกของโลกที่มีกฎหมายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจนและยังมีพัฒนาการของการกำกับดูแลที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสินทรัพย์ลูกค้าผ่านคัสโทเดียน การจัดการกับบัญชีม้าและการใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน รวมถึงนโยบายการส่งเสริมไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนด้วยดิจิทัลโทเคน ทำให้ไทยมีโอกาสเป็นหนึ่งในเป้าหมายของผู้เล่นระดับโลกที่จะเข้ามาลงทุน ถ้าหากมีการวางนโยบายกำกับดูแลและส่งเสริมอย่างถูกทาง
"สมาคมฯ มองว่ากฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลไทยรวมถึงนโยบายที่มีอยู่เป็นในทิศทางเดียวกับแนวโน้มในระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Stablecoin และ Real World Asset ซึ่งมีโอกาสที่จะเติบโตได้ในระดับสูง โดยประเทศไทยเคยติดอันดับสูงสุดที่ 8 จากการจัดอันดับ Global Adoption Index ที่จัดโดย Chainanalysis ในปี 2022 แต่ปีล่าสุดไทยลงมาอยู่ในอันดับที่ 17 และประเทศในภูมิภาคเดียวกันอย่างสิงคโปร์ เวียดนามและอินโดนีเซียต่างมีอันดับที่สูงกว่าเราทั้งหมด แต่ถ้าหากภาครัฐมีการวางโครงสร้างนโยบายกำกับดูแลและส่งเสริมอย่างถูกทาง ไทยมีโอกาสที่จะกลับมาอยู่ในสิบอันดับแรกของโลกได้อีกครั้ง"
ทั้งนี้สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยได้ร่วมกับ "บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด" จัดงาน Thailand Blockchain Week 2025 ระหว่างวันที่ 8 - 9 พฤศจิกายน 2568 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับเกียรติจากนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เป็นประธานเปิดงาน โดยจัดงานติดต่อกันเป็นปีที่ 8 นับตั้งแต่ปี 2561
นอกจากเป็นงานที่แสดงศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังเป็นเวทีเชื่อมต่อตลาดไทยกับผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกออย่างเช่น Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกอย่าง USDT ร่วมด้วย TRON หนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำระดับสากล และ BinanceTH กระดานแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล รายใหญ่ของประเทศไทยที่มีคู่เหรียญเทรดมากที่สุด
เนื้อหาการสัมมนาในงานกว่า 15 session ที่ครอบคลุมตั้งแต่ Bitcoin, Ethereum, Stablecoins, CBDC ไปจนถึงอนาคตของ Digital Reserve และ Digital Finance อาทิ "เทรดหรือถือ? : ต้องเลือกทางไหนถ้าอยากพลิกชีวิตด้วยคริปโท", "เงินฝืดคือหายนะ : ระบบเศรษฐกิจที่ใช้ Bitcoin จะหยุดพัฒนาและพังพินาศจริงหรือ?", Bringing DeFi To The Mainstream: Crypto's Next Frontier, อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ในวันที่สหรัฐฯ โอบรับ Bitcoin
"มั่นใจว่าการจัดงาน Thailand Blockchain Week 2025 จะเป็นการแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เป็นที่รับรู้ของทั่วโลกซึ่งจะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจในไทยเข้มแข็งขึ้นและสามารถออกไปแข่งขันในระดับโลกได้"