สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5พฤศจิกายน 2568)---------นายพรชลิต พลอยกระจ่าง กรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF เตรียมจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องครั้งที่ 36 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.137224 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,097.79 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งมีกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 3BBIF จนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 36 นี้ กองทุนจ่ายเงินปันผล รวมทั้งสิ้น 7.961774 บาทต่อหน่วยลงทุน ขณะเดียวกัน จ่ายเงินลดทุนไปแล้วทั้งหมด 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.328400 บาทต่อหน่วยลงทุน รวมจ่ายเงินปันผลและเงินลดทุนทั้งสิ้นเป็นเงิน 9.290174 บาท

สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน 3BBIF ในไตรมาส 3 ปี 2568 กองทุนมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 1,611.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.34% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.29% จากไตรมาสก่อน ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน 199.9 ล้านบาท สินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เท่ากับ 1,411.9 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 20.26% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 51.44% จากไตรมาสก่อน

สินทรัพย์รวมของกองทุน ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 79,538.3 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยเงินลงทุนในทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง 76,000.0 ล้านบาท เงินลงทุนในหลักทรัพย์และเงินฝากธนาคาร 3,531.6 ล้านบาท และสินทรัพย์อื่น 6.7 ล้านบาท หนี้สินรวมมีจำนวน 10,821.4 ล้านบาท สินทรัพย์สุทธิ (NAV) ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 68,716.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8.5896 บาทต่อหน่วย

การจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน

กองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้ง ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมเพียงพอ โดยการจ่ายเงินปันผลใดๆ จะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วในแต่ละรอบปีบัญชี

นอกจากนี้ กองทุนจะต้องพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้สอดคล้องกับสถานะเงินสดและความจำเป็นในการดำรงเงินสดของกองทุน โดยปรับปรุงกำไรสุทธิด้วย 1. รายการหักสำรองการชำระหนี้เงินกู้ยืม และ 2. รายการกำไรที่ไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gain) จากการประเมินค่า หรือสอบทานการประเมินค่าของกองทุน ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานก.ล.ต. กำหนด อย่างไรก็ตาม การพิจารณาจ่ายเงินปันผลตามเกณฑ์ดังกล่าว ทางกองทุนจะพิจารณาจ่ายผลประโยชน์ให้สอดคล้องกับสถานะเงินสดประจำปีเช่นกัน

ทั้งนี้ เงินปันผลสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลซึ่งมิใช่นิติบุคคล) ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลา 10 ปีภาษีต่อเนื่องกันนับแต่ปีภาษีที่มีการจัดตั้งกองทุน (กองทุนจดทะเบียนปี พ.ศ.2558) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 544) พ.ศ.2555 ได้สิ้นสุดแล้วในปี พ.ศ.2567 ดังนั้น นับตั้งแต่ปีปฏิทิน 2568 เป็นต้นไป เงินปันผลจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ร้อยละ 10