Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

99

 


ปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน กดดัน SET ผันผวน

HORIZON MARKET VIEW
•ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาดีดตัวราว 0.1% - 0.6% โดยบริษัทในS&P 500 มากกว่า 60% รายงานผลประกอบการดีเกินคาด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ยังคงเป็นผู้นำตลาด อย่างไรก็ตาม แม้รายงานผลประกอบการกลุ่มเทคฯหลายบริษัทจะดีเกินคาด แต่การปรับเพิ่มงบลงทุนปี 2569 ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการใช้จ่ายเกินตัว สะท้อนจากการลงทุนใน DATA CENTERS พุ่งสูงสวนทางกับการใช้จ่ายภาคเอกชนโดยรวมในสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวในปี 2568
• GOVERNMENT SHUTDOWN ของสหรัฐฯ รอบนี้ อาจยาวนานสุดเป็นประวัติศาสตร์ หากผ่านพ้นวันที่ 4 พ.ย. 68 ไปแล้ว (เกิน 34 วัน)
• OPEC+ เตรียมหยุดเพิ่มกำลังการผลิตในช่วง 1Q69 หลังจากเพิ่มอีก 137,000บาร์เรล/วันในเดือน ธ.ค. 68

 


REGION RADAR
•รายได้จากการเล่นเกมในมาเก๊า (GGR) สำหรับเดือน ต.ค. +16%YOY เพิ่มขึ้นสู่ระดับ MOP 2.4 หมื่นล้าน ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปีหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังมาเก๊าเพิ่มขึ้น และCONCERT EVENT ที่หนาแน่น
• สัดส่วน MARKET SHARE ในเดือน ก.ย. ออกมาผสมผสาน มีทั้งบริษัทที่สามารถเพิ่ม MARKET SHARE ได้ต่อเนื่องและมีบางบริษัทถูกแย่ง MARKET SHARE ไป แนะนำเก็งกำไร SANDS CHINA (1928HK) และ MGM CHINA (2282 HK)จาก MARKET SHARE ที่เพิ่มขึ้น

 


SYNAPSE STRATEGY
•สัปดาห์นี้อยู่ในช่วงรายงานงบ 3Q68 ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ รายงานมาแล้ว 1ใน 3 กำไรดีกว่าคาด 13% และหุ้นส่วนใหญ่กำไรดีกว่าคาดเกิน 10%ราคาจะขยับขึ้น ส่วนไทยเริ่มเห็นสัญญาณกำไรดีกว่าคาดราว 10%
• ภาพรวมเริ่มเห็นการขายทำกำไรหุ้น DR ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 ใน 3ปรับตัวลง สัปดาห์นี้กังวล GOVERNMENT SHUTDOWN นานสุดในประวัติศาสตร์ ศาลฎีกาไต่สวนทรัมป์ประเด็น TARIFF แนะหุ้นสะสม หุ้น VALUE คือ CPF, BLA, OR, OSP, BANPU

 

THAI FOCUS
•ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนผ่อนคลายลง และหาก 5 พ.ย.68ศาลฎีกานัดไต่สวนคดี TRUMP และมีแนวโน้มว่าเป็นการกระทำที่ผิดจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในมุมภาพตลาดส่งออกและSUPPLY CHAIN ต่างๆ
• เศรษฐกิจไทย ธปท.ประเมิน 4Q68 การส่งออกสินค้าต่างๆ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจ เสริมแรงด้วยโครงการสนับสนุนจากภาครัฐฯ น่าจะทำให้GDP ปี 2568 มีโอกาสขยายตัวเกิน+2.2% ดังที่ ธปท.คาดไว้ก่อนหน้าได้

HORIZON MARKET VIEW
เฝ้าระวังความเสี่ยง
ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาดีดตัวราว 0.1% -0.6% โดยมากกว่า 60% ของบริษัทใน S&P 500รายงานผลประกอบการเกินคาด ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ยังคงเป็นผู้นำตลาด ซึ่งได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ AMAZON และ APPLE บวกกับ NVIDIA ยังมีความหวังในการขายชิป BLACKWELLให้จีน

อย่างไรก็ตาม แม้รายงานผลประกอบการกลุ่มเทคฯ หลายบริษัทจะดีเกินคาด แต่การปรับเพิ่มงบลงทุนปี 2569ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการใช้จ่ายเกินตัว สะท้อนจากการลงทุนในศูนย์ข้อมูล (DATA CENTERS) พุ่งสูงสวนทางกับการใช้จ่ายภาคเอกชนโดยรวมในสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวในปี 2568

นอกจากนี้BLOOMBERG ยังคาดว่าค่าใช้จ่ายรวมของ AMAZON, MICROSOFT, GOOGLE และ ORACLE ก็มีแนวโน้มเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญจากค่าใช้จ่ายด้านคลาวด์ อีกทั้งอัตราค่าเสื่อมต่อสินทรัพย์ (DEPRECIATIONTO-ASSET RATIO) ของ AMAZON คาดว่าจะเพิ่มเป็น 15% ในปี 2569แสดงให้เห็นว่าอุปกรณ์ AI มีอายุการใช้งานสั้น (ราว 3–5 ปี) และต้องลงทุนใหม่ก่อนคืนทุน

 

อีกประเด็นความเสี่ยงคือ GOVERNMENT SHUTDOWN ของสหรัฐฯ รอบนี้ อาจยาวนานสุดเป็นประวัติศาสตร์หากผ่านพ้นวันที่ 4 พ.ย. 68 ไปแล้ว(เกิน 34 วัน) โดยผลสำรวจของ POLYMARKET เผยว่า สภาคองเกรสจะผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณไม่เกินวันที่ 30 พ.ย. 68 ด้วยความน่าจะเป็น 90%

ทั้งนี้ สำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ (CBO) ระบุว่า GOVERNMENT SHUTDOWN ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 18,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมประเมินว่าจะมีเม็ดเงินสูญหายที่ไม่สามารถกู้คืนได้อยู่ระหว่าง 7,000 –14,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการปิดหน่วยงาน ส่วน GDP สหรัฐฯ ใน4Q68 อาจต่ำลง 1% ซึ่งในกรณี SHUTDOWN ลากยาวถึง 6 สัปดาห์ เสี่ยงกดดันเศรษฐกิจ 1.5% (28,000 ล้านดอลลาร์) และหากลากยาวถึง 8 สัปดาห์ เสี่ยงกดดันเศรษฐกิจ 2% (39,000 ล้านดอลลาร์) นอกจากนี้ คาดการณ์ข้าราชการ 650,000 คน ถูกพักงาน หากนับรวมอาจดันอัตราว่างงานขึ้นได้ถึง 0.4%


REGION RADAR
รายได้จากการเล่นเกมมาเก๊าในเดือน ต.ค. โตเหนือคาด
รายได้จากการเล่นเกมในมาเก๊า (GGR) สำหรับเดือน ต.ค. +16% YOY เพิ่มขึ้นสู่ระดับ MOP2.4 หมื่นล้าน ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี หนุนจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังมาเก๊าเพิ่มขึ้น และ CONCERT EVENT ที่หนาแน่น โดยเดือน ต.ค. มี JACKSON WANG มาจัดงานแสดงคอนเสิร์ตที่ GALAXY ENTERTAINMENT และในเดือน พ.ย.จะมี PP KRIT มาแสดงคอนเสิร์ตที่ SANDS CHINA


นอกจากนี้ สัดส่วน MARKET SHARE ในเดือน ก.ย. ออกมาผสมผสาน มีทั้งบริษัทที่สามารถเพิ่ม MARKETSHARE ได้ต่อเนื่องและมีบางบริษัทถูกแย่ง MARKET SHARE ไป โดยบริษัทที่มี MARKET SHARE เพิ่มขึ้นโดดเด่นและต่อเนื่องได้แก่ SANDS CHINA และ MGM CHINA ขณะที่ GALAXY ENTERTAINMENT และ SJM มี
MARKET SHARE ที่ลดลง

แนะนำเก็งกำไร SANDS CHINA (1928 HK) และ MGM CHINA (2282 HK) หลังรายได้จากการเล่นเกม (GGR)ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 5 ปี และทั้งสองบริษัทมี MARKET SHARE เพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง

 

THAI FOCUS
ปัจจัยภายนอกเริ่มดูดี ... ส่วนปัจจัยภายในยังไปต่อ หุ้นกลุ่มอะไรน่าสนใจ
หลังจากที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ(สหรัฐฯ-จีน) เจรจากันคลายตึงเครียดลงในหลายประเด็นทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มที่ข้อตกลงจากสหรัฐฯ จะระงับภาษีตอบโต้บางส่วนต่อจีนออกไปอีก 1 ปี, ระงับแผนการที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน 100%ตามเคยขู่ไว้,จะขยายเวลาการยกเว้นภาษีตามมาตรา 301 บางรายการที่จะหมดอายุในวันที่ 29 พ.ย. 68 ออกไปจนถึงวันที่ 10 พ.ย. 69, ปรับลดภาษีศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลให้กับจีนลงเหลือ 10% จากเดิม 20% โดยมีผลบังคับใช้ 10 พ.ย. 69 ส่วนข้อตกลงจากจีน จะระงับการเก็บภาษีสินค้าเกษตรสหรัฐฯ และยกเลิกการขึ้นบัญชีดำบริษัทอเมริกัน, จะกลับมาเปิดตลาดและสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จำนวนมาก โดยเฉพาะถั่วเหลือง, จะยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก และแร่ธาตุสำคัญอื่น ๆ, จะยุติการไหลเข้าของสารตั้งต้นที่ใช้ผลิตยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ

ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ภาพตลาดส่งออกและ SUPPLY CHAIN ในอาเซียน(รวมไทย) ได้รับการผ่อนคลายลง รวมถึงไทยอาจได้รับโอกาสด้านผลิตภัณฑ์ที่จีนหรือสหรัฐหดตัวในช่วงก่อนหน้านี้ซึ่งย้ายฐานการผลิตไปยังอาเซียน(รวมไทย) ถือเป็นโอกาสในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ และอาจได้แรงหนุนทางเศรษฐกิจหากวันที่5 พ.ย.68 ศาลฎีกานัดไต่สวนคดี TRUMP และมีแนวโน้มว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อประเทศอื่นๆ ส่วนเศรษฐกิจไทย ธปท.ประเมินว่าในไตรมาส 4 การส่งออกสินค้าต่างๆ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะเป็นตัวพยุง


เศรษฐกิจ เสริมแรงด้วยโครงการสนับสนุนจากภาครัฐฯ ซึ่งน่าจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP)
ปี 2568 มีโอกาสขยายตัวเกิน +2.2% ดังที่คาดไว้ก่อนหน้าได้ ซึ่งกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับ SENTIMENT เชิงบวกเช่น กลุ่ม GLOBAL PLAY(PTTEP BANPU PTTGC) กลุ่ม LOGISTIC(SJWD LEO III AMA) กลุ่มท่องเที่ยวการบิน(AOT BA ERW CENTEL) กลุ่มค้าปลีก(CPALL BJC CPAXT) เป็นต้น


SYNAPSE STRATEGY
สัปดาห์รายงานงบ 3Q68 พร้อมรับมือปัจจัยเสี่ยงใหม่
สัปดาห์นี้อยู่ในช่วงรายงานงบ 3Q68 ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ รายงานมาแล้ว 1 ใน 3 กำไรดีกว่าคาด 13% และหุ้นส่วนใหญ่กำไรดีกว่าคาดเกิน 10% ราคาจะขยับขึ้น ส่วนไทยเริ่มเห็นสัญญาณกำไรดีกว่าคาดราว 10%


ภาพรวมเริ่มเห็นการขายทำกำไรหุ้น DR ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 ใน 3 ปรับตัวลง สัปดาห์นี้กังวล GOVERNMENTSHUTDOWN นานสุดในประวัติศาสตร์ ศาลฎีกาไต่สวนทรัมป์ประเด็น TARIFF แนะหุ้น สะสม หุ้น VALUE คือCPF, BLA, OR, OSP, BANPU

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

LEO สุดสตรอง! คว้า CGR 4 ดาว สะท้อนองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง

LEO สุดสตรอง! คว้า CGR 4 ดาว สะท้อนองค์กรธรรมาภิบาลแข็งแกร่ง

WASH เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

WASH เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้